เสมา 2 โชว์ตัวอย่าง โรงเรียนวัดกู่คำฯ ต้นแบบโรงเรียนขยายโอกาส สร้าง Learner Leader Innovator ด้วยผลประเมินคุณภาพภายนอกของ สมศ.

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

"กระทรวงศึกษาธิการ" ลงพื้นที่เยี่ยมชมโรงเรียนวัดกู่คำ (เมธาวิสัยคณาทร) จ.เชียงใหม่ ชมตัวอย่างความสำเร็จ ต้นแบบโรงเรียนขยายโอกาส ในการยกระดับคุณภาพสถานศึกษาและนักเรียนจากการนำผลการประเมินคุณภาพภายนอกมาปรับใช้ สร้าง Learner Leader Innovator ด้วยผลประเมินคุณภาพภายนอกของ สมศ. พร้อมย้ำจุดเน้นการประกันคุณภาพเพื่อพัฒนาสถานศึกษาขนาดเล็ก และโรงเรียนขยายโอกาสสู่มาตรฐานใหม่

เสมา 2 โชว์ตัวอย่าง โรงเรียนวัดกู่คำฯ ต้นแบบโรงเรียนขยายโอกาส สร้าง Learner Leader Innovator ด้วยผลประเมินคุณภาพภายนอกของ สมศ.

ผศ.ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การประเมินคุณภาพภายนอก โดย สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. นับเป็นกลไกที่สำคัญในการตรวจสอบและกระตุ้นให้หน่วยงานที่จัดการศึกษาตั้งแต่ระดับชาติถึงหน่วยงานที่เล็กที่สุดคือสถานศึกษาและภายในห้องเรียน ต้องมีการประเมินตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาให้ยั่งยืน การประเมินนี้มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพการศึกษา โดยผู้ประเมินจะลงพื้นที่เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลในสถานศึกษาตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อวิเคราะห์ "สิ่งที่สถานศึกษาทำได้ดี" และ "สิ่งที่สถานศึกษาสามารถเดินหน้าพัฒนาให้ดีมากยิ่งขึ้น" ยกตัวอย่าง การประเมินเสมือนการส่องกระจก ที่ช่วยให้สถานศึกษาตระหนักรู้ถึงปัญหา และสามารถมองหาทางออกว่าควรทำอะไรเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขได้บ้าง ด้วยเหตุนี้การประเมินคุณภาพภายนอก จะสร้างความมั่นใจให้กับผู้เรียน ผู้ปกครอง และสังคมว่าการศึกษาที่ได้รับ มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ เสมา 2 โชว์ตัวอย่าง โรงเรียนวัดกู่คำฯ ต้นแบบโรงเรียนขยายโอกาส สร้าง Learner Leader Innovator ด้วยผลประเมินคุณภาพภายนอกของ สมศ.

บริบทของสถานศึกษาขนาดเล็กและโรงเรียนขยายโอกาสมีลักษณะคล้ายคลึงกันตรงที่ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลหรือชุมชนที่ขาดแคลน เพื่อให้โอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชนของชาติ สถานศึกษาเหล่านี้จึงมีภารกิจสำคัญในการจัดการศึกษาให้ทั่วถึง ลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม จึงจำเป็นต้องเร่งการประเมินคุณภาพการศึกษาในกลุ่มสถานศึกษาดังกล่าว ซึ่งการประเมินคุณภาพภายนอกจะทำให้สถานศึกษาทราบถึงจุดเด่น จุดที่ควรปรับปรุง ตลอดจนแนวทางในการพัฒนาสถานศึกษา เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการดำเนินงานเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาให้ดีขึ้นได้

พร้อมกันนี้ ตนในฐานะรัฐมนตรีที่กำกับ สมศ. ได้ให้คำแนะนำในการปฏิบัติงานในการดำเนินงานด้านการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษา โดยให้ สมศ. ดำเนินการประเมินคุณภาพภายนอกเชิงคุณภาพ มุ่งเน้นไปที่การประเมินคุณภาพภายนอกให้กับสถานศึกษาขนาดเล็ก สถานศึกษาในพื้นที่ห่างไกล รวมถึงโรงเรียนขยายโอกาส เพื่อให้ได้ผลการประเมินคุณภาพภายนอกที่สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษาและสามารถนำข้อเสนอแนะที่ได้รับไปใช้พัฒนาได้จริง

กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการยกระดับคุณภาพการศึกษาในโรงเรียนขนาดเล็กและโรงเรียนขยายโอกาสทั่วประเทศ โดยเฉพาะการส่งเสริมให้นักเรียนสามารถพัฒนาเป็น "ผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต ผู้นำแห่งอนาคต และนักนวัตกรรม" (Learner, Leader, Innovator) ได้อย่างเป็นรูปธรรม การลงพื้นที่ครั้งนี้นับเป็นโอกาสสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่า หากสถานศึกษาได้รับการสนับสนุนอย่างเหมาะสมทั้งด้านนโยบาย และเครื่องมือที่ช่วยพัฒนาคุณภาพ เช่น ผลการประเมินคุณภาพภายนอกและข้อเสนอแนะจาก สมศ. ที่มุ่งเน้นพัฒนา ไม่ใช่ตัดสิน สถานศึกษาก็สามารถพลิกข้อจำกัดให้กลายเป็นโอกาส และสร้างแบบอย่างการเรียนรู้ใหม่ นำพาประเทศชาติไปสู่ความ "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ตามวิสัยทัศน์ของประเทศไทยตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) กระทรวงศึกษาธิการพร้อมสนับสนุนความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก ตลอดจนสนับสนุนการขยายผลแนวปฏิบัติที่ดีจากโรงเรียนต้นแบบอย่างโรงเรียนวัดกู่คำฯ ไปยังสถานศึกษาอื่น ๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้ระบบการศึกษาไทยเป็นพื้นที่ของโอกาส และความเท่าเทียม

ศาสตราจารย์ ดร.องอาจ นัยพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. กล่าวว่า สำหรับแนวทางประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษาขนาดเล็กและโรงเรียนขยายโอกาส และสถานศึกษาอื่นๆ ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สมศ. ได้ยึดหลัก "การประเมินเพื่อพัฒนาและยกระดับคุณภาพ" (Quality Improvement) ซึ่งจุดเน้นสำคัญของการประเมินในครั้งนี้ ได้แก่ การลดภาระ เพิ่มคุณภาพ ด้วยการนำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาสนับสนุนกระบวนการประเมินตั้งแต่ต้นจนจบ จาก Paper-based สู่ Digital-based ลดภาระของสถานศึกษา ลดการจัดเตรียม / ลดจำนวนวันประเมินเพื่อให้สอดคล้องตามบริบทของแต่ละสถานศึกษา กำหนดรูปแบบการตรวจเยี่ยมแบบผสมผสานหลายวิธี (Hybrid) ทั้ง Virtual Visit และ Onsite Visit ในสถานศึกษาแห่งเดียวกัน ข้อมูลประกอบการประกันคุณภาพภายนอก คือ SAR ปีการศึกษาล่าสุดที่หน่วยงานต้นสังกัดส่งผ่านระบบ Automated QA

กรณีลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานศึกษา สมศ. จะพิจารณา "ร่องรอยหลักฐาน" ผลการดำเนินงานอื่นๆ ของสถานศึกษา "เพิ่มเติมได้" หลักฐานเป็นได้ทั้งรูปแบบเอกสาร หรือรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ แต่มิใช่ "ข้อมูลที่จัดทำขึ้นใหม่" สำหรับรองรับการประเมิน เพื่อให้ครูผู้สอนสามารถทุ่มเทเวลาให้กับการจัดการเรียนการสอนอย่างเต็มที่ และ การประเมินด้วยแนวทาง "กัลยาณมิตร" ที่เน้นความร่วมมือ ความเข้าใจ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้ประเมินกับสถานศึกษา เน้นการประเมินแบบองค์รวม (Holistic) คำนึงถึงบริบทเฉพาะของสถานศึกษาและผลลัพธ์ของผู้เรียนเป็นสำคัญ ไม่ใช่การตัดสินหรือจับผิด แต่เป็นการชี้แนะอย่างสร้างสรรค์ ผลักดันการใช้ผลประเมิน เป็นเครื่องมือพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สถานศึกษาสามารถพัฒนาได้อย่างตรงจุดและยั่งยืน

