คณะแพทยศาสตร์ มช. เปิดตัว นวัตกรรมหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด ระบบใหม่ New Chapter of Med CMU Robotic Surgery Center แห่งแรกของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยกระดับระบบบริการสุขภาพด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง การตอบสนองต่อความต้องการด้านสุขภาพของประชาชน ให้บริการทางการแพทย์อย่างมีประสิทธิภาพและหลากหลายทันสมัยอย่างสูงสุด

รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. เปิดเผยว่า "คณะแพทยศาสตร์ มช. มุ่งมั่นพัฒนาระบบบริการสุขภาพตามแผนยุทธศาสตร์ของคณะแพทยศาสตร์ มช. ในปี 2568-2571 ที่จะต้องเป็นโรงเรียนแพทย์ในดวงใจ โดยยึดหลักนวัตกรรมและเน้นความยั่งยืนด้านสุขภาวะ โดยมีภารกิจในเรื่องของการขยายบริการและพัฒนาคุณภาพบริการทางการแพทย์เพื่อสร้างความเป็นเลิศในด้านบริการ สร้างความเชื่อมั่นต่อระบบบริการและเพิ่มพื้นที่บริการให้มากขึ้น เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์และเป็นศูนย์กลางการแพทย์ในระดับนานาชาติ เป็นแบบอย่างของโรงเรียนแพทย์แห่งอนาคต และเป็นการยกระดับการบริการการรักษาผู้ป่วยด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบันตามความตั้งใจ ที่เราจะพยายามนำเทคโนโลยีให้เข้าถึงเพื่อบริการทุกคน หรือความหมายคือ Technology for all ที่เชื่อมโยงองค์ความรู้การวิจัยและเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน และเป็นการเปิดบทใหม่ของการรักษาในระบบสุขภาพของไทยด้วยหุ่นยนต์ผ่าตัดระบบใหม่ เป็นการพลิกโฉมการผ่าตัดยุคใหม่เป็นครั้งแรกในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีการใช้งานระบบหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดที่มีความแม่นยำสูง ยืดหยุ่น และเป็นมิตรกับทั้งศัลยแพทย์และผู้ป่วย โดยระบบนี้หุ่นยนต์ช่วยการผ่าตัดนี้ จะช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถเข้าถึงการผ่าตัดที่ซับซ้อนในจุดที่เข้าถึงยากได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมลดภาวะแทรกซ้อน ฟื้นตัวเร็ว และลดความเจ็บปวดของผู้ป่วย
"หุ่นยนต์ผ่าตัดระบบใหม่นี้ ได้รับการออกแบบให้เป็นแพลตฟอร์มแบบโมดูลาร์ที่สามารถทำหัตถการในหลายส่วนภายในร่างกาย ถูกออกแบบด้วยแนวคิด Modular Platform ที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับศัลยแพทย์ ด้วยแขนกลที่สามารถเลียนแบบการหมุนของข้อมือมนุษย์ แต่มีอิสระมากกว่า ทั้งยังมาพร้อมคอนโซลเปิดตามหลักสรีรศาสตร์ ทำให้ศัลยแพทย์สามารถควบคุมการผ่าตัดได้แม่นยำและสบายขึ้นแม้ต้องใช้เวลานาน นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกันผ่านจอแสดงผล 3 มิติแบบเรียลไทม์ ในขณะที่ศัลยแพทย์กำลังทำการผ่าตัดและผู้สังเกตการณ์สามารถดูภาพและสื่อสารร่วมกันได้ตลอดเวลา"
ด้าน ศ.(เชี่ยวชาญพิเศษ) นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ คณะแพทยศาสตร์ มช. กล่าวเสริมว่าการใช้หุ่นยนต์ช่วยในการผ่าตัด มีประโยชน์หลายอย่างเพราะปลายแขนของหุ่นยนต์สามารถเคลื่อนไหวได้ดีกว่ามือของมนุษย์และการขยายภาพพร้อมระบบ 3 มิติที่มีความคมชัดสูง ช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถมองเห็นอวัยวะ และโครงสร้างต่าง ๆได้อย่างชัดเจนมากขึ้นส่งผลให้การผ่าตัดมีประสิทธิภาพและความแม่นยำสูงขึ้น จึงสามารถลดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ โดยเฉพาะลดการสูญเสียเลือดในขณะผ่าตัด และจากแผลผ่าตัดที่เล็กลง ทำให้อาการปวด ภายหลังการผ่าตัดน้อยกว่าการผ่าตัดด้วยวิธีเปิดแผลอย่างมีนัยสำคัญ และทำให้มีโอกาสติดเชื้อหลังการผ่าตัดลดลง ทำให้ผู้ป่วยกลับบ้านได้เร็วขึ้น และฟื้นตัวหลังการผ่าตัดได้รวดเร็วกว่า แพทย์ที่มีความชำนาญด้านการผ่าตัด และทีมผ่าตัดระบบหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดจึงจำเป็นต้องได้รับการฝึกอบรมอย่างดี เช่น การฝึกการใช้หุ่นยนต์ในสภาวะจำลอง (Simulation) การผ่าตัดภาคปฏิบัติในแบบจำลองสัตว์หรือห้องปฏิบัติการศพ (animal model, cadaveric lab) ก่อนการผ่าตัดในผู้ป่วยจริง โดยที่คณะแพทยศาสตร์ มช. มีแผนการผ่าตัดด้วยระบบหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดทุกแผนก เช่น ระบบทางเดินปัสสาวะ ระบบตับและตับอ่อน ระบบลำไส้ ระบบทางเดินอาหารส่วนบน ระบบนรีเวช และระบบช่องอก
สถิติการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดทั่วโลกมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ประเทศไทยก็มีแนวโน้มในทิศทางเดียวกัน โดยในปีที่ผ่านมามีจำนวนการผ่าตัดเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 47 โรคที่มีการใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดมากที่สุด ได้แก่ โรคในระบบทางเดินปัสสาวะ โดยเฉพาะโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก นับตั้งแต่มีการติดตั้งระบบหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดแบบ Modulator และดำเนินการผ่าตัดรักษาผู้ป่วยรายแรกในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะนี้มีการผ่าตัดไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 16 ราย แบ่งเป็น มะเร็งต่อมลูกหมาก 11 ราย มะเร็งท่อไต 1 ราย และโรคในระบบตับอ่อน 4 ราย ผู้ป่วยทุกรายมีผลการรักษาที่ดี ไม่พบภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด และในระยะต่อไปจะมีการขยายการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ไปยังโรคในระบบอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง