"ซิตี้แบงก์" คาดการณ์จีดีพีโลกครึ่งหลังปี 68 ชะลอตัวเหลือ 1.5% หลังเผชิญแรงกดดันทางการค้าพร้อมคาดจีดีพีไทยปี 68 เติบโต 2.2% ก่อนชะลอตัวเหลือ 1.6% ในปี 69 รับผลท่องเที่ยวและส่งออก

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ธนาคารซิตี้แบงก์ ชี้เศรษฐกิจโลกในครึ่งหลังของปี 2568 ชะลอตัวเหลือ 1.5% ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนและความท้าทายทางการค้าขณะที่เศรษฐกิจไทยตลอดปี 2568 คาดว่าจะเติบโตที่ 2.2% และชะลอลงเหลือ 1.6% ในปี 2569 โดยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการส่งออก การฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชนที่ยังไม่กว้างขวาง และผลการดำเนินงานของภาคการท่องเที่ยวที่ยังไม่ถึงศักยภาพที่คาดหวัง

"ซิตี้แบงก์" คาดการณ์จีดีพีโลกครึ่งหลังปี 68 ชะลอตัวเหลือ 1.5% หลังเผชิญแรงกดดันทางการค้าพร้อมคาดจีดีพีไทยปี 68 เติบโต 2.2% ก่อนชะลอตัวเหลือ 1.6% ในปี 69 รับผลท่องเที่ยวและส่งออก

โจฮันน่า ฉัว หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและตลาดเกิดใหม่ และตลาดภูมิภาคเอเชีย ซิตี้กรุ๊ป กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกล่าสุดยังคงมีความยืดหยุ่นแม้เผชิญความผันผวนโดยเฉพาะจากนโยบายการค้าของสหรัฐอเมริกา สะท้อนจากจีดีพีโลกในครึ่งแรกของปี 2568 เติบโต 2.4% เนื่องจากประเทศต่าง ๆ นอกจากจีน ยังไม่มีการตอบสนองต่อมาตรการภาษีสหรัฐฯ อย่างจริงจัง ขณะเดียวกัน ภาคธุรกิจได้เร่งส่งออกล่วงหน้าและช่วยดูดซับต้นทุนจากภาษี ทำให้ผลกระทบต่อผู้บริโภคยังไม่ชัดเจน นอกจากนี้ อุตสาหกรรมที่ไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีอย่างการลงทุนใน AI อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเซมิคอนดักเตอร์ยังสนับสนุนการส่งออก ประกอบกับประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) รวมถึงประเทศไทยได้เห็นการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดลดลง เป็นปัจจัยช่วยพยุงเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม เมื่อปัจจัยพยุงเหล่านี้เริ่มคลายตัว ซิตี้แบงก์คาดว่าเศรษฐกิจโลกในครึ่งหลังของปี 2568 จะชะลอลงเหลือ 1.5% ขณะที่ในครึ่งแรกและครึ่งหลังของปี 2569 จะฟื้นตัวอยู่ที่ 2.9% และ 2.8% ตามลำดับ

"ขณะที่สถานการณ์ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ มีแนวโน้มอ่อนค่าลงในช่วงครึ่งปีหลัง แม้จะช่วยกระตุ้นให้เงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่ แต่อาจสร้างความท้าทายต่อเศรษฐกิจเอเชียและไทย เนื่องจากค่าเงินแข็งค่าขึ้นในขณะที่ภาคการส่งออกยังถูกกดดันจากมาตรการภาษีการค้า อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อของประเทศตลาดเกิดใหม่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อโลกที่ราว 3% ทำให้ธนาคารกลางในหลายประเทศมีช่องว่างในการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ"

เหว่ย เจิ้ง คิต หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจตลาดเอเชีย ซิตี้ กล่าวว่า "ซิตี้แบงก์คาดการณ์ว่าจีดีพีประเทศไทยจะเติบโต 2.2% ในปี 2568 ก่อนที่จะชะลอลงเหลือ 1.6% ในปี 2569 โดยเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับการชะลอตัวที่ยาวนานขึ้นในช่วงหลายไตรมาสข้างหน้า เนื่องจากผลจากการเร่งการผลิตลดลงและภาษีส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ภายในประเทศ การเติบโตของการส่งออกชะลอตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากมีการเร่งการผลิต แต่มีสัญญาณการชะลอตัวที่ชัดเจนขึ้นในครึ่งหลังของปี 2568 การชดเชยการส่งออกในเดือนสิงหาคมแข็งแกร่งกว่าสำหรับประเทศไทย เมื่อเทียบกับประเทศอาเซียนอื่นๆ โดยที่ส่วนเกินทางการค้าอาจบ่งชี้ถึงการเพิ่มขึ้นของการส่งออกสุทธิที่น้อยลงมาก (หรือแม้กระทั่งการหดตัว) ในไตรมาส 3/2568 ในขณะที่การลดลงของการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการเกษตรอาจบ่งชี้ถึงแรงฉุดจากการลดสต็อกสินค้าที่รุนแรงขึ้น"

