กทม. ย้ำระบบงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงาน-ยึดหลักธรรมาภิบาล-เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วม

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

นางสาวกนกวรรณ เอี่ยมลิ้ม ผู้อำนวยสำนักงบประมาณกรุงเทพมหานคร (สงม.) กทม. กล่าวกรณีมีข้อสังเกตการจัดทำงบประมาณของ กทม. ในปัจจุบันไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับระบบงบประมาณในอดีตว่า กทม. ได้ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวิธีการงบประมาณ (ข้อบัญญัติ กทม. ว่าด้วยวิธีการงบประมาณ) จากเดิมที่เริ่มใช้ในปี 2529 มาปรับปรุงใหม่และประกาศใช้ในปี 2563 โดยปรับเปลี่ยนระบบงบประมาณ ดังนี้ ระบบงบประมาณเดิมของ กทม. เป็นแบบแผนงาน โดยแบ่งโครงสร้างงบประมาณเป็น 7 หมวดรายจ่าย โดยแสดงงานที่จะทำเป็นด้าน แผนงานและรายรายการที่จะดำเนินการ แต่ไม่สามารถวิเคราะห์ต้นทุนผลผลิตได้ เนื่องจากไม่มีระบบหรือกลไกสำหรับวัดระดับความสำเร็จการใช้จ่ายเงินของหน่วยงาน หากจะวิเคราะห์ต้นทุนผลผลิตจำเป็นต้องเก็บข้อมูลเชิงลึกจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งหลายแผนงานใช้ทรัพยากรร่วมกันจนไม่สามารถแจกแจงได้ อีกทั้งยังไม่สามารถแสดงผลผลิต ผลลัพธ์ หรือผลสัมฤทธิ์ภายหลังการดำเนินการได้ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไม่สามารถประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการใช้จ่ายงบประมาณได้ กทม. จึงได้ปรับปรุงระบบงบประมาณใหม่เป็นแบบมุ่งเน้นผลงาน เริ่มใช้ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนากรุงเทพมหานครระยะ 20 ปี เพื่อมุ่งผลักดันนโยบายหลักทำให้กรุงเทพฯ เป็น "เมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน"

กทม. ย้ำระบบงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงาน-ยึดหลักธรรมาภิบาล-เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วม

สำหรับ โครงสร้างงบประมาณของ กทม. แบ่งงบรายจ่ายเป็น 5 ประเภท และแบ่งตามลักษณะภารกิจ ได้แก่ ภารกิจประจำพื้นฐานและภารกิจเชิงยุทธศาสตร์ โดยจัดกลุ่มงานที่จะดำเนินการเป็นรายผลผลิตและงาน เพื่อให้สามารถแสดงได้อย่างชัดเจนว่า เมื่อได้รับงบประมาณไปดำเนินการแล้ว หน่วยงานจะสามารถดำเนินการเพื่อให้ได้ผลผลิต ผลลัพธ์ หรือผลสัมฤทธิ์ใดบ้าง ซึ่งระบบงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานจะสามารถประเมินการใช้งบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพิ่มขึ้น โดยวงจรงบประมาณของ กทม. ประกอบด้วย 5 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ การวางแผนงบประมาณ การจัดทำงบประมาณ การอนุมัติงบประมาณ การบริหารงบประมาณ และการติดตามประเมินผล เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ถึงวันที่ 30 ก.ย. ของปีถัดไป ทั้งนี้ การจัดทำงบประมาณดำเนินการตามที่กำหนดไว้ในข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2563 ซึ่งเป็นการจัดทำงบประมาณแบบสมดุล คือ การประมาณการรายรับและการกำหนดงบประมาณรายจ่ายต้องคำนึงถึงความจำเป็นในการพัฒนากรุงเทพมหานครตามยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนากรุงเทพมหานคร และภารกิจของหน่วยรับงบประมาณ เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณเกิดประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า และเกิดผลสัมฤทธิ์ที่ชัดเจน โดยกำหนดตัวชี้วัดในแต่ละผลผลิตและงาน เพื่อให้สามารถติดตามได้ว่าหลังจากได้รับงบประมาณไปดำเนินการแล้วจะเกิดผลผลิต หรือผลสัมฤทธิ์อย่างไร พร้อมทั้งทบทวนตัวชี้วัดในทุกระดับ ทั้งผลสัมฤทธิ์ ผลผลิต และค่าเป้าหมายในแต่ละปี เพื่อให้การวัดผลมีความแม่นยำ และสามารถผลักดันให้หน่วยงานใช้งบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่าสูงสุด และบรรลุเป้าหมายตามแผนการปฏิบัติงานและนโยบายที่กำหนดไว้

