สำนักอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเทศบาลนครกุ้ยหยาง
นับตั้งแต่เริ่มแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 นครกุ้ยหยางได้เดินหน้าสนับสนุนการผลิตอัจฉริยะเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจคุณภาพสูง ภายใต้ยุทธศาสตร์ "ยกระดับอุตสาหกรรมเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของเมือง" ข้อมูลจากสำนักอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเทศบาลนครกุ้ยหยางระบุว่า ในปี 2567 ภาคอุตสาหกรรมมีสัดส่วนต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงถึง 31.1% ขณะที่ผลผลิตมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 7.5% ต่อปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขตกวนซานหูและเมืองชิงเจิ้น ซึ่งกลายเป็น "กลไกขับเคลื่อนคู่ขนาน" (Dual-Wheel Drive) ของนครกุ้ยหยาง กล่าวคือ เขตกวนซานหูสร้างศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่และโรงงานดิจิทัล ขณะที่เมืองชิงเจิ้นพลิกโฉมอุตสาหกรรมดั้งเดิมด้วยวัสดุใหม่จากอะลูมิเนียมและการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นับเป็นสองกลไกที่ร่วมกันขับเคลื่อนนครกุ้ยหยางสู่การผลิตอัจฉริยะอย่างแท้จริง
เขตกวนซานหู: ขับเคลื่อนด้วยสองแกนหลัก ได้แก่ พลังงานใหม่และเศรษฐกิจดิจิทัล สร้างคลัสเตอร์อุตสาหกรรมมูลค่านับพันล้านดอลลาร์
สำนักอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเทศบาลนครกุ้ยหยางระบุว่า คลัสเตอร์อุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ได้กลายเป็นมาตรฐานการผลิตอัจฉริยะของเขตกวนซานหู โดยนับตั้งแต่บริษัท จีลี่ ออโต (Geely Auto) เข้ามาตั้งฐานการผลิตในปี 2561 บริษัทได้ดึงดูดผู้ประกอบการทั้งต้นน้ำและปลายน้ำด้วยแนวทาง "ผู้นำห่วงโซ่อุตสาหกรรมกรุยทาง ผู้สนับสนุนร่วมขับเคลื่อน และคลัสเตอร์เติบโตไปด้วยกัน" ปัจจุบัน มีผู้ประกอบการสนับสนุนจีลี่มากกว่า 20 ราย ก่อเกิดเป็นห่วงโซ่อุตสาหกรรมครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่แบตเตอรี่ มอเตอร์ ไปจนถึงระบบเครือข่ายอัจฉริยะ โดยมีการตั้งเป้ามูลค่าผลผลิตไว้ที่ 2 หมื่นล้านหยวนในปี 2568
ขณะเดียวกัน การเสริมสร้างความสามารถทางดิจิทัลได้ช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมการผลิตดั้งเดิม โดยบริษัท จงอัน เทคโนโลยี กรุ๊ป (Zhong An Technology Group) เป็นผู้ประกอบธุรกิจสายเคเบิลรายแรกในมณฑลกุ้ยโจวที่ผ่านการรับรอง "โรงงานสีเขียว" ระดับชาติ และยังเป็น "องค์กรบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานสีเขียว" ระดับชาติแห่งแรกของกุ้ยโจว โดยในโรงงาน "5G+AI Digital Twin" ของบริษัท มีหุ่นยนต์ AGV ทำหน้าที่รับ-ส่งสินค้าระหว่างคลังสินค้าอัจฉริยะ ขณะที่ข้อมูลการผลิตแบบเรียลไทม์ได้ถูกอัปโหลดเข้าสู่ระบบคลาวด์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างต่อเนื่อง บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 5.5 พันล้านหยวนในปี 2568
