สกพอ. รับคณะ ผู้บริหารรุ่นใหม่ธุรกิจไทย-จีน รุ่นที่ 2 (Young 2) เปิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนา พื้นที่อีอีซี

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ให้การต้อนรับ คณะจากหลักสูตรผู้บริหารรุ่นใหม่ธุรกิจไทย-จีน รุ่นที่ 2 (Young 2) จำนวน 60 ท่าน ณ สำนักงาน สกพอ. ชั้น 25 อาคารโทรคมนาคม รวมทั้งได้บรรยายสรุปเกี่ยวกับบทบาทและภารกิจของ สกพอ. และสร้างความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับการดำเนินงานของ สกพอ. ในฐานะหน่วยงานหลักด้านการวางนโยบายและขับเคลื่อนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจของประเทศผ่านการส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น ยานยนต์สมัยใหม่ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ การแพทย์ครบวงจร และพลังงานสะอาด

สกพอ. รับคณะ ผู้บริหารรุ่นใหม่ธุรกิจไทย-จีน รุ่นที่ 2 (Young 2) เปิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนา พื้นที่อีอีซี

นอกจากนี้ ผู้เข้าอบรมฯ ยังได้รับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับบทบาท ภารกิจ และภาพรวมโครงการสำคัญของ สกพอ. อาทิ โครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในพื้นที่อีอีซี อาทิ ท่าเรือน้ำลึก รถไฟความเร็วสูง และสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ตลอดจนโครงการพัฒนาเมืองใหม่อัจฉริยะ (Smart Livable City) ศูนย์ธุรกิจ EEC การพัฒนาเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ และแผนการยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนในพื้นที่โดยรอบ สกพอ. รับคณะ ผู้บริหารรุ่นใหม่ธุรกิจไทย-จีน รุ่นที่ 2 (Young 2) เปิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนา พื้นที่อีอีซี

สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนแนวคิดระหว่างผู้บริหารรุ่นใหม่ เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการลงทุนในอนาคต อันจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนของภูมิภาคและประเทศในระยะยาว


ข่าวส่งเสริมอุตสาหกรรม+คณะกรรมการนโยบายวันนี้

กระทรวงอุตฯ ชูผลสำเร็จ 1 ทศวรรษ "Angel Fund" ดีพร้อม-เดลต้า ปั้น "ผู้ประกอบการอัจฉริยะ" 237 ราย สร้างมูลค่าเศรษฐกิจทะลุ 1,000 ล้านบาท พร้อมรุก 3 กลยุทธ์ใหม่ ดันดีพเทคดาวรุ่งสู่ตลาดอุตสาหกรรม

กรุงเทพฯ 31 ตุลาคม 2568 — กระทรวงอุตสาหกรรม โดย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) ร่วมกับ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แถลงผลสำเร็จการดำเนินโครงการเชื่อมโยงแหล่งเงินทุนและตลาดสำหรับวิสาหกิจเริ่มต้น (Angel Fund) ในวาระครบรอบ 1 ทศวรรษ พร้อมมอบเงินทุนสนับสนุนการจัดตั้งและขยายธุรกิจแก่สตาร์ทอัพและคอนเทนต์ครีเอเตอร์รวม 31 ราย มูลค่า 5 ล้านบาท ตั้งเป้าสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจกว่า 150 ล้านบาทในปี 2568 โดยตลอด 10 ปีของโครงการ สามารถสร้าง "ผู้ประกอบการอัจฉริยะ" (Smart