สำหรับการลงทุนภาคเอกชนยังส่งสัญญาณฟื้นตัว แต่จำกัดอยู่ในหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ จากโครงการที่ได้รับอนุมัติในช่วงปี 2566-2567 อย่างไรก็ตาม ผลิตภาพแรงงานที่ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลให้ประเทศไทยเสียเปรียบในเชิงต้นทุนการผลิต นอกจากนี้ อุปสรรคเชิงโครงสร้างยังคงเป็นข้อจำกัดต่อการดึงดูดการลงทุนระยะยาวในอนาคต ขณะเดียวกัน ภาคการท่องเที่ยวยังคงเปราะบางจากประเด็นด้านความปลอดภัยและเงินบาทแข็งค่า โดยดัชนีนักท่องเที่ยวขาเข้าประเทศไทยล่าสุดในเดือนมิถุนายน 2568 ยังไม่ฟื้นตัวกลับสู่ระดับก่อนโควิด ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม มีปริมาณนักท่องเที่ยวสูงกว่าระดับก่อนโควิดแล้ว

"สำหรับปีงบประมาณ 2569 การใช้จ่ายภาครัฐมีแนวโน้มกระตุ้นเศรษฐกิจได้น้อยกว่าปีก่อนหน้า เนื่องจากรัฐบาลตั้งเป้าลดระดับการขาดดุลลงเหลือ 4.3% ของจีดีพี ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญต่อการออกมาตรการกระตุ้นขนาดใหญ่ เว้นแต่จะมีการปรับเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะสู่ระดับ 70% ของจีดีพี ภายใต้ข้อจำกัดด้านนโยบายการคลังดังกล่าว ซิตี้แบงก์คาดการณ์ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินในทิศทางผ่อนคลายต่อไป จากแรงกดดันด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำกว่าคาดและค่าเงินบาทที่แข็งค่า" นายคิต กล่าวสรุป


ข่าวธนาคารซิตี้แบงก์+ธนาคารซิตี้แบงวันนี้

20 ปีแห่งการให้ "ซิตี้แบงก์ ประเทศไทย" ร่วมพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนในวันชุมชนซิตี้

ในยุคแห่งปัจเจกนิยมที่ผู้คนต่างจดจ่อกับความสุขของตนเอง จนอาจหลงลืมที่จะแบ่งปันความช่วยเหลือแก่คนรอบข้าง การจัดกิจกรรมที่สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการให้ จึงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้สังคมเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง นี่คือแนวคิดที่สถาบันการเงินระดับโลกอย่างธนาคารซิตี้แบงก์ให้ความสำคัญ นำมาสู่การจัดกิจกรรม 'วันชุมชนซิตี้' (Citi Global Community Day) กิจกรรมเพื่อสังคมประจำปีขององค์กร ที่มีวัตถุประสงค์ให้พนักงาน ครอบครัว และพันธมิตรของซิตี้แบงก์ทั่วโลก ร่วมบริจาคหรือ

นางสาวนฤมล จิวังกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ... ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย รับรางวัล AMCHAM Corporate Social Impact ประจำปี 2566 — นางสาวนฤมล จิวังกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย (คน...

นางสาวนฤมล จิวังกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ... "ธนาคารซิตี้แบงก์" จัดงานเสวนาอัปเดตโซลูชันบัตรเครดิตสำหรับภาคธุรกิจ — นางสาวนฤมล จิวังกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย (คนที่ 4 จากขวา...

นางสาวนฤมล จิวังกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ... "ธนาคารซิตี้แบงก์" จัดงานเสวนาอัปเดตโซลูชันบัตรเครดิตสำหรับภาคธุรกิจ — นางสาวนฤมล จิวังกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย (คนที่ 4 จากขวา...