(6 พ.ย. 68) ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม - สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จัดงาน "NSTDA-KU Rice Field Day 2025" เป็นปีที่ 2 เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมการปรับปรุงพันธุ์ข้าวไทย ที่มุ่งนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสู่การปฏิบัติจริง พลิกโฉมภาคเกษตรไทยให้ยั่งยืนและแข่งขันได้ในระดับโลก ภายในงานจัดแสดง "พันธุ์ข้าวนวัตกรรมผลผลิตสูงถึง 1.5 - 2 ตันต่อไร่" ที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น ต้านทานโรค-แมลง ทนสภาวะแวดล้อมวิกฤติ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีพันธุ์ข้าวพร้อมใช้หรือพันธุ์ข้าวทางเลือกใหม่ ที่พัฒนาสำเร็จแล้วจำนวน 7 พันธุ์ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนพันธุ์จากกรมวิชาการเกษตร (รพ.2) และมี 3 พันธุ์อยู่ระหว่างการขอรับรองพันธุ์จากกรมการข้าว ได้แก่ ข้าวเจ้าพันธุ์หอมสยาม พันธุ์หอมสยาม 2 พันธุ์หอมชลสิทธิ์ 2 พันธุ์ไบโอเทค 1 และมีข้าวเหนียวพันธุ์น่าน 59 พันธุ์หอมนาคา รวมถึงข้าวโภชนาการที่ดี พันธุ์ไรซ์เบอรี่ 2 เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่เกษตรกรในการผลิตข้าวผลผลิตสูง มีศักยภาพรองรับสภาวะแวดล้อมวิกฤติ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ดร.ดำรงค์ ศรีพระราม รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า งานนี้เป็นผลผลิตจากความร่วมมือทางวิชาการอันยาวนานและมั่นคงระหว่างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กับ ไบโอเทค สวทช. ที่ดำเนินงานวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวร่วมกันมากว่า 25 ปี โดยนำเทคโนโลยีการคัดเลือกด้วยเครื่องหมายโมเลกุล (Marker-Assisted Selection หรือ MAS) มาประยุกต์ใช้อย่างเข้มข้น เพื่อสร้างสรรค์และปรับปรุงพันธุ์ข้าวใหม่ที่มีคุณสมบัติเด่นหลากหลาย ทั้ง พันธุ์ข้าวผลผลิตสูง พันธุ์ข้าวต้านทานโรคและแมลง ทนสภาพแวดล้อมวิกฤติ ข้าวโภชนาการสูง และข้าวคาร์บอนต่ำ ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หวังว่า นักวิชาการและที่สำคัญที่สุดคือพี่น้องเกษตรกรจะสามารถนำองค์ความรู้เหล่านี้ไปประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว เพิ่มรายได้ และลดต้นทุนการผลิตข้าวได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เชาวรีย์ อรรถลังรอง ผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ไบโอเทค สวทช. กล่าวว่า งานนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 เพื่อแสดงศักยภาพด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมการปรับปรุงพันธุ์ข้าวของไทยที่มุ่งตอบโจทย์ทั้งในมิติของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการพัฒนาพันธุ์ข้าวที่มีศักยภาพผลผลิตต่อไร่สูงในระดับ 1.5 - 2 ตันต่อไร่ พันธุ์ข้าวที่พัฒนาขึ้นมีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น เพียง 90-100 วัน ช่วยลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติและลดต้นทุนการผลิต ทั้งยังทำให้ภาคเกษตรของไทยสามารถปรับตัวและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างยั่งยืนผ่านการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนภาคเกษตรของประเทศ
ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยีการปรับปรุงพันธุ์ข้าวแบบแม่นยำและการนำเสนอสายพันธุ์ข้าวใหม่ที่มีคุณสมบัติดีเด่น โดยภายในงานมีกิจกรรมครอบคลุมตลอดห่วงโซ่มูลค่าของข้าว ณ แปลงนาสาธิต มีการจัดแสดงพันธุ์ข้าวผลผลิตสูง เพื่อก้าวสู่เป้าหมายผลผลิต 2 ตันต่อไร่ พร้อมทั้งพันธุ์ข้าวที่มีคุณสมบัติต้านทานโรคและแมลง รวมถึงทนทานต่อสภาวะแวดล้อมวิกฤติ โดย ดร.มีชัย เซี่ยงหลิว นักวิจัยไบโอเทค ได้แนะนำพันธุ์ข้าวดีเด่น ผลผลิตสูง และเชื้อพันธุกรรมข้าวให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสของจริงกับสายพันธุ์ที่มีศักยภาพสูงและพร้อมเผยแพร่ โดยเฉพาะกลุ่มพันธุ์ข้าวหอมไทยพื้นนุ่มคุณภาพพรีเมียม อาทิ พันธุ์หอมสยาม พันธุ์หอมสยาม 2 และพันธุ์หอมชลสิทธิ์ 2 นอกจากนี้ยังมีข้าวพันธุ์ไบโอเทค 1 ที่มีศักยภาพในการผลิตแบบข้าวคาร์บอนต่ำ ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายทางวิชาการจากผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อ "Breeding Beyond Boundaries" โดย ศ.ดร.อภิชาติ วรรณวิจิตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หัวข้อ "การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล AI ในงานข้าว" โดย ดร.ธีระ ภัทราพรนันท์ นักวิจัยเนคเทค สวทช. และหัวข้อ "สารชีวภัณฑ์สำหรับการจัดการแปลง" โดย ดร.อลงกรณ์ อำนวยกาญจนสิน นักวิจัยไบโอเทค สวทช. ตลอดจนมีการจัดนิทรรศการผลงานการปรับปรุงพันธุ์ พันธุ์ข้าวพร้อมใช้ และแปลงที่แสดงเชื้อพันธุกรรมข้าวกว่า 700 พันธุ์ พร้อมทั้งให้คำปรึกษาในการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการให้บริการด้านเทคโนโลยี
งาน "NSTDA-KU Rice Field Day 2025" เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการทำงานเชิงบูรณาการระหว่างภาครัฐ มหาวิทยาลัย และภาคการผลิต ที่นำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาสร้างผลลัพธ์จริงให้กับประเทศ ทั้งการเพิ่มรายได้ ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และยกระดับขีดความสามารถทางเทคโนโลยีของชาติ สอดคล้องกับพันธกิจของสวทช.ในการ "สร้างชาติด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี" (Empowering the Nation through Science and Technology) เพื่อให้ทุกผลงานวิจัยของไทยกลายเป็นพลังที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้ประเทศ
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ 1 ใน 6 หน่วยงานร่วมมือจัดการแข่งขันออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อสังคมยั่งยืน
วว. โดยการสนับสนุนจาก วช. ร่วมจัดงานประชุมวิชาการพืชสวนแห่งชาติ ครั้งที่ 22 มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมพืชสวนไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
TechInno Forum 2025 ชี้การขับเคลื่อนแนวคิด "Care Economy" เป็น New-S Curve สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน
วว. ขยายผลการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานศูนย์ Shared-Production Service "อย่างสร้างสรรค์เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน" ณ สปป.ลาว
กรมพัฒนาที่ดิน จับมือ NECTEC เปิดตัวโครงการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยี AI และการวิเคราะห์เชิงพื้นที่ ยกระดับการประเมินความเสื่อมโทรมของดินตามแนวคิด LDN
กระทรวง อว. โดย สวทช. อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทยและอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคทั่วประเทศร่วมกันจัดงานประชุมประจำปีสมาคมอุทยานวิทยาศาสตร์แห่งเอเชียครั้งที่ 28 ASPA Annual Conference 2025 อย่างยิ่งใหญ่
วว. พัฒนาต้นแบบเวชสำอางจากสารสกัดต้นกล้วย
วว. คว้า 2 รางวัล จากผลงาน สมุยบลูมชีลด์: นวัตกรรมกันแดดสเต็มเซลล์พืชจากดอกปทุมมาสายพันธุ์ใหม่ @ เวทีประกวด iENA 2025 สหพันธรัฐเยอรมนี