พร้อมขยายพอร์ตสินเชื่อ เพิ่มจำนวนสาขาและพัฒนาผลิตภัณฑ์การเงินใหม่ๆ มุ่งสู่ผู้ให้บริการทางการเงินแก่กลุ่มลูกค้ารายย่อยชั้นนำระดับประเทศ
บมจ.เงินเทอร์โบ' หรือ TURBO ผู้ให้บริการทางการเงินแก่กลุ่มลูกค้ารายย่อย เดินหน้าต่อยอดการเติบโตหลังเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชูพอร์ตโฟลิโอสินเชื่อเติบโตแบบก้าวกระโดดผ่านทุกสภาวะเศรษฐกิจ และความสามารถทำกำไรสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม วางเป้าหมายขยายสาขาเป็นไม่น้อยกว่า 1,457 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2572 ควบคู่กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินและบริการใหม่ๆ ยกระดับพอร์ตสินเชื่อรวมเติบโตต่อเนื่อง มุ่งสู่ผู้ให้บริการทางการเงินแก่กลุ่มลูกค้ารายย่อยชั้นนำระดับประเทศ
นายสุธัช เรืองสุทธิภาพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เงินเทอร์โบ จำกัด (มหาชน) หรือ TURBO เปิดเผยว่า ได้นำหุ้น บมจ.เงินเทอร์โบเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรก (30 กันยายน 2568 ) ในหมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ โดยใช้ชื่อย่อ "TURBO" ในการซื้อขายหลักทรัพย์ หลังประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 537 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 1.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งสถาบันและรายย่อยอย่างล้นหลาม สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจและศักยภาพการเติบโต ซึ่งจะสนับสนุนให้ TURBO เป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนภายหลังจากเข้าเทรด
ทั้งนี้ ภายหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ TURBO ได้วางแผนต่อยอดความสำเร็จ เพื่อก้าวสู่ผู้ให้บริการทางการเงินแก่กลุ่มลูกค้ารายย่อยชั้นนำระดับประเทศ สร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ผ่านกลยุทธ์ที่สำคัญ ได้แก่ 1) มุ่งสร้างแบรนด์เพื่อเป็นอันดับ 1 ในใจลูกค้าโดยเน้นความรวดเร็ว สะดวกสบายและคุณภาพการให้บริการ เพื่อรักษาความประทับใจและการบอกต่อของลูกค้าให้อยู่ในระดับสูงโดยตลอด 2) พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดย TURBO ยังคงกลยุทธ์ในการมีทีมเทคโนโลยีเป็นของตนเอง เพื่อให้สามารถสร้างระบบเทคโนโลยีที่มีความเฉพาะและยืดหยุ่นเหมาะสมกับองค์กรได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยี AI มาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในทุกๆ กระบวนการ 3) เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า ผ่านการขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าขยายสาขาเป็นไม่น้อยกว่า 1,475 สาขา ภายในปี 2572 รวมถึงพัฒนาช่องทางการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินของกลุ่มบริษัทฯ ให้ครอบคลุม ครบถ้วน และ 4) พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เหมาะกับความต้องการของลูกค้าที่มีความแตกต่างกัน เช่น การเพิ่มประเภทหลักประกันสำหรับสินเชื่อ เพิ่มประเภทผลิตภัณฑ์ประกัน เพิ่มจำนวนคู่ค้าบริษัทประกัน เป็นต้น
"ผมเชื่อมั่นว่าหลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ TURBO จะสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง รวมถึงสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างยั่งยืน โดยอาศัยการให้บริการทางการเงินที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ทำให้ลูกค้าพึงพอใจและเกิดการบอกต่อ รวมถึงการใช้ระบบเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาเฉพาะ ซึ่งจะช่วยให้ TURBO สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว รักษาต้นทุนในการดำเนินงานให้ต่ำในระยะยาว" นายสุธัชกล่าว
ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2566-2567 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 2,430.7 ล้านบาท และ 3,033.2 ล้านบาทตามลำดับ เพิ่มขึ้น 24.8% โดยมีกำไรสุทธิ 131.7 ล้านบาท และ 141.6 ล้านบาท ตามลำดับ เพิ่มขึ้น 7.5%