นอกจากนี้ ในนิคมอุตสาหกรรมการผลิตสมัยใหม่ของเขตกวนซานหูนั้น บริษัท กุ้ยหยาง ซานจู แบตเตอรี่ จำกัด (Guiyang Shanju Battery Co., Ltd.) ยังมีสายการผลิตอัตโนมัติที่สามารถผลิตแบตเตอรี่หนึ่งชุดได้ภายในเวลาเพียง 2 นาที พร้อมระบบทดสอบความปลอดภัยด้วยการยิงกระสุนจริงขนาด 5.8 มม.ทะลุเซลล์แบตเตอรี่เป็นครั้งแรกของโลก รวมถึงระบบควบคุมกระบวนการผลิตตั้งแต่วัตถุดิบไปจนถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเต็มรูปแบบ โดยใช้เวลาเพียง 4.5 ชั่วโมงในการผลิตแบตเตอรี่ไปจนถึงการประกอบรถยนต์ ทั้งนี้ จาง เจียซิน หัวหน้าฝ่ายควบคุมคุณภาพ ระบุว่า "กระบวนการผลิตแบตเตอรี่ของเราทำงานอัตโนมัติและมีความยืดหยุ่นสูง ฝ่าฟันข้อจำกัดด้านเวลาของการปรับสายการผลิตแบตเตอรี่ เราสามารถผลิตสินค้าหลายอย่างควบคู่กัน ตอบโจทย์รูปแบบการผลิตที่หลากหลายได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว" โดยบริษัทได้อาศัยฐานการผลิตของจีลี่ในกุ้ยหยาง ส่งผลให้มูลค่าผลผลิตของบริษัทสูงถึง 800 ล้านหยวนในช่วงครึ่งแรกของปี 2568
การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในนิคมอุตสาหกรรมเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรม โดยเฟสแรกของนิคมอุตสาหกรรมการผลิตอัจฉริยะที่มีมูลค่าการลงทุนรวม 1.35 พันล้านหยวน สามารถดึงดูดบริษัทเข้ามาลงทุนแล้ว 21 ราย โดยมุ่งไปที่การพัฒนาอุปกรณ์ระดับไฮเอนด์ เช่น หุ่นยนต์และเซมิคอนดักเตอร์ ขณะเดียวกัน หมู่บ้านนิเวศวัฒนธรรมดิจิทัลเสี่ยวหลานซาน ก็ดึงดูดบริษัทดิจิทัล 45 แห่ง และได้รับการประกาศเป็นนิคมพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลอัจฉริยะระดับมณฑล
เมืองชิงเจิ้น: พลิกโฉมด้วยวัสดุใหม่จากอะลูมิเนียมและการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ฟื้นชีวิตใหม่ให้อุตสาหกรรมดั้งเดิม
ณ นิคมอุตสาหกรรมแปรรูปอะลูมิเนียมหวังจวง ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจเมืองชิงเจิ้น เครื่องอัดขึ้นรูปอะลูมิเนียมขนาดใหญ่ 3 เครื่องของบริษัท กุ้ยหยาง หลงซู ไลต์ อัลลอย เทคโนโลยี จำกัด (Guiyang Longshu Light Alloy Technology Co., Ltd.) สามารถอัดขึ้นรูปวัสดุใหม่จากอะลูมิเนียมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยกำลังการผลิต 9 ตันต่อชั่วโมง โรงงานทันสมัยแห่งนี้ผสานการออกแบบแม่พิมพ์กับกระบวนการ Oxidation Electrophoresis พร้อมทั้งใช้เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าด้วยโซลาร์เซลล์ชนิดฟิล์มบางและระบบกักเก็บพลังงาน เพื่อให้ทุกขั้นตอนการผลิตตลอดกระบวนการปล่อยคาร์บอนต่ำ "คำสั่งซื้ออะลูมิเนียมอัลลอยเกรดใช้งานในอวกาศของเราอยู่ที่ 3,000 ตันต่อเดือน โดยบางส่วนส่งออกไปยังเกาหลีใต้และอินโดนีเซีย" เกิง กัวชิง ผู้จัดการทั่วไป กล่าว พร้อมกับชี้ไปที่บอร์ดดิจิทัลแสดงข้อมูลการผลิตที่อยู่ข้างสายการผลิต
เมืองชิงเจิ้นประสบผลสำเร็จในการดำเนินยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมอะลูมิเนียม "ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากแหล่งแร่ที่อุดมสมบูรณ์" โดยมีการร่วมมือกับผู้ประกอบการชั้นนำ เช่น บริษัท อะลูมินัม คอร์ป ออฟ ไชน่า (Aluminum Corp of China หรือ CHALCO) สาขากุ้ยโจว เพื่อยกระดับการแปรรูปอะลูมิเนียมจากผลิตภัณฑ์ขั้นต้นสู่วัสดุน้ำหนักเบาสำหรับยานยนต์และอากาศยาน ในปี 2567 มูลค่าผลผลิตของอุตสาหกรรมอะลูมิเนียมและการแปรรูปอะลูมิเนียมขนาดใหญ่สูงกว่า 2.65 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้น 38.29% เมื่อเทียบรายปี และคิดเป็น 75.08% ของมูลค่ารวมทั้งหมดในนครกุ้ยหยาง ปัจจุบัน โครงการต่าง ๆ เช่น ศูนย์ผสมแร่ สายการผลิตปลอดกำมะถันและซิลิกา ฯลฯ กำลังเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เหมืองทั้งหมด 14 แห่งที่มีการผลิตได้เชื่อมต่อเข้ากับระบบดิจิทัลแล้ว
การผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกลายเป็นคำสำคัญในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมดั้งเดิม โดยบริษัท กุ้ยโจว เจิ้งเหอ เทียนจู เทคโนโลยี จำกัด (Guizhou Zhenghe Tianzhu Technology Co., Ltd.) เป็นผู้ประกอบการเอกชนรายแรกในมณฑลกุ้ยโจวที่นำของเสียอุตสาหกรรมชนิดแข็งมาผลิตเป็นวัสดุผงผสมสำเร็จรูป เช่น ฟอสโฟยิปซัม และวัสดุซีเมนต์ โดยมีกำลังการผลิตวัสดุผง 1.2 ล้านตันต่อปี อีกทั้งยังผ่านการรับรอง "โรงงานสีเขียว" ระดับชาติ และ "องค์กรบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานสีเขียว" ในปี 2566 ทั้งนี้ เฉิน อิง รองผู้จัดการบริษัท กล่าวว่า "บริษัทจะเพิ่มการลงทุน ยกระดับการวิจัยและพัฒนา พร้อมเดินหน้าส่งเสริมการประหยัดพลังงานและลดการใช้ทรัพยากร เพื่อบรรลุเป้าหมายในการรีไซเคิลของเสียชนิดแข็งและเปลี่ยนของเสียให้เป็นประโยชน์ต่อไป"
ศูนย์กลางแห่งการพัฒนาความร่วมมือ ขับเคลื่อนด้วยการผลิตอัจฉริยะ สู่ความเจริญรุ่งเรืองของกุ้ยหยาง
เขตกวนซานหูและเมืองชิงเจิ้นสะท้อนภาพรวมของการผลิตอัจฉริยะในนครกุ้ยหยาง โดยในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 นครกุ้ยหยางได้ยึดถือการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่เป็นภารกิจหลักของการพัฒนาอย่างมีคุณภาพสูง พร้อมทั้งผลักดันยุทธศาสตร์ "ยกระดับอุตสาหกรรมเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของเมือง" และยึดมั่นในหลักการ "คุณภาพสูง อัจฉริยะ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม" ทั้งนี้ ในปี 2566 มูลค่าเพิ่มทางอุตสาหกรรมของนครกุ้ยหยางสูงกว่า 1 แสนล้านหยวน ขณะที่มูลค่าผลผลิตรวมทะลุ 4 แสนล้านหยวน ต่อมาในปี 2567 นครกุ้ยหยางคว้าอันดับ 27 จาก 101 เมืองนวัตกรรมของจีน และรั้งอันดับ 4 จาก 20 เมืองนวัตกรรมในภาคตะวันตกของจีน ปัจจุบัน นครกุ้ยหยางมีแพลตฟอร์มนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับชาติจำนวน 8 แห่ง รวมถึง "ยักษ์เล็ก" หรือธุรกิจขนาดเล็กที่มีองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาลจีน จำนวน 36 แห่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ารากฐานของการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมได้รับการเสริมสร้างให้เข้มแข็งอย่างต่อเนื่อง
ที่มา: สำนักอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเทศบาลนครกุ้ยหยาง
สจล. ปูพื้นฐานแน่น! พัฒนาหลักสูตร AI สู่ความเข้าใจเชิงลึก ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมในยุค Generative AI
องค์กรไทยประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ รับรางวัลอันทรงเกียรติ ASOCIO 2024 DX Award
MSC ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ AA ประจำปี 2568
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จัดงาน "BU Game On! Expo x Job Fair for Game Industry 2025" เวทีพิสูจน์ฝีมือนักพัฒนาเกมรุ่นใหม่ เชื่อมโลกการศึกษาสู่อุตสาหกรรมจริง
เมโทรซิสเต็มส์ คว้ารางวัลจาก Cisco ในงาน Cisco Thailand & Myanmar Partner Appreciation 2025
Sirisoft ร่วมกับ Red Hat พลิกโฉมการลงทุนไอทีอัจฉริยะ ด้วยโซลูชัน Red Hat Ansible Automation Platform ยกระดับการทำงานขององค์กรสู่ระบบอัตโนมัติอย่างมีประสิทธิภาพ
ยูกันดาชี้โอกาสทองแก่นักลงทุนไทย เปิด 4 อุตสาหกรรมเด่น พร้อมสิทธิประโยชน์การค้าและการลงทุนครบวงจร รุกตลาดแอฟริกา 500 ล้านคน
เมโทรซิสเต็มส์ ผนึกกำลัง Silverfort ลงนาม MOU รุกตลาด Identity Security เต็มรูปแบบ มุ่งยกระดับองค์กรไทยสู่มาตรฐาน Zero Trust