จากการประเมินคุณภาพภายนอก สมศ. พบตัวอย่างโรงเรียนวัดกู่คำ (เมธาวิสัยคณาทร) จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาที่สามารถยกระดับคุณภาพผู้เรียนอย่างโดดเด่น จากการนำนวัตกรรมการเรียนรู้และผลการประเมินคุณภาพภายนอกของ สมศ. มาปรับใช้ เพื่อพัฒนานักเรียนให้เป็น "Learner, Leader และ Innovator" ได้อย่างเป็นรูปธรรม แม้จะมีข้อจำกัดด้านทรัพยากรและศักยภาพก็ตาม โดยข้อค้นพบจากการประเมินคุณภาพภายนอก โรงเรียนวัดกู่คำ (เมธาวิสัยคณาทร) พบว่า สถานศึกษามีการนำผลการประเมินคุณภาพภายนอกจากครั้งก่อน (ปี พ.ศ. 2564) มาปรับใช้ด้านการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ในการเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ การเป็นผู้นำและการเป็นนวัตกร ผ่านแนวคิด (Learner, Leader, Innovator) ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้และโครงการทางวิชาการต่างๆ เป็นต้น

ด้าน ดร.ประคอง พิไรแสงจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดกู่คำ (เมธาวิสัยคณาทร) กล่าวว่า จากการเข้ารับการประเมินคุณภาพภายนอกจาก สมศ. ในปี พ.ศ. 2568 นี้ได้เปลี่ยนทัศนคติของครูและนักเรียนจากความกังวลสู่ความเข้าใจ และร่วมมือกันพัฒนาคุณภาพอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ผลการประเมินคุณภาพภายนอกที่ได้รับจาก สมศ. ยังช่วยให้สถานศึกษาเห็นความจำเป็นในการเผยแพร่นวัตกรรมและแนวปฏิบัติที่ดี เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องรับรู้และร่วมพัฒนา พร้อมทั้งเน้นการพัฒนา Mindset ครูและนักเรียน ให้เห็นคุณค่าการเรียนรู้และดูแลตนเอง ซึ่งทั้งหมดนำไปสู่เป้าหมายในการสร้างผู้เรียนให้เป็น ผู้เรียนรู้ ผู้นำ และนวัตกร (Learner, Leader, Innovator) ผ่านวิธีการปฏิบัติจริง อาทิ การตั้งเป้าหมายรายบุคคล การประเมินกลุ่มเพื่อน การดูแลกันเองตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาที่ 1 ด้วยการจัดทำกระบวนการเรียนรู้แบบ 1 วิถี 4 กิจกรรม ได้แก่ 1.กิจกรรมกลุ่ม 2 มิติ - ฝึกการเรียนรู้อยู่ร่วมกันบนวิถีประชาธิปไตยและความเป็นผู้นำ 2.กิจกรรมเล่าเรื่องประเทืองปัญญา - ฝึกทักษะการเรียนรู้ ทักษะการคิดผ่านข่าวและเหตุการณ์รอบตัว 3.กิจกรรมจิตศึกษา - พัฒนาสติ ปัญญา อารมณ์และความเข้าใจตนเอง 4. กิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการสร้างสรรค์นวัตกรรม - ฝึกให้ผู้เรียนได้เรียนรู้สู่การสร้างนวัตกรรมอย่างเป็นรูปธรรมจากสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวของผู้เรียน ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ที่ต่อยอดได้จริงในชีวิต

