สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับศูนย์บริการวิชาการและฝึกอบรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Chulalongkorn Business School - CBS) และธนาคารกสิกรไทย จัดกิจกรรมเปิดตัวโครงการ SMART SMEs GO Digital & AI คิดไว ทำได้ พร้อมแข่งขัน ณ ห้อง Auditorium ชั้น 3 C asean อาคารไทยเบฟควอเตอร์ พระราม 4 กรุงเทพฯ
โครงการนี้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคนและทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) โดยมุ่งสร้างกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน SME ไทยให้ก้าวข้ามอุปสรรค ทันต่อการเปลี่ยนแปลง และเติบโตเป็น SMART SMEs ที่มีศักยภาพในการแข่งขันและเป็นกำลังสำคัญของเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน ผ่านแนวคิดหลัก
- คิดไว - มีเครื่องมือที่พร้อมใช้งานและเข้าถึงได้ง่าย เพื่อทำหน้าที่เป็นคู่คิดและที่ปรึกษา
- ทำได้ - ยกตัวอย่าง Use case ที่ประสบความสำเร็จและสามารถนำไปใช้ได้จริง
- พร้อมแข่งขัน - ยกระดับทักษะดิจิทัลของผู้ประกอบการ SMEs ให้เข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเครื่องมือดิจิทัลได้อย่างเต็มที่
โครงการนี้ ยังมีการออกแบบหลักสูตรการใช้ Generative AI สำหรับ SMEs โดยยึดหลักการเรียนรู้จากโจทย์จริง ควบคู่กับเครื่องมือใช้งานที่เข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้ทันที
งานดังกล่าว ได้รับเกียรติจาก นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) บรรยายพิเศษในหัวข้อ "Transforming Thai SMEs into Smart Industries" โดยเน้นย้ำว่าการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งและเป็นความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม หาก SMEs ไทยไม่เร่งปรับตัว อาจหลุดจากห่วงโซ่อุปทานโลก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมหลักอย่างยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และ Green Supply Chain ทั้งนี้ ดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจ และจะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการแข่งขันในอนาคต ส.อ.ท. จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการ SMEs เริ่มต้นการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและ AI อย่างจริงจัง เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืน และยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตสมัยใหม่ในทุกภูมิภาค
ด้าน ดร.วิบูลย์ รักสาสน์เจริญผล ประธานคณะทำงานส่งเสริมแผนงานเป้าหมายสำคัญตามยุทธศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม จากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคนและทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาการวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) ได้บรรยายพิเศษในหัวข้อ "Government Support for Smart SMEs Transformation" โดยกล่าวว่า "นโยบายภาครัฐมุ่งสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของ SMEs สู่ระบบดิจิทัล เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมาตรการสนับสนุนครอบคลุมหลายด้าน อาทิ การจัดหาแหล่งเงินทุน โครงการพัฒนาทักษะและศักยภาพบุคลากร รวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่างๆ ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าการก้าวสู่ยุคดิจิทัลของ SMEs จะเป็นรากฐานสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจไทยด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ลดต้นทุน และสร้างโอกาสในการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ"
นอกจากนี้ ยังมีการจัดเสวนา เรื่อง "Smart SMEs Go Digital & AI" เพื่อให้ข้อมูลกับผู้เข้าร่วมงานโดยนายอภิชิต ประสพรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และประธานสถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอุตสาหกรรมการผลิต (SMI) กล่าวว่า "ในฐานะผู้ริเริ่มและประธานโครงการ ผมมองเห็นความจำเป็นเร่งด่วนในการยกระดับ SMEs ไทยให้พร้อมรับมือกับภูมิทัศน์ธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โครงการนี้จึงถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ประกอบการเข้าใจและใช้ศักยภาพของ Generative AI ได้อย่างเต็มที่ โดยทำหน้าที่เป็นทั้งคู่คิดและที่ปรึกษาในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดเวลาในงานซ้ำซ้อน และต่อยอดสู่การสร้างนวัตกรรม
กลุ่มเป้าหมายของโครงการ คือ ผู้บริหารในสถานประกอบการที่ต้องการพัฒนาศักยภาพองค์กรผ่านการใช้ Gen AI โดยโครงการมี 5 กิจกรรมสำคัญ ได้แก่ (1) การสร้างการรับรู้และกระตุ้นการมีส่วนร่วม เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าใจโอกาสและประโยชน์ของการใช้ Gen AI ในธุรกิจ (2) การฝึกอบรม Bootcamp ระยะเวลา 2 วัน ครอบคลุมการเรียนรู้ 5 ระดับ ตั้งแต่การใช้ Gen AI ขั้นพื้นฐานจนถึงการบูรณาการเข้ากับระบบงานจริง (3) กิจกรรม Group Pitching เพื่อฝึกคิดเชิงวิเคราะห์และการออกแบบโซลูชัน AI ที่เหมาะสมกับธุรกิจ (4) การให้คำปรึกษาเชิงลึกแบบออนไลน์ (Online Mentoring) เพื่อตอบโจทย์ปัญหาเฉพาะด้านและเพิ่มความแม่นยำในการใช้งาน และ (5) การถอดบทเรียนและเผยแพร่กรณีศึกษา (Case Study) เพื่อขยายผลและสร้างต้นแบบการใช้ Gen AI ในภาคอุตสาหกรรม
