- ซีเมนส์และเอ็นวิเดียแสดงขีดความสามารถเทคโนโลยี Digital Twin ประสิทธิภาพสูง
- เปิดตัวชุดเทคโนโลยีใหม่ยุค AI สำหรับโรงงานในอนาคต
- ผสานประสิทธิภาพแพลตฟอร์ม Siemens Xcelerator และ NVIDIA Omniverse เข้าด้วยกัน
- ห่วงโซ่คุณค่าครบวงจรของซีเมนส์ตั้งแต่ชิปจนถึงโครงข่ายไฟฟ้า (Chip-to-Grid) รองรับการปรับขยาย ประหยัดพลังงาน และได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมสำหรับการทำงานด้วย AI
ภายในงาน NVIDIA GTC (GPU Technology Conference) ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซีเมนส์และเอ็นวิเดีย ร่วมสาธิตชุดเทคโนโลยีใหม่ (New Technology Stack) ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาสำหรับแพลตฟอร์ม Siemens Xcelerator การสาธิตนี้แสดงให้เห็นว่าอีกไม่นาน วิศวกรจะสามารถออกแบบ ปรับแต่ง และจัดการแบบจำลอง Digital Twin ที่ล้ำสมัยและแม่นยำที่สุดสำหรับโรงงานในอนาคตได้อย่างรวดเร็ว
การผสานการทำงานร่วมกันระหว่างแพลตฟอร์ม Siemens Xcelerator และ NVIDIA Omniverse ทำให้เทคโนโลยีนี้สามารถนำเสนอ Digital Twin ในรูปแบบใหม่ที่มีความสมจริงสูง โดยรวมเอาการแสดงภาพ 3 มิติ (3D Visualization) การจำลองการทำงานของกระบวนการหรือระบบ และข้อมูลของโรงงาน ไว้ในสภาพแวดล้อมเดียวที่สมจริง นับเป็นก้าวสำคัญสู่เมตาเวิร์สสำหรับภาคอุตสาหกรรม (Industrial Metaverse) สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของซีเมนส์ที่มุ่งมั่นผสานโลกจริงและดิจิทัลอย่างไร้รอยต่อ เพื่อปลดล็อกนวัตกรรมไปสู่อีกระดับ ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน และสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนให้กับภาคอุตสาหกรรม
ปัจจุบันอุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลกกำลังอยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ขับเคลื่อนด้วยการลงทุนมหาศาลและการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้ในวงกว้าง เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงนี้ ซีเมนส์และเอ็นวิเดียกำลังกระชับความร่วมมือเพื่อเร่งปฏิวัติภาคอุตสาหกรรมด้วย AI ซึ่งจะช่วยพัฒนาโรงงานทั่วโลกให้มีความชาญฉลาดและประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น
ซอฟต์แวร์ Digital Twin ประสิทธิภาพสูงที่อยู่ระหว่างการพัฒนานี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของชุดเทคโนโลยีใหม่ของซีเมนส์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับยุค AI ช่วยให้ผู้ผลิตไม่เพียงแต่สร้างโรงงานที่ทันสมัยที่สุดในโลก แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างต่อเนื่อง และเทคโนโลยีนี้จะยังนำมาใช้เพื่อเร่งการวางแผน กระบวนการทางวิศวกรรม และการดำเนินงาน ทำให้สามารถทำการจำลองที่มีขนาดใหญ่ สร้างเวิร์กโฟลว์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และสามารถตัดสินใจด้วยข้อมูลในทุกขั้นตอนของการออกแบบและการดำเนินงาน
ในงาน GTC ซีเมนส์สาธิตความสามารถของ Tech Stack ชุดใหม่นี้ ในการสนับสนุนลูกค้าตั้งแต่ขั้นตอนของการออกแบบไปจนถึงการดำเนินงานในโรงงานขั้นสูง ฟังก์ชันสำคัญของเทคโนโลยีใหม่นี้คือการที่ลูกค้าสามารถนำโครงสร้างพื้นฐานของอาคารและสายการผลิตมารวมกันในสภาพแวดล้อมทางวิศวกรรมเดียว ซึ่งรวมถึงการใช้ AI เพื่อจำลองผังโรงงานหลายร้อยแบบเพื่อค้นหาการออกแบบที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วย Tech Stack ใหม่นี้ วิศวกรจะสามารถออกแบบและทำการจำลองได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง แทนที่จะเป็นหลายวันหรือหลายสัปดาห์ หลังจากนั้นลูกค้าจะสามารถสร้างแบบจำลองโมเดลภายภาพของโรงงานที่อ้างอิงหลักการทางฟิสิกส์และมีความสมจริงได้
ความร่วมมือนี้ยังได้ผสานความเชี่ยวชาญของซีเมนส์ด้านการผลิตและเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรม เข้ากับเทคโนโลยีชั้นนำด้านการประมวลผลกราฟิกของเอ็นวิเดีย ช่วยให้ลูกค้าออกแบบโรงงาน ผลิตภัณฑ์ และ AI ดาต้าเซนเตอร์ ที่ชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
ปีเตอร์ เคอร์เทอ กรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายกลยุทธ์ของซีเมนส์ เอจี กล่าวว่า "นวัตกรรมสำหรับภาคอุตสาหกรรมกำลังถูกเร่งพัฒนาขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยมีซีเมนส์และเอ็นวิเดียเป็นผู้นำ จากการผสานรวมจุดแข็งทางเทคโนโลยีของทั้งสององค์กร ด้วย Industrial AI, Digital Twin, ระบบอัตโนมัติ และเทคโนโลยีอาคาร ทำให้เมตาเวิร์สสำหรับภาคอุตสาหกรรมเกิดขึ้นได้จริง ตามด้วย โรงงานและ AI ดาต้าเซนเตอร์ รุ่นใหม่ๆ ที่จะมีประสิทธิภาพ พลังการประมวลผล ความสามารถในการขยายการเติบโต และความชาญฉลาดที่จำเป็นสำหรับตอบสนองความต้องการทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นการกำหนดอนาคตของภาคอุตสาหกรรม"
เรฟ เลบาเรเดียน รองประธานฝ่าย Omniverse และเทคโนโลยีการจำลองของเอ็นวิเดีย กล่าวว่า "Digital Twin เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในยุค Industrial AI ช่วยให้เราสามารถสร้างแบบจำลองและเพิ่มประสิทธิภาพตลอดสายการผลิต และยังสามารถฝึกฝนหุ่นยนต์ในโลกเสมือนจริงได้ก่อน โดยยังไม่ต้องติดตั้งฮาร์ดแวร์แม้แต่ชิ้นเดียว ความร่วมมือกับซีเมนส์นี้ยังได้นำแพลตฟอร์ม NVIDIA Omniverse เข้าสู่หัวใจของภาคการผลิต โดยนำเสนอความสามารถสำคัญของแพลตฟอร์มฯ ที่ช่วยเร่งกระบวนการตลอดวงจรชีวิตของโรงงาน ตั้งแต่การริเริ่มแนวคิดไปจนถึงการดำเนินงาน"
ทุกวันนี้ผู้ผลิตกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยมีมาก่อนในการรับมือกับความซับซ้อน การเร่งกระบวนการผลิต และการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ซึ่งเทคโนโลยีใหม่จะเข้ามาช่วยจัดการความท้าทายเหล่านี้ ด้วยการทำให้ผู้ผลิตเข้าถึงสภาพแวดล้อมที่คล่องตัวและใช้งานง่ายสำหรับการสร้างและโต้ตอบกับ Digital Twin ของโรงงาน ตัวอย่างเช่น ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์อาจต้องตั้งสายการผลิตใหม่เพื่อเพิ่มการผลิต พร้อมไปกับการจัดการกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนในโรงงานที่ดำเนินการอยู่แล้ว ด้วยเครื่องมือใหม่นี้ วิศวกรจะสามารถจำลองแบบผังหลากหลายแบบภายในอาคารโรงงานที่ดำเนินการอยู่ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อระบุแบบผังที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเป็นการร่นระยะเวลาสู่การเพิ่มการผลิต
ซีเมนส์มีความเชี่ยวชาญในการเชื่อมต่อทุกจุดของห่วงโซ่คุณค่าในโครงสร้างพื้นฐาน ตั้งแต่ชิปจนถึงโครงข่ายไฟฟ้า ตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการดำเนินงานอัจฉริยะและสภาพแวดล้อมในอาคาร ความสามารถครบวงจรนี้ช่วยให้ซีเมนส์และเอ็นวิเดียสามารถนำผลิตภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโอมาผสานกันเพื่อส่งมอบโซลูชัน ที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพ ความสามารถในการขยายการเติบโต และนวัตกรรมให้กับลูกค้าภาคอุตสาหกรรม
เทคโนโลยีของซีเมนส์ช่วยให้มั่นใจได้ว่า ระบบไฟฟ้า ระบบทำความเย็น ระบบประมวลผล และระบบอาคารจะทำงานเป็นหนึ่งเดียวกัน ตอบโจทย์ทั้งการสร้างโรงงานขึ้นใหม่หรือปรับปรุงสถานที่เดิม ด้วยการจำลองการทำงานของกระบวนการหรือระบบจริงและระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI (AI-Enabled Automation) ผู้ผลิตสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและขยายโรงงานได้ภายในไม่กี่เดือนจากเดิมที่อาจใช้เวลาเป็นปี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดการใช้พลังงาน และรองรับความต้องการในอนาคต
