บูรณาการกลไกการประสานงานระหว่างกรุงศรีและกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
ให้เป็นระบบดิจิทัล ลดระยะเวลา-ลดภาระประชาชน-เพิ่มความโปร่งใส
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดย พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (กรุงศรี) โดย นายตุลย์ โรจน์เสรี ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านข้อมูลและการวิเคราะห์ระดับองค์กร ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการบูรณาการข้อมูลและระบบเพื่อการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระหว่างกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กับ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดตัวต้นแบบการเชื่อมต่อข้อมูลแบบเรียลไทม์ผ่านระบบ API เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการทำงาน รวมถึงการลดระยะเวลาในการดำเนินการประสานข้อมูลและการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการบัญชีและช่องทางธุรกรรม เพื่อป้องกันความเสียหายลุกลาม พร้อมร่วมกันขับเคลื่อนมาตรการป้องกันเชิงรุก ใช้ Data Analytics วิเคราะห์พฤติกรรมต้องสงสัย มุ่งลดเหตุอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและอาชญากรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น สำหรับในงานเปิดตัวต้นแบบการเชื่อมต่อข้อมูลแบบเรียลไทม์ผ่านระบบ API ได้รับเกียรติจาก พล.ต.ต. ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นตัวแทนในพิธี
ความร่วมมือนี้เป็นโครงการนำร่อง (Pilot Project) มุ่งทดสอบการทำงานต้นทาง-ถึง-ปลายทาง (end-to-end) โดยการผนวกกับระบบแจ้งความออนไลน์ของ บช.ก. ก่อนขยายผลไปยังขอบเขตและบริการอื่นที่เหมาะสม ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตามมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูล และกลไกกำกับดูแลร่วมอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมภายใต้โครงการความร่วมมือนี้ ส่งผลให้เมื่อมีการแจ้งความผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ของ บช.ก. และพบว่าบัญชีธนาคารของผู้ต้องสงสัยหรือบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องเป็นบัญชีของกรุงศรี พนักงานสอบสวน หรือเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบสามารถส่งหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อดำเนินการประสานข้อมูลและการดำเนินการต่างๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการบัญชีและช่องทางธุรกรรม ไปยังธนาคารได้ทันทีบนระบบดิจิทัล ในหลักนาที เพื่อประกอบการสืบสวนและสอบสวนต่อไป ช่วยให้การดำเนินคดีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็วและโปร่งใส ลดภาระด้านเอกสารและการเดินเรื่องระหว่างหน่วยงาน เพิ่มความสะดวกในการแจ้งความเพียงครั้งเดียว และเจ้าหน้าที่สามารถติดตามสถานะ การทำงานได้แบบเรียลไทม์ อีกทั้งยังช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พบว่าสถิติผลการจับกุม ในปัจจุบันประมาณ 60 - 80% ของคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และอาชญากรรมที่เกี่ยวกับการเงิน มีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับประชาชนจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น ปฏิบัติการ CIB breaks up online scam syndicate สกัดกั้นภัยออนไลน์ข้ามชาติ มูลค่าความเสียหายกว่า 800 ล้านบาท , ปฏิบัติการ "GHOST COMPANY" จับบริษัทผีแฝงเปิดบัญชีม้า 6 จุด ในพื้นที่วังน้อย ตรวจค้นกลุ่มบริษัทต้องสงสัยที่ไม่มีการประกอบกิจการจริง ตามที่มีการแจ้งจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นการจดจัดตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อใช้ชื่อของบริษัทมาเปิดบัญชีม้าและใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินในรูปแบบของบริษัทจำกัด , รวบนายทุนตัวการใหญ่ขบวนการจัดหาบัญชีม้าข้ามชาติ และคดี Shell Company (ม้า Worldwide) และทลาย 