สำหรับงวด 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ปี 2568 มีรายได้รวม 1,517.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.7% และมีกำไรสุทธิ 235.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 285.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (Net Interest Margin) ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 อยู่ที่ 19.8% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเดียวกัน?ที่ 15.1% นอกจากนี้ ยังมีอัตรารายได้รวมหลังจากหักค่าใช้จ่ายผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อลูกหนี้เงินให้กู้ยืมสุทธิเฉลี่ย 21.8% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเดียวกัน?ที่ 18.0%
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และตัวแทนธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า TURBO มีศักยภาพการเติบโตสูงจากภาพรวมตลาดสินเชื่อรายย่อยที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่นจาก 2.2 แสนล้านบาทในปี 2561 เป็น 6.3 แสนล้านบาทในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 18.6% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าภาพรวมสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับของธนาคารพาณิชย์ในช่วงเดียวกันที่เติบโตจาก 1.7 แสนล้านบาท เป็น 2.2 แสนล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ย 4.5% ต่อปี สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการสินเชื่อรายย่อยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ปานกลางถึงระดับต่ำ ที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ได้ หรือเข้าถึงได้แต่ไม่ครอบคลุม ซึ่งเป็นประชาชนกลุ่มใหญ่ของประเทศ และจากปัจจัยบวกของภาพรวมอุตสาหกรรม ที่ส่งเสริมให้ TURBO มีอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมของรายได้ดอกเบี้ยซึ่งเป็นธุรกิจหลัก 40.8 % ต่อปีนับจากปี 2565 ถึงปี 2567 ตลอดจนรายได้ค่านายหน้าประกันภัยและนายหน้าประกันชีวิตของกลุ่มบริษัทฯ ที่เติบโตเฉลี่ย 54.3% ต่อปีนับจากปี 2563 ถึงปี 2567 จึงเชื่อมั่นว่าด้วยรากฐานที่แข็งแกร่งและศักยภาพการเติบโตที่ดีในระยะยาว TURBO จะเป็นหนึ่งในหุ้นคุณภาพในตลาดทุนไทย
นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า มั่นใจว่า TURBO จะเป็นหุ้น Growth Stock ที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน ด้วยจุดเด่นการบริการที่สะดวกรวดเร็ว เข้าใจลูกค้า รวมถึงทีมงานที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเงินและเทคโนโลยีดิจิทัล และใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนองค์กรในทุกขั้นตอน เพื่อการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ จนเกิดความประทับใจและทำให้เกิดการบอกต่อในกลุ่มลูกค้าสูงถึง 20.7% ส่งผลให้พอร์ตสินเชื่อเติบโตแบบก้าวกระโดดเฉลี่ย 31.5% ต่อปีระหว่างปี 2563 ถึงไตรมาสที่ 2 ปี 2568 อีกทั้งยังมีโอกาสขยายพอร์ตสินเชื่อจากการเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีอายุสาขาเฉลี่ยเพียง 4.1 ปี
หมายเหตุ: ?กลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ 5 ราย
STA ได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในระดับสูงสุด "AAA" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
ADVICE ร่วมเวที ก.ล.ต.-ตลท. จับตาภัยมิจฉาชีพออนไลน์ ย้ำบทบาทบริษัทจดทะเบียนรับมือภัยไซเบอร์
SCL เข้าร่วม JUMP+ ประกาศวิสัยทัศน์ 3 ปี ขับเคลื่อนกำไร ลงทุน Warehouse Automation รุกตลาดอะไหล่ยุโรปและ EV
ทานตะวันอุตสาหกรรม (THIP) คว้าหุ้นยั่งยืนประจำปี 2568 ระดับ "A" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จาก SET
PROUD คว้า SET ESG Ratings 2568 ระดับ "A" สะท้อนผู้นำอสังหาฯ ระดับลักชัวรี เติบโตยั่งยืนทุกมิติ
CKPower คว้าผลประเมิน SET ESG Ratings 2025 ระดับสูงสุด AAA
บล.เมย์แบงก์ ชี้แนวโน้มตลาดหุ้นไทยปี 2569 "ตลาดพร้อมลุย" แนะมองข้ามความผันผวนระยะสั้น
TFG สุดปลื้ม! คว้าหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ปี 68 ระดับ AA สะท้อนศักยภาพการบริหารจัดการครบทุกมิติ ESG สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน
บางกอกแอร์เวย์ส (BA) คว้าหุ้นยั่งยืน "ระดับ A" จาก SET ESG Ratings 2025