แนวทางนี้สอดคล้องกับ NVIDIA Omniverse DSX Blueprint ที่เพิ่งเปิดตัวและเป็นต้นแบบของดาต้าเซนเตอร์ยุคใหม่ระดับกิกะวัตต์ หรือ AI Factory หลายรุ่น ที่จะยกระดับมาตรฐานความเป็นเลิศของโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ครอบคลุมตั้งแต่ระบบประมวลผลความเร็วสูง ระบบจัดเก็บข้อมูลอัจฉริยะ ไปจนถึงระบบทำความเย็นที่ประหยัดพลังงาน ซีเมนส์และเอ็นวิเดีย ยังร่วมมือกันในการพัฒนากระบวนการผลิต GPU และการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างพื้นฐานของ AI ดาต้าเซนเตอร์ เพื่อส่งมอบโซลูชันที่สามารถปรับขยายขนาดได้ มีประสิทธิภาพสูง และพร้อมรองรับอนาคตของอุตสาหกรรมอัจฉริยะ
ตั้งแต่ระบบการออกแบบอิเล็กทรอนิกส์อัตโนมัติ และตัวควบคุมระบบอัตโนมัติในโรงงาน ไปจนถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการทำความเย็นในพื้นที่ติดตั้งอุปกรณ์ไอที (White Space Cooling) และระบบจัดการอาคารที่ยืดหยุ่น ซีเมนส์ช่วยให้พันธมิตรในอุตสาหกรรม GPU และ AI ดาต้าเซนเตอร์ ให้สามารถ:
- เปิด AI Factory ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
- ปรับการดำเนินงานให้สอดรับกับการอัปเกรด GPU ได้ทุกเมื่อ
- เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและระบบทำความเย็นด้วยการจำลองขั้นสูงของการใช้พลังงานทั้งในรูปของระบบไฟฟ้า ระบบทำความเย็น
- คาดการณ์และจัดการความเสี่ยงต่อการหยุดทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และเสริมความยืดหยุ่นและความพร้อมรับมือของห่วงโซ่อุปทาน
ซีเมนส์ และ เอ็นวิเดีย กำลังเร่งขับเคลื่อนการพัฒนาขีดความสามารถของ AI ด้วยการสนับสนุนผู้ผลิตและผู้ให้บริการดาต้าเซนเตอร์ให้มีโครงสร้างพื้นฐานที่ล้ำสมัยและประหยัดพลังงาน ความร่วมมือนี้กำลังสร้างรากฐานดิจิทัลที่ชาญฉลาดและแข็งแกร่งกว่าเดิม เพื่อเปิดทางสู่นวัตกรรมใหมๆ ที่ส่งเสริมโอกาสทางเศรษฐกิจ และทำให้ประโยชน์ของ AI ถูกนำมาใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและชุมชนทั่วโลก
CANDY ส่ง CANDY Eco Master เครื่องปรับอากาศประหยัดพลังงาน-รักษ์โลก คว้ารางวัล "สุดยอดสินค้าและบริการแห่งปี 2025" ตอกย้ำมาตรฐานแบรนด์คุณภาพที่ผู้บริโภคเชื่อมั่น
กรุงไทยร่วมกับ ONNEX By SCG โชว์ศักยภาพสำนักงานใหญ่สุขุมวิท คว้ามาตรฐานอาคารเขียว LEED Platinum ระดับสูงสุด มุ่งสู่ Net Zero และธนาคารยั่งยืน
"ทานตะวันอุตสาหกรรม" พลิกโฉมหลังคา สู่แหล่งผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ด้วยกำลังผลิต 3.45 ล้านกิโลวัตต์ต่อปี ดันอุตสาหกรรมไทยสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
"บ้านอยู่ดีทั้งชีวิต! พฤกษา จับมือ "ทอสเท็ม" นำนวัตกรรมประตูหน้าต่างมาตรฐานญี่ปุ่น เสริมความปลอดภัย-ลดค่าไฟ"
เบเยอร์ ตอกย้ำผู้นำนวัตกรรมสีรักษ์โลก อันดับ 1 เป็นบริษัทสีรายแรกและรายเดียวในไทย รับโล่ขอบคุณพันธมิตร "ฉลากประหยัดพลังงานเบอร์ 5" จาก พพ. และ กฟผ.
MediaTek Dimensity 9500 ยกระดับประสิทธิภาพ ประสบการณ์ AI และการประหยัดพลังงานที่ดีที่สุดในคลาส สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่
MediaTek พัฒนาชิปด้วยกระบวนการ 2nm ของ TSMC ยกระดับประสิทธิภาพและ การประหยัดพลังงานให้ล้ำไปอีกขั้น
ซัมซุงเผยโฉมเครื่องซักผ้า Bespoke AI รุ่นใหม่ A-65% และ Bespoke AI Laundry Combo เจเนอเรชัน 2 ในงาน IFA 2025