'คอกม้าจีนเทา' เครือข่ายฟอกเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวบ 31 ผู้ต้องหา ไทย-จีน ยึดทรัพย์กว่า 6 ล้านบาท ซึ่งจากผลการดำเนินการตรวจค้นจับกุม ที่ผ่านมานั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของทางสถาบันการเงิน ในการยกระดับมาตรการจัดการกับบัญชีม้าที่เป็นของบุคคล และบัญชีม้าที่เป็นนิติบุคคล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวข้อง และลดผลกระทบต่อประชาชน โดยความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยบูรณาการกระบวนการการประสานข้อมูลและการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ระหว่างกรุงศรีกับบช.ก. เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลผ่านทางระบบ API แบบเรียลไทม์ ช่วยลดระยะเวลาในการดำเนินการ ลดภาระของประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อ เพิ่มความโปร่งใสในการตรวจสอบ และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการทำธุรกรรมออนไลน์
ทั้งนี้ กรุงศรี ในฐานะสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบของประเทศ (D-SIB) มุ่งสร้างระบบนิเวศทางการเงินที่ปลอดภัยและยั่งยืน พร้อมสนับสนุนการป้องกันเชิงรุก และเป็นพันธมิตรทางเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับความปลอดภัยทางการเงินของประเทศ ความร่วมมือนี้จึงเป็นก้าวสำคัญในการนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการทำงานของภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดและปลดล็อกปัญหาเรื่องของระยะเวลาและขั้นตอนการดำเนินงานที่ซับซ้อน อีกทั้งยังเพิ่มความแม่นยำและความรวดเร็วในการสืบสวนคดีอาชญากรรมทางการเงิน ซึ่งจะส่งผลดีต่อประชาชนผู้เสียหายโดยตรง และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมสังคมไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน สอดคล้องกับหลักการด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Governance) ภายใต้กรอบ ESGทั้งสองหน่วยงานยังคงเดินหน้าความร่วมมือด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับความปลอดภัยทางการเงินในสังคมไทย พร้อมทั้งสร้างมาตรฐานใหม่ของการประสานงานระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ที่เน้นความรวดเร็ว โปร่งใส และยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยกรุงศรีจะให้การสนับสนุนด้านเทคนิคเพื่อเชื่อมโยงระบบของตำรวจกับฐานข้อมูลธนาคาร พร้อมศึกษาการใช้ Data Analytics ในการวิเคราะห์พฤติกรรมต้องสงสัยเชิงรุก และจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างต่อเนื่อง อาทิ การบรรยายในงานสัมมนาและการอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับบัญชีม้าและการใช้ข้อมูลในการสืบสวน โดยดำเนินงานภายใต้กรอบกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลอย่างเคร่งครัด
ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบ! Work Life Festival 2025 มหกรรมเพื่อคนทำงาน
กรุงศรี ออโต้ เผยเส้นทาง 12 ปี โครงการ LET'sponsible จากแบรนด์ที่เป็น "ผู้พูด" สู่ "ผู้ลงมือทำ" เพื่อเปลี่ยนถนนไทยให้ปลอดภัยอย่างยั่งยืน
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 32.20-32.70 สหรัฐฯอาจใกล้ยุติชัตดาวน์
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 32.20-32.70 ติดตามข้อมูลสหรัฐและค่าเงินหยวน
กรุงศรี จัดพิธีถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 32.40-33.00 มองเฟดลดดอกเบี้ย
แตะจ่ายรถไฟฟ้า MRT ด้วยบัตรกรุงศรี เดบิต หรือบัตร Krungsri Boarding Card รับฟรี Potato Corner มูลค่า 89 บาท
กรุงศรีเผยผลกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกปี 2568 จำนวน 24.61 พันล้านบาท เน้นกลยุทธ์เติบโตอย่างมีคุณภาพ พร้อมบริหารความเสี่ยงรอบคอบระมัดระวัง
กลับมาอีกครั้ง! 'WORK LIFE FESTIVAL 2025' มหกรรมเพื่อคนทำงานสุดยิ่งใหญ่แห่งปีจาก Future Trends และ aomMONEY รวมทุกมิติของชีวิตการทำงานไว้ครบในที่เดียว