ส่วนในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 กทม. ได้เสนอร่างข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 ต่อสภา กทม. ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา โดยตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีจำนวน 92,830,418,000 บาท แบ่งเป็นงบประมาณรายจ่ายของ กทม. 92,000,000,000 บาท และงบประมาณรายจ่ายของการพาณิชย์ของ กทม. 830,418,000 บาท ซึ่งงบประมาณรายจ่ายดังกล่าวได้จำแนกตามลักษณะงานและลักษณะรายจ่าย เช่น ด้านความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อย ด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา เป็นต้น นอกจากนี้ กทม. ยังได้รับการพิจารณาจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลเป็นเงินอุดหนุนในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 จำนวน 29,321.10 ล้านบาท โดยร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 ได้จำแนกงบประมาณตามหน่วยงานพร้อมแสดงสัดส่วนอย่างชัดเจน โดยแปลงแนวคิดสู่การปฏิบัติตามนโยบาย "9 ด้าน 9 ดี" ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนกรุงเทพฯ ให้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ กทม. ยังได้พัฒนาระบบงบประมาณเพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารจัดการเมืองและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนากรุงเทพฯ ประกอบด้วย การจัดทำงบประมาณแบบฐานศูนย์ (Zero-Based Budgeting) การเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมกำหนดงบประมาณ กทม. ผ่านการออกแบบและจัดทำช่องทางการมีส่วนร่วม การประสานงานกับหน่วยงานในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้และความร่วมมือ ตลอดจนรวบรวมข้อมูลเพื่อวิเคราะห์สรุปประมวลผลพร้อมรายงานผู้บริหารรับทราบ และให้หน่วยงานนำไปใช้เสนอตั้งงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาตามข้อเสนอแนะของประชาชน เพื่อให้เกิดประโยชน์สุข ความสะดวก และการตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง รวมทั้งเกิดผลสัมฤทธิ์และความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของภาครัฐ ขณะเดียวกันยังได้เปิดเผยข้อมูลด้านงบประมาณ ตามนโยบายเปิดเผยข้อมูลของ กทม. (Open Data Bangkok) ด้วยการเปิดเผยข้อบัญญัติ กทม. รวมถึงนโยบายงบประมาณที่จัดสรรสู่เส้นเลือดฝอยครอบคลุมพื้นที่ 50 เขต โดยเฉพาะงบประมาณรายจ่ายลงทุน ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 มีวงเงินกว่า 5,056 ล้านบาท มุ่งเน้นการปรับปรุงถนน ตรอก ซอย ทางเดินเท้า ลานกีฬา สวนสาธารณะ ไฟฟ้าส่องสว่าง ระบบระบายน้ำ ขุดลอกคูคลอง รวมทั้งปรับปรุงโรงเรียน ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน และสถานที่ราชการให้ทันสมัย เพื่อรองรับการให้บริการประชาชนในทุกด้าน เมื่อเปรียบเทียบงบประมาณตามร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 กับข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีย้อนหลัง 3 ปีงบประมาณ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566-2568 พบว่า นโยบายการจัดการสรรงบประมาณรายจ่ายงบลงทุนค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้างที่จัดสรรลงสู่เส้นเลือดฝอยทั้ง 50 เขต มีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยมีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.97 เมื่อเทียบกับปี 2568 ร้อยละ 42.74 เมื่อเทียบกับปี 2567 และสูงถึงร้อยละ 440 เมื่อเทียบกับปี 2566