"แม้จะเผชิญข้อจำกัดด้านทรัพยากรและบุคลากร แต่โรงเรียนวัดกู่คำฯ ยังสามารถสร้างผู้เรียนที่มีไอเดียโดดเด่นและพร้อมพัฒนาให้เท่าทันโลกอนาคต โดยเชื่อว่า 65% ของอาชีพในวันนี้จะหายไปในอนาคต จึงต้องเตรียมผู้เรียนให้มีทักษะเรียนรู้ตลอดชีวิตและความสามารถในการปรับตัว สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เราไม่ได้มองการประเมินเป็นการตัดสิน แต่เป็นกระจกสะท้อนที่ช่วยให้เราพัฒนาตัวเองและเด็ก ๆ อย่างแท้จริง" นายประคอง ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดกู่คำฯ กล่าว

โรงเรียนวัดกู่คำ (เมธาวิสัยคณาทร) จ.เชียงใหม่ เป็นโรงเรียนขยายโอกาส เปิดสอนระดับชั้น อนุบาลปีที่ 1 - มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีจำนวนเด็กนักเรียนและผู้เรียน 239 คน มีนักเรียนระดับมัธยมศึกษา จำนวน 71 คน อัตราส่วนผู้เรียนในสถานศึกษาเป็นเด็กพื้นที่ร้อยละ 71 เด็กต่างชาติร้อยละ 25 และเด็กชาติพันธุ์ร้อยละ 4 พร้อมรับการสนับสนุนอย่างเป็นระบบจากหน่วยงานภายนอก ทั้งในด้านงบประมาณ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และทรัพยากรด้านนวัตกรรมการศึกษา เพื่อช่วยเสริมสร้างศักยภาพของครูและนักเรียน โดยเฉพาะในสถานศึกษาขนาดเล็กที่มีข้อจำกัดเชิงโครงสร้าง แม้จะมีนักเรียนที่มีไอเดียและความสามารถโดดเด่น แต่ยังขาดกลไกสนับสนุนให้ก้าวสู่ความเป็นเลิศได้อย่างเต็มศักยภาพ พร้อมกันนี้ โรงเรียนยังเห็นว่าการประเมินคุณภาพภายนอก จาก สมศ. ในทุก 5 ปี มีความสำคัญในการเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเชิงพัฒนา โดยมี สมศ. ทำหน้าที่เป็นทั้งผู้ประเมินและ "พี่เลี้ยงทางวิชาการ" ที่สามารถให้คำแนะนำ ต่อยอด และร่วมวางแผนการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม


ข่าวกระทรวงศึกษาธิการ+โรงเรียนขยายโอกาสวันนี้

สสวท.เชิญร่วมชมพิธีเปิดออนไลน์งาน "เทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ ครั้งที่ 21"

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) จัดงาน "เทศกาลภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เพื่อการเรียนรู้ ครั้งที่ 21" ภายใต้แนวคิด "งานสีเขียว (Green Jobs)" ในวันที่ 31 ตุลาคม 2568 เวลา 13.30 น. โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ธีระเดช เจียรสุขสกุล ผู้อำนวยการ สสวท. ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ดร.ชัยวุฒิ เลิศวนสิริวรรณ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สสวท. และคณะผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรร่วมจัดเข้าร่วมพิธี ได้แก่ Ms. Sweta Madhuri Kannan ผู้แทนเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

ดร.วรัท พฤกษาทวีกุล รองปลัดกระทรวงศึกษาธิ... "วรัท" ยอมรับหลักสูตรอบรมลูกเสือล้าสมัย สลช.เร่งปรับปรุงให้โดนใจวัยโจ๋ — ดร.วรัท พฤกษาทวีกุล รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ทำหน้าที่เลขาธิการลูกเสือแห่งชาติ เป...

บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกั... โฟร์โมสต์ผนึกกำลังพันธมิตร "ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทย" ปีที่ 5 — บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมโฟร์โมสต์...