Sam Smith ส่งเพลงใหม่ทรงพลัง "To Be Free" พร้อมน้ำเสียงและซาวด์ดนตรีที่คิดถึง อีกหนึ่งผลงานมาสเตอร์พีซที่พิสูจน์ความสามารถในการเป็นศิลปินระดับโลก

ฟังเพลง "To Be Free" ของ Sam Smith ได้ที่นี่

https://SamSmithTH.lnk.to/ToBeFreePR

Sam Smith กล่าวว่า "ตอนทำเพลงนี้ ผมไม่เคยมีประสบการณ์การอัดเสียงแบบนี้มาก่อนเลย เพราะมันคือการร้องเพลงและเล่นกีตาร์เทคเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นการแสดงสดครั้งเดียวของผมกับเพื่อนของผม Simon Aldred ด้วยดนตรีและการแสดงออกที่ไร้การปรุงแต่งจริง ๆ"

"ผมแต่งเพลงนี้เมื่อ 5 ปีก่อน ตอนที่กำลังทำ Gloria อัลบั้มล่าสุด ตอนนั้นผมเก็บเพลงนี้เอาไว้ เพราะผมรู้ว่ามันไม่ใช่เพลงสำหรับอัลบั้มนั้น เพลงนี้ผมแต่งขึ้นมาในช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตของผมที่ได้เป็นอิสระจากภายในใจของตัวเอง กับเพลงนี้ ภาพของแม่น้ำยังคงเข้ามาในความคิดและในใจของผม ผมโตมาใกล้แม่น้ำเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในชนบทของเคมบริดจ์เชอร์ ประเทศอังกฤษ จากนั้นผมก็ย้ายไปลอนดอนและอยู่ใกล้แม่น้ำเทมส์ และตอนนี้ผมก็อยู่ใกล้แม่น้ำฮัดสัน แม่น้ำอยู่ในชีวิตของผมอยู่เสมอ ดังนั้นผมจึงรู้สึกว่ามันน่าสนใจดีที่ได้คิดว่าดนตรีและการแสดงออกของผมในฐานะศิลปินเปรียบเสมือนแม่น้ำออกมาได้ยังไงบ้าง"

"ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา Simon และผมเริ่มสร้างสรรค์ดนตรีที่เข้ากับโลกของ 'To Be Free' และในช่วงเวลานี้ ผมยังคงหันไปหาเพลงนี้ในช่วงเวลาที่มีความสุข เศร้า เหงา และโกรธ เพลงนี้กลายเป็นเหมือนน้องสาวของผม เป็นสมาชิกในครอบครัวของผม และทำให้ผมจิตใจสงบลง ตอนนี้ผมพร้อมที่จะปล่อยเพลงนี้ออกมา และหวังว่าเพลงนี้จะช่วยปลอบประโลมจิตใจของทุกคนในแบบเดียวกันกับที่ช่วยผมได้"

ชมมิวสิควิดีโอเพลง "To Be Free" ของ Sam Smith ได้ที่นี่

https://SamSmithTH.lnk.to/ToBeFreePR/youtube

สำหรับมิวสิควิดีโอ "To Be Free" ถ่ายทำที่กรุง Warsaw ซึ่งเป็นสถานที่จัด To Be Free: New York City การแสดงในรูปแบบ residency ทั้งหมด 12 โชว์ของเขาด้วย Sam Smith ถ่ายทำร่วมกับคณะประสานเสียง The TwoCity Chorus ทั้งหมดทำการแสดงสดร่วมกันได้อย่างทรงพลังและส่งผ่านอารมณ์ของเพลงได้อย่างเต็มที่ ด้วยความช่วยเหลือจาก Ant Clemons ที่ทำงานร่วมกันมานาน รวมถึง Brandon Pain และ (LA)HORDE (ประกอบด้วย Marine Brutti, Jonathan Debrouwer และ Arthur Harel) ที่เคยทำงานให้กับคณะบัลเล่ต์ Ballet National de Marseille และเคยออกแบบท่าเต้นให้กับเพลงฮิตระดับโลกของเขาอย่าง "Unholy (Ft. Kim Petras)" มาก่อน มาร่วมออกแบบท่าเต้น กำกับภาพ อุปกรณ์ประกอบฉาก และการแสดงสดให้ด้วย

นอกจากนี้ในด้านของเสื้อผ้าสุดอลังการ เขายังได้ Andreas Kronthaler ที่ออกแบบลุคแบบคัสตอมจาก Vivienne Westwood ให้กับเขา เพื่อสะท้อนถึงแนวเพลงสุดคลาสสิก ไม่เลือนหายไปตามกาลเวลา และถ่ายทอดความรัก การยอมรับ ความสงบและความสุขจากภายในจิตใจของเขาได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

นั่นทำให้ "To Be Free" เป็นอีกหนึ่งผลงานมาสเตอร์พีซของ Sam Smith ที่ทรงคุณค่าในแง่ของการเป็นเพลงที่สะท้อนถึงตัวตนของเขาได้อย่างชัดเจน ความงดงามของท่วงทำนอง เสียงร้องที่คุ้นเคย รวมถึงการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของเขาผ่านบทเพลงได้อย่างสมบูรณ์แบบ สมกับเป็นศิลปินที่แฟน ๆ รอคอยผลงานใหม่ ๆ อยู่เสมอตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา

• ข่าวลูกโลกทองคำ
• ข่าวมาสเตอร์พีซ
• ข่าวประสานเสียง
• ข่าวเอกลักษณ์
• ข่าวเพลงใหม่