นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศกำลังอยู่ในช่วงที่สำคัญ อาทิ การคงดอกเบี้ยของ Fed และธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลก เรื่องของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในปัจจุบันที่อยู่ในระดับต่ำและมีแนวโน้มลดลง เรื่องของเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงความไม่แน่นอนจากภาวะเศรษฐกิจโลก สงคราม และสถานการณ์การเมืองในหลายประเทศ ทำให้หุ้นทั่วโลกมีความผันผวน ส่งผลให้นักลงทุนต่างหันมาให้ความสนใจในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำมากขึ้น เราจึงแนะนำ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารตลาดเงินภาครัฐ (KTSV) (ความเสี่ยงระดับ 1) เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้น-กลาง และต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยบัญชีเงินฝากออมทรัพย์
สำหรับกองทุน KTSV เป็นกองทุนตลาดเงิน เน้นลงทุนในตราสารภาครัฐไทย โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV โดยส่วนที่เหลือจะลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ และ/หรือตราสารทางการเงินอื่น ซึ่งมีกำหนดชำระคืนเมื่อทวงถามหรือจะครบกำหนดชำระคืน หรือมีอายุสัญญาไม่เกิน 397 วัน นับตั้งแต่วันที่กองทุนได้ลงทุนหรือเข้าทำสัญญา ทั้งนี้ กองทุนมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามดัชนีชี้วัด และในบางโอกาสอาจสร้างผลตอบแทน ให้สูงกว่าดัชนีชี้วัด โดยเบื้องต้นกองทุนจะลงทุนในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลกเงิน และเงินฝากธนาคาร
นอกจากนี้ กองทุนยังได้ประโยชน์ในทุกช่วงของดอกเบี้ยทั้งขาขึ้นและขาลง โดยจะสร้างโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุน ซึ่งเมื่อผลตอบแทนของตราสารที่ลงทุนใหม่มีการปรับเพิ่มขึ้นตามดอกเบี้ยตลาด ในขณะเดียวกันเมื่ออัตราดอกเบี้ยตลาดลดลง ตราสารเดิมที่ลงทุนไปแล้วก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ส่งผลให้กองทุนที่ถือครองตราสารดังกล่าวมีโอกาสรับผลตอบแทนสูงขึ้น อีกทั้ง ความมั่นคงจากผู้ออกตราสารภาครัฐมีความน่าเชื่อถือสูงจึงมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำ อีกทั้งยังสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนได้ถึงแม้ผลตอบแทนจะไม่สูงมากเท่าตราสารหนี้ระยะยาว แต่โดยทั่วไปจะมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์
"ในช่วงภาวะเศรษฐกิจผันผวนทำให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ที่มีความมั่นคง มีความเสี่ยงต่ำ จึงหันมาให้ความสนใจกองทุนตลาดเงินมากขึ้น เพื่อเป็นตัวช่วยในการรอจังหวะการลงทุนในสินทรัพย์อื่น โดยกองทุน KTSV นับว่าเป็นกองทุนที่เป็นตัวช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนได้อย่างดีเมื่อนำไปรวมในพอร์ตที่มีสินทรัพย์เสี่ยงสูง เช่น หุ้น หรือสินทรัพย์ทางเลือก ซึ่งกองทุนนี้จะช่วยลดความผันผวนโดยรวมได้เนื่องจากมีความเสี่ยงต่ำ เพราะเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นภาครัฐ และสถาบันการเงินที่มีความน่าเชื่อถือ ทั้งยังสร้างโอกาสรับผลตอบแทนได้ดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการใช้เป็นบัญชีเพื่อการลงทุนระยะสั้น-กลาง หรือลงทุนเพื่อจะย้ายไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น" นางชวินดา กล่าว
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการได้ที่ บลจ.กรุงไทย โทร. 0-2686-6100 กด 9 หรือธนาคารกรุงไทย และผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน (ถ้ามี) หรือศึกษารายละเอียดได้ที่ www.ktam.co.th สนใจเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชั่น KTAM Smart Trade ได้ที่ https://bit.ly/KTSTSignIn
ปัจจัยความเสี่ยงของกองทุนที่สำคัญ : ความเสี่ยงทางตลาด ความเสี่ยงจากความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของผู้ออกตราสาร ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องของหลักทรัพย์
คำเตือน ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจในลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
โค้งสุดท้ายลดหย่อนภาษีปีนี้ BBLAM ชวนคนไทยเลือกลงทุนใน RMF และ Thai ESG ให้เท่าทันสถานการณ์โลก
บลจ.อีสท์สปริง เปิดกองพันธบัตรรัฐมุ่งรักษาเงินต้น "ES-GOVCP3M3 อายุ 3 เดือน มูลค่า 7,000 ล้านบาท ยิลด์ 0.90%ต่อปี IPO 21-27 ต.ค.68
InnovestX จับมือ LH Fund เปิด IPO "LH GLOBAL ENHANCED FUND"
บลจ.เกียรตินาคินภัทร เดินหน้าขับเคลื่อนการลงทุนอย่างรับผิดชอบ ร่วมลงนามรับหลักการ UN-Supported Principles for Responsible Investment (PRI)
บลจ.อีสท์สปริง จับมือ บล.กรุงศรี ขยายธุรกิจผู้แนะนำการลงทุนอิสระ เสริมศักยภาพบริการลูกค้า
บลจ.อีสท์สปริง เปิด "ES-GAINCOME-UH" เพิ่มอีก 1 กอง
KTAM เปิดขายกองทุนตราสารหนี้ภัยพิบัติ "KT-CATBOND-UI และ KT-CATBONDUH-UI" IPO 14-21 ต.ค.นี้
โครงการไฟ-ฟ้า โดย มูลนิธิทีทีบี รับมอบเงินสนับสนุนจาก บลจ. อีสท์สปริง (ประเทศไทย) เพื่อจุดประกายเยาวชนให้พัฒนาศักยภาพ และส่งต่อการให้คืนสู่สังคม
BBLAM เสนอขาย IPO 'BP19/25(AI)' วันที่ 9-14 ต.ค. 2568