ทั้งนี้ กทม. ใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารงบประมาณ โดยยึดหลักคุณธรรม นิติธรรม ความโปร่งใส ความคุ้มค่า การมีส่วนร่วม และความรับผิดชอบ โดยสรุปได้ว่า ระบบงบประมาณของ กทม. เป็นการตั้งงบประมาณแบบสมดุล คือ รายรับกำหนดรายจ่าย จึงมิใช่การใช้งบประมาณเกินตัว อีกทั้งการจัดทำงบประมาณยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนากรุงเทพมหานคร และนโยบายหลักของ กทม. ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำงบประมาณฐานศูนย์ การเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมจัดทำงบประมาณ การจัดสรรงบประมาณตามนโยบาย 9 ด้าน 9 ดี การให้ความสำคัญกับการกระจายงบประมาณลงสู่เส้นเลือดฝอยครอบคลุมพื้นที่ 50 เขต และการเปิดเผยข้อมูลด้านงบประมาณอย่างโปร่งใส เพื่อให้การใช้งบประมาณมีความคุ้มค่าและตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้มากที่สุด ซึ่งไม่สามารถวัดเป็นต้นทุนเชิงธุรกิจได้โดยตรงเหมือนภาคเอกชน แต่สามารถสะท้อนประโยชน์ทางสังคมที่คาดว่าจะได้รับในระยะยาว ทั้งด้านการศึกษา ด้านสาธารณสุข ความปลอดภัย และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีการกำหนดตัวชี้วัดในแต่ละผลผลิตและงาน เพื่อใช้ติดตามผลลัพธ์และผลสัมฤทธิ์ในการใช้จ่ายงบประมาณอย่างต่อเนื่องทุกปี


ข่าวกนกวรรณ เอี่ยมลิ้ม+กรุงเทพมหานครวันนี้

กทม. แจงหลักเกณฑ์เสนอของบฯ ปี 69 เน้นคุ้มค่า โปร่งใส ติดตามผลต่อเนื่อง

นางสาวกนกวรรณ เอี่ยมลิ้ม ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกรุงเทพมหานคร (สงม.) กล่าวชี้แจงถึงกระบวนการจัดทำและเสนอของบประมาณรายจ่ายประจำปีของหน่วยงาน กทม. ว่า กทม. ยึดหลักความคุ้มค่า โปร่งใส และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน พร้อมกำหนดแนวทางชัดเจนให้หน่วยงานถือปฏิบัติ ตั้งแต่การจัดทำคำขอตั้งงบประมาณ การตรวจสอบเอกสาร และการพิจารณา โดยลำดับความสำคัญในการพิจารณาคำขอตั้งงบประมาณ หน่วยรับงบประมาณจะจัดลำดับความสำคัญของคำขอตั้งงบประมาณทั้งหมด โดยมีหัวหน้าหน่วยงานเป็นผู้รับรอง ทั้งนี้ กรณีการ

บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ... CMC จัดงานวิ่งการกุศล "CMC RUN FOR SIRIRAJ 2025" รายได้สมทบกองทุนห้องผ่าตัดศิริราชมูลนิธิ — บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC Group ผู้นำด้านก...

Taiwan Excellence ประกาศความพร้อมเตรียมเป... Taiwan Excellence จัดแสดงนวัตกรรมทางการแพทย์ชั้นนำในงาน Medical Fair Thailand 2025 — Taiwan Excellence ประกาศความพร้อมเตรียมเปิดตัวพาวิลเลียนสุดยิ่งใหญ่ใน...

วันนี้ (21 สิงหาคม 2568) นายสมศักดิ์ เทพส... สธ. เดินหน้า "นับคาร์บ" ต่อเนื่อง หวัง คนกทม. ลดเสี่ยง ลดโรค NCDs — วันนี้ (21 สิงหาคม 2568) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินหน้า ...