เราคาดหวังว่าผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับทักษะด้าน Gen AI ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทันที สามารถวิเคราะห์ปัญหาเชิงลึกเพื่อแก้ไขอย่างเป็นระบบ และสร้างต้นแบบการใช้ AI ที่ผ่านการทดสอบแล้วในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจในการปรับใช้จริง และลดความเสี่ยงในการลงทุนด้านเทคโนโลยี
ท้ายที่สุด โครงการนี้จะช่วยเปลี่ยนความซับซ้อนของธุรกิจให้เป็นเรื่องง่าย ด้วยพลังของ AI เชิงสร้างสรรค์ ที่ไม่เพียงลดต้นทุนและเพิ่มกำไร แต่ยังสร้างเครือข่าย SMEs ที่พร้อม คิดไว ทำได้ และแข่งขันได้ เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน"
ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร.ดนุพล หุ่นโสภณ ผู้ช่วยอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการและฝึกอบรม Chulalongkorn Business School เสริมว่า ในแง่ของภาคการศึกษา คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมของบุคลากรและองค์กรให้ก้าวทันโลกดิจิทัล โครงการ SMART SMEs GO Digital & AI จึงเป็น "สะพานเชื่อมองค์ความรู้จากภาควิชาการสู่ภาคปฏิบัติ" ที่จะช่วยให้ SMEs เข้าถึงหลักสูตรและเนื้อหาที่ทันสมัยและนำไปใช้ได้จริง โดยคาดหวังว่าผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับทั้งทักษะและ Mindset ที่จำเป็นในการนำดิจิทัลและ AI มาใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจ การบริหารจัดการ และการสร้างนวัตกรรม ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ และยกระดับขีดความสามารถในการ
แข่งขันทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค ผ่านการทำ Use Case ที่จับต้องได้ นอกจากนี้ ยังถือเป็นโอกาสสำคัญในการร่วมกันพัฒนาแนวทางการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของ SMEs ในอนาคตได้อย่างแท้จริง
นายพิภวัตว์ ภัทรนาวิก รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย ระบุว่า ในฐานะสถาบันการเงินที่ทำงานใกล้ชิดกับ SMEs ธนาคารกสิกรไทย ตระหนักดีว่าดิจิทัลและ AI คือ "พลังขับเคลื่อนสำคัญที่จะเปลี่ยนโฉมธุรกิจ" และเป็นปัจจัยชี้ขาดต่อความอยู่รอดและการเติบโตขององค์กร ดังนั้น โครงการนี้จะช่วยให้ SMEs สามารถปลดล็อกศักยภาพของเทคโนโลยี เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยสามารถนำดิจิทัลและ AI มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน เข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ ได้อย่างตรงจุด และบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างชาญฉลาด ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มรายได้และลดต้นทุนในระยะยาว ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยพร้อมสนับสนุน SMEs ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นองค์ความรู้ แพลตฟอร์มดิจิทัล หรือแหล่งเงินทุนที่จำเป็น เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัล และเติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคงและยั่งยืน
ปตท.สผ. คว้ารางวัลสูงสุดจากเวที Climate Action Awards 2025 สะท้อนความโดดเด่นในการดำเนินงานด้าน Decarbonization
SAPPE ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน ผนึกกำลัง TIPMSE และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในงานรวมพลังขับเคลื่อน EPR เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เป็นวัตถุดิบ
"นิปปอนเพนต์" แบรนด์สีหนึ่งเดียวที่เหนือชั้นกว่า คว้ารางวัลเชิดชูเกียรติสูงสุด "Climate Action Excellence" โดย ส.อ.ท. พิสูจน์ความตั้งใจ การันตีองค์กรผู้นำด้านความยั่งยืนในทุกมิติ
OR ได้รับรางวัล Climate Action Excellence ตอกย้ำการเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่อนาคตยั่งยืน
กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี สอท. พร้อมดึงเทคโนโลยีเม็ดพลาสติกรีไซเคิล สนับสนุนอุตสาหกรรมไทยสู่ S-Curve หนุนทุกภาคส่วนนำพลาสติกใช้แล้วกลับมาเป็นวัตถุดิบครบวงจร
เบเยอร์คว้ารางวัล Climate Action Award ตอกย้ำผู้นำสีรักษ์โลกอันดับหนึ่ง มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero
TCMA คว้ารางวัล 'Outstanding Contribution' Climate Action Award 2025 ตอกย้ำบทบาทองค์กรศักยภาพ นำอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ขับเคลื่อนลดคาร์บอน
ส.อ.ท. จัด Climate Change Forum 2025 ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่เป้า Net Zero บางจากฯ คว้ารางวัลสูงสุด Climate Change Award องค์กรต้นแบบด้าน Climate Action