หลายคนที่มีผิวแห้งหรือผิวบาง มักลังเลเวลาจะใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว โดยเฉพาะโลชั่นที่มีส่วนผสมของกรดผลัดเซลล์ เช่น AHA, BHA หรือ PHA เพราะกลัวว่าจะทำให้ผิวระคายเคืองหรือยิ่งแห้งลอกมากกว่าเดิม แต่ความจริงแล้ว "ผิวแห้งหรือผิวบาง" ไม่ได้หมายความว่า "ห้ามใช้" โลชั่นผลัดเซลล์ผิวเสียทีเดียว เพียงแต่ต้องเข้าใจหลักการของสารเคมีในผลิตภัณฑ์และเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิวอย่างถูกวิธี
ศาสตร์แห่งการผลัดเซลล์ผิว
หัวใจของโลชั่นผลัดเซลล์ผิวคือ "กรด" ซึ่งทำหน้าที่คลายการยึดเกาะระหว่างเซลล์ผิวชั้นนอกสุดให้หลุดลอกออกไปอย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม กรดแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและขนาดโมเลกุลที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อความสามารถในการซึมผ่านและความอ่อนโยนต่อผิว
- Alpha Hydroxy Acids (AHAs) เช่น Glycolic Acid เป็นกรดที่ละลายในน้ำ มีโมเลกุลขนาดเล็ก ซึมผ่านผิวได้ดีและรวดเร็ว ทำให้มีประสิทธิภาพสูงในการผลัดเซลล์ผิวชั้นบน แต่ก็อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ง่ายในผิวที่บอบบาง
- Beta Hydroxy Acids (BHAs) เช่น Salicylic Acid เป็นกรดที่ละลายในไขมัน สามารถซึมลึกลงไปในรูขุมขนเพื่อทำความสะอาดและลดการอุดตันได้ดี เหมาะกับผิวมันและเป็นสิวง่าย แต่สำหรับผิวแห้ง อาจทำให้ผิวแห้งตึงมากขึ้นหากใช้ในความเข้มข้นสูง
- Polyhydroxy Acids (PHAs) เช่น Gluconolactone คือฮีโร่สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย ด้วยขนาดโมเลกุลที่ใหญ่กว่า AHAs ทำให้ PHAs ซึมผ่านผิวอย่างช้าๆ และทำงานอยู่บนผิวชั้นตื้นๆ จึงลดโอกาสการระคายเคืองได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ PHAs ยังมีคุณสมบัติเป็นสารให้ความชุ่มชื้น (Humectant) ช่วยดึงดูดน้ำเข้าสู่ผิว และเสริมสร้างความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) อีกด้วย
เลือกอย่างไรให้ปลอดภัยและได้ผล
สำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง บอบบาง และแพ้ง่าย การเลือกใช้โลชั่นผลัดเซลล์ผิวควรเริ่มต้นจาก PHAs เป็นอันดับแรก เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน แต่ยังช่วยเติมความชุ่มชื้นและเสริมเกราะป้องกันผิวไปพร้อมกัน นอกจากนี้ ยังมีกรดอีกชนิดที่น่าสนใจคือ Lipo-hydroxy Acid (LHA) ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของ Salicylic Acid แต่มีโครงสร้างที่ใหญ่กว่าและมีความเป็นกรด-ด่างใกล้เคียงกับผิว (pH 5.5) ทำให้ LHA มีความอ่อนโยนสูง สามารถผลัดเซลล์ผิวได้อย่างช้าๆ และตรงจุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุณสมบัติในการทำความสะอาดรูขุมขน แต่กังวลเรื่องการระคายเคือง
เคล็ดลับการใช้โลชั่นผลัดเซลล์ผิวสำหรับมือใหม่
- เริ่มต้นช้าๆ: ในช่วงแรก ควรใช้ผลิตภัณฑ์เพียง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้ผิวได้ปรับตัว จากนั้นจึงค่อยๆ เพิ่มความถี่ในการใช้ตามการตอบสนองของผิว
- ความชุ่มชื้นคือสิ่งสำคัญ: หลังการใช้โลชั่นผลัดเซลล์ผิว ควรตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมช่วยปลอบประโลมและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว เช่น Ceramides, Hyaluronic Acid, และ Niacinamide เพื่อลดโอกาสการเกิดความแห้งตึงและระคายเคือง
- อย่าลืมครีมกันแดด: การผลัดเซลล์ผิวจะทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น การทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปในตอนเช้าเป็นประจำจึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถละเลยได้
- ทดสอบการแพ้ (Patch Test): ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกครั้ง ควรทดสอบในบริเวณเล็กๆ เช่น ท้องแขนหรือหลังใบหู เป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง เพื่อสังเกตอาการแพ้หรือระคายเคือง
โดยสรุปแล้ว ผู้ที่มีผิวบาง แห้ง และแพ้ง่าย สามารถใช้โลชั่นผลัดเซลล์ผิวได้อย่างแน่นอน หากเลือกชนิดของกรดที่เหมาะสมอย่าง PHAs หรือ LHAs เริ่มต้นใช้อย่างค่อยเป็นค่อยไป และให้ความสำคัญกับการบำรุงเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิวควบคู่กันไป การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณมีผิวที่เรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น แต่ยังเป็นการดูแลผิวในระยะยาวให้มีสุขภาพดีและแข็งแรงอย่างยั่งยืน
ธนชาตประกันภัย จัดแคมเปญพิเศษ 'ประกันชั้นดีย์' ครบรอบ 28 ปี มอบสิทธิ์ดี ๆ แบบจัดใหญ่ พร้อมลุ้นทอง 28 รางวัล!
HPE จับมือ NVIDIA เดินหน้ายกระดับการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในภาครัฐและภาคเอกชน ผ่านนวัตกรรม "AI Factory" ที่ปลอดภัย
ธนาคารกรุงเทพ ยกทัพผลิตภัณฑ์และบริการด้านการเงินครบวงจร ร่วมงานมหกรรมการเงินเชียงใหม่ ครั้งที่ 20
ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว "ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว" ครั้งแรกของโลก ชูธง SMART PROTEIN คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ
เมืองไทยประกันชีวิต ร่วมงานมหกรรมการเงินเชียงใหม่ ครั้งที่ 20 ยกขบวนผลิตภัณฑ์ บริการ และโปรโมชัน
แคนนอน เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III และเลนส์ไพรม์ RF45mm f/1.2 STM
SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย
เติมเต็มหัวใจด้วยความห่วงใย เมนโทลาทั่มส่งกองทัพ "Little Nurse" ปลุกพลังน้องพยาบาลถึงกลางสยาม เพราะเราเชื่อว่า Everyone can be a Little Nurse