บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ITC) ผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง รายงานผลประกอบไตรมาส 2 ปี 2568 ด้วยยอดขาย 4,473 ล้านบาท เติบโต 5.3% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณการขายที่เติบโต 6.9% ขับเคลื่อนด้วยคำสั่งซื้อจากกลุ่มลูกค้าผู้นำเข้าแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลก กำไรขั้นต้น 1,120 ล้านบาท โต 9.6% จากไตรมาสก่อนหน้า กำไรสุทธิปรับปรุงอยู่ที่ 803 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.40 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ 10% โดยหุ้น ITC ถือเป็นหุ้นศักยภาพใน ดัชนี SET50 ที่จ่ายปันผลสูงในระดับดีต่อเนื่อง
นายรอย ชาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ผลการดำเนินงานของเราในช่วงครึ่งปีแรกสะท้อนถึงรากฐานการดำเนินธุรกิจที่มีความมั่นคง และความเข้มแข็งจากการรักษาความสัมพันธ์
ที่ดีกับลูกค้าที่ช่วยขับเคลื่อนความสำเร็จของกลยุทธ์การเติบโตในระยะยาวตลอดจนความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับ
ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงคุณภาพสูง ส่งผลให้ปริมาณการขายเติบโตต่อเนื่อง สะท้อนถึงความไว้วางใจที่ลูกค้าทั่วโลกมีต่อเรา แม้ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนทั้งเรื่องภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และแรงกดดันจากอัตราแลกเปลี่ยน สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องมีความยืดหยุ่น พร้อมปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ โดยมุ่งเน้นการนำนวัตกรรมมาเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน ขยายธุรกิจไปสู่ตลาดใหม่ และการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายของเรา"
สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2568 ITC มียอดขาย 8,722 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 8.1% ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 12.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีกำไรขั้นต้น 2,141 ล้านบาท และกำไรสุทธิปรับปรุง 1,597 ล้านบาท ผลมาจากความสำเร็จของโปรเจกต์ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการมูลค่า 56 ล้านเหรียญในสหรัฐฯ และการส่งออกสินค้าล็อตแรกให้กับแบรนด์ผู้นำเข้ารายใหม่ในสหราชอาณาจักรและยุโรป ตอกย้ำจุดแข็งที่โดดเด่นเหนือคู่แข่งของ ITC ซึ่งครอบคลุมการมีฐานลูกค้าทั่วโลกที่เติบโตต่อเนื่อง ความสามารถในการเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบพรีเมียมคุณภาพสูง การขับเคลื่อนนวัตกรรมผ่านทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ ทำให้ ITC เป็นผู้ผลิตที่ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก อีกทั้ง มีรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ใหม่ 1,635 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าขยายพอร์ตสินค้าและพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
"เรายังมุ่งมั่นขับเคลื่อนกลยุทธ์เร่งการเติบโตผ่าน โปรเจคต์เทลวินด์ (Project Tailwind) เพื่อยกระดับการดำเนินธุรกิจ ผ่านการเพิ่มประสิทธิผลของกระบวนการผลิต การจัดซื้อจัดจ้าง พร้อมทั้งการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และที่สำคัญ ITC ยังมีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการพิจารณาความร่วมมือทางธุรกิจ ผ่านการควบรวมกิจการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและขยายความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในระยะยาวได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตในปี 2573 ได้ นอกจากนี้ เรายังตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มผลกำไรจากการดำเนินงานให้ได้ 50 ล้านเหรียญตั้งแต่ปี 2570 เป็นต้นไป" นายรอย ชาน กล่าวเสริม
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังได้เตรียมแผนการรับมือเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดจากนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ โดยเราให้ความสำคัญในการทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินสถานการณ์และวางแผนกลยุทธ์เรื่อง cost-sharing และขยายฐานการผลิตไปยังประเทศที่มีอัตราภาษีนำเข้าต่ำอีกด้วย
ไทยยูเนี่ยน และ ไอ-เทล คว้า 2 รางวัล จากเวทีสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 14
ไอ-เทล สานต่อโครงการ "ไอ-เทล เพื่อเพื่อนรักสี่ขา" ด้วยรักและวัคซีน เดินหน้า ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้แก่สุนัขและแมวในชุมชน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
ITC ประกาศเปลี่ยนแปลงผู้นำ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตเชิงกลยุทธ์
ITC เผยผลประกอบการไตรมาส 1/2568 โตต่อเนื่อง รับดีมานด์พุ่ง ทำรายได้รวม 4,249 ล้านบาท กำไรสุทธิ 677 ล้านบาท ชูกลยุทธ์ "สร้างความแตกต่างด้วยนวัตกรรม"
ITC โชว์ผลงานปี 2567 กวาดรายได้สุดปังทะลุ 1.7 หมื่นล้าน กำไร 3.6 พันล้าน โต 58 เปอร์เซ็นต์ พร้อมจ่ายเงินปันผลครึ่งปีหลัง 0.75 บาทต่อหุ้น
กรุงศรี จับมือ ไทยยูเนี่ยน และ ไอ-เทล เปิดตัวโครงการ ESG-Linked Foreign Exchange (FX) ด้วยมาตรฐานสากล
ITC สุดปัง โชว์ผลงานไตรมาส 3 กวาดยอดขาย 4.4 พันล้านบาท ดันกำไรพุ่ง 51% ตอกย้ำความเป็นผู้นำ เดินหน้าขยายธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงทั่วโลก
ไอ-เทล คว้ารางวัลประกาศเกียรติคุณรับรอง "อุตสาหกรรมสีเขียวระดับที่ 4" ประจำปี 2567 มุ่งดำเนินธุรกิจ ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและพัฒนาชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืน