'TMAN' โชว์ฟอร์มแกร่งครึ่งปีแรก 68 กำไรสุทธิ 228.7 ล้านบาท เติบโต 4.1% บอร์ดฯ เคาะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.24 บาทต่อหุ้น เปิดแผนครึ่งปีหลัง เตรียมส่งนวัตกรรมและสินค้าใหม่พลิกโฉมการดูแลสุขภาพรับไฮซีซั่น

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

"บมจ.ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล" หรือ TMAN โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 รายได้รวม 535.5 ล้านบาท เติบโต 2.8% กำไรสุทธิ 106.8 ล้านบาท เติบโต 8.0% ดันผลงานครึ่งปีแรก มีรายได้รวม 1,135 ล้านบาท เติบโต 2.2% ทำกำไรสุทธิ 228.7 ล้านบาท เติบโต 4.1% ชูกลยุทธ์บุกทุกช่องทางการขาย ดันช่องทางโรงพยาบาลเติบโตโดดเด่น ค้าปลีกสมัยใหม่ คลินิกเสริมความงามยอดพุ่ง เตรียมส่งนวัตกรรมและสินค้าใหม่พลิกโฉมการดูแลสุขภาพขานรับไฮซีซัน ด้านบอร์ดฯ เคาะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล หุ้นละ 0.24 บาท เดินแผนครึ่งปีหลังขับเคลื่อนรายได้ปี 2568 เติบโต 10-15%

'TMAN' โชว์ฟอร์มแกร่งครึ่งปีแรก 68 กำไรสุทธิ 228.7 ล้านบาท เติบโต 4.1% บอร์ดฯ เคาะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.24 บาทต่อหุ้น เปิดแผนครึ่งปีหลัง เตรียมส่งนวัตกรรมและสินค้าใหม่พลิกโฉมการดูแลสุขภาพรับไฮซีซั่น

นายประพล ฐานะโชติพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (มหาชน) หรือ TMAN หนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิต และจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 (เมษายน-มิถุนายน) บริษัทฯ ทำรายได้รวมจากการขายและรายได้อื่น 535.5 ล้านบาท เติบโต 2.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) และทำกำไรสุทธิ 106.8 ล้านบาท เติบโต 8.0% จากปีก่อน (YoY) โดยประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในการเจาะตลาดโรงพยาบาลที่เติบโต 45 % จากปีก่อน (YoY) สะท้อนถึงศักยภาพในการขยายฐานลูกค้าและเสริมความแข็งแกร่งในช่องทางตลาดยาที่มีมูลค่าสูง ส่งผลให้บริษัทฯ บรรลุเป้าหมายผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2568 (มกราคม-มิถุนายน) โดยมีรายได้รวมทั้งจากการขายและรายได้อื่น 1,135 ล้านบาท เติบโต 2.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) และทำกำไรสุทธิ 228.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% จากปีก่อน (YoY) ตอกย้ำถึงกลยุทธ์ที่สร้างการเติบโตอย่างชัดเจน ทั้งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ การเพิ่มสินค้าจำหน่ายในช่องทางต่างๆ การขยายธุรกิจดิสทริบิวเตอร์ การรับจ้างผลิต (OEM) และรุกขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2568 จึงมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล งวดผลการดำเนินงาน 1 มกราคม ถึง 30 มิถุนายน 2568 อัตราหุ้นละ 0.24 บาท เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 25 สิงหาคม นี้ และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 9 กันยายน 2568

ทั้งนี้ความสำเร็จดังกล่าว มาจากผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบันสำหรับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCD) ที่เปิดตัวปลายปี 2566 สร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่องทางโรงพยาบาลจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังทำให้ยาแผนปัจจุบันรายการอื่นๆ สามารถเข้าจำหน่ายในช่องโรงพยาบาลได้มากขึ้น ส่วนช่องทางธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่และร้านค้าปลีกเฉพาะเติบโต 31% จากการเพิ่มสินค้าใหม่ และช่องทางคลินิกเติบโตถึง 21.5% จากกลยุทธ์ One-stop Service นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมหลายประเภท พร้อมสร้างทีมผู้แทนขายที่เข้าถึงลูกค้าเชิงรุกช่วยขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ร้านขายยารายได้ปรับตัวลดลงตามสภาวะเศรษฐกิจในประเทศ อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังคงรักษาความแข็งแกร่งของเครือข่ายร้านขายยาเพื่อต่อยอดและสร้างโอกาสพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ ส่วนรายได้จากยาแผนโบราณและผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง และรายได้จากผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอื่นๆ ใกล้เคียงกับปีก่อน จากการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการขายตามแผนงาน และคาดการณ์รายได้เพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง

สำหรับรายได้ในต่างประเทศปรับตัวลดลงจากปีก่อน โดยมีแรงกดดันจากภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมทั้งสถานการณ์การเมืองในประเทศเมียนมา ซึ่งคาดว่ายอดขายจะกลับมาในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ อย่างไรก็ตามจากการ รุกหาพันธมิตรและตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศอย่างไม่หยุดยั้ง ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้จากลูกค้ารายอื่นเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งในปีนี้ โดยมีแผนร่วมมือกับดิสทริบิวเตอร์รายใหม่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะอาเซียน เช่น ฟิลิปปินส์ และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เช่น โอมาน ซาอุดิอาระเบีย ผ่านกลุ่มสินค้าแบรนด์โพรโพลิซ (Propoliz Series) และทีมต่างประเทศได้นำเสนอสินค้าเพื่อเปิดรับพันธมิตรใหมในงานแฟร์ระดับโลก เช่น งาน Vitafood Arab health

ขณะที่กำไรขั้นต้นไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 269.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.6 ล้านบาท หรือเติบโต 10.9% สอดคล้องกับรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 50.8% จากปีก่อน (YoY) อยู่ที่ 46.9 % ทำให้บริษัทฯ รักษาอัตรากำไรสุทธิที่ 19.9% โดยเป็นผลจากกลยุทธ์การขยายตลาดผ่านการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน (Generic Drug) ภายใต้แบรนด์ของกลุ่มบริษัทฯ (Own Brand) แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการขายสูงจากการเพิ่มผู้แทนจำหน่าย บริษัทฯ ก็มุ่งบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลงและใช้ประโยชน์จากขนาดการผลิต (Economies of Scale) และขยายรายได้ไปยังช่องทางลูกค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ ทำอัตรากำไรสุทธิสูงกว่า 20% อย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงโครงสร้างทางการเงินยังคงแข็งแกร่ง อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญอยู่ในระดับมั่นคง รองรับการเติบโตในอนาคต

นายประพล กล่าวว่า แผนธุรกิจครึ่งปีหลังจะมุ่งขยายพอร์ตโฟลิโอสินค้ากลุ่มยาแผนปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และกลุ่มสมุนไพรภายใต้แบรนด์สินค้าหลักของบริษัทฯ รับกับเทรนด์การรักษาและดูแลสุขภาพในเชิงป้องกัน ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อการเติบโตของบริษัทฯ โดยเฉพาะกลุ่มอาหารเสริมที่มีนวัตกรรมช่วยดูแลสุขภาพที่ดีแบบองค์รวม (Wellness) โดยปลายไตรมาส 3/2568 จะเปิดตัวสินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์ต่างๆ ได้แก่ แบรนด์ Vita c และโพรโพลิซ (Propoliz Series) เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Alpha และผลักดันสินค้าประเภทยาแผนปัจจุบัน NCD และโพรโพลิซ พลัส (Propoliz pluz) สู่ตลาดกลุ่มโรงพยาบาลมากยิ่งขึ้น รวมถึงเตรียมขยายไลน์การผลิตอาหารเสริมประเภทน้ำและพัฒนาไลน์การผลิตสมุนไพร เพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอด้านสุขภาพ

นอกจากนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการการวิจัยและพัฒนาสินค้ารวมถึงปรับปรุงการผลิตกลุ่มยาแผนปัจจุบัน เพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง ตลอดจนมุ่งสร้างการเติบโตในธุรกิจที่มีศักยภาพ ทั้งการรับจ้างผลิต (OEM) และธุรกิจดิสทริบิวเตอร์เวชภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดยการขยายฐานลูกค้าใหม่นอกจากแบรนด์สำคัญอย่างบริษัท เบอร์แทรม 1958 จำกัด และแบรนด์ "โฟต้าเจล" (Fotagel) สินค้าจาก "แดวอน (Daewon)" บริษัทยาชั้นนำจากเกาหลีใต้ เพื่อยกระดับความสามารถการกระจายสินค้าที่หลากหลายมากขึ้นและใช้ศักยภาพของธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

"ด้วยแรงขับเคลื่อนจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ การเพิ่มศักยภาพกำลังการผลิตทั้งยาแผนปัจจุบัน อาหารเสริม และสมุนไพร การขยายตลาดต่างประเทศ และการรุกธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ชั้นนำ คาดว่าบริษัทฯ จะสร้างการเติบโตได้ 10-15% เทียบกับปีก่อน"นายประพล กล่าว


ข่าวคลินิกเสริมความงาม+คลินิกเสริมความวันนี้

"กัลเดอร์มา" เปิดเวที GAIN Business Academy เดินหน้ายกระดับศักยภาพพันธมิตรคลินิก ก้าวสู่ยุค AI และเทคโนโลยีอัจฉริยะ

กัลเดอร์มา" (Galderma) ผู้นำด้านนวัตกรรมดูแลผิวและความงามระดับโลก เดินหน้าขับเคลื่อนอนาคตธุรกิจความงามสู่ยุค AI และเทคโนโลยีอัจฉริยะ เปิดเวทีสัมมนา "GAIN Business Academy" ภายใต้หัวข้อ "Revolutionizing Customer Engagement in Aesthetics with AI ยกระดับความสามารถด้านเครื่องมือ AI ปรับตัวสู่ยุคเทคโนโลยีอัจฉริยะ" ดึงกูรูด้าน AI ร่วมแชร์องค์ความรู้และแนวทางการนำ AI ไปประยุกต์ใช้จริงในธุรกิจความงามเพื่อเสริมศักยภาพการดำเนินงานของพันธมิตรคลินิกเสริมความงาม เพิ่มขีดความสามารถ และพลิก

วางหมากส่ง "โพรโพลิซ" หัวหอกบุกช่องทางโรง... 'TMAN' โชว์รายได้รวมทะยานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 594 ล้านบาท ทำกำไรสุทธิเติบโต13% — วางหมากส่ง "โพรโพลิซ" หัวหอกบุกช่องทางโรงพยาบาลและตลาดต่างประเทศ เผยอุต...

อุตสาหกรรมเสริมความงามในไทยเติบโตต่อเนื่อ... พลิกโฉมธุรกิจคลินิกเสริมความงาม ใช้ LINE เพิ่มยอดขาย สร้างความภักดี — อุตสาหกรรมเสริมความงามในไทยเติบโตต่อเนื่อง ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใส่ใจดูแลตัวเองมา...

คลินิกเสริมความงาม มีบริการหลากหลายตั้งแต... คลินิกเสริมความงาม ความมั่นใจด้วยการดูแลความงามที่ทันสมัย — คลินิกเสริมความงาม มีบริการหลากหลายตั้งแต่การดูแลผิวพรรณจนถึงการปรับรูปหน้า บริการยอดนิยมที่คล...

ครั้งแรกของซุปตาร์ตัวพ่อ "ณเดชน์ คูกิมิยะ... "ณเดชน์ คูกิมิยะ" นั่งแท่นแบรนด์แอม RADIESSE(+) ในงาน Merz Aesthetics Expo, The Showcase of Confidence for All — ครั้งแรกของซุปตาร์ตัวพ่อ "ณเดชน์ คูกิมิยะ...

เมื่อความสวยรอไม่ได้ จึงจำเป็นที่ต้องพึ่ง... "DEBUT CLiNiC" พร้อมเปิดกระหึ่ม! ให้บริการเต็มรูปแบบ 1 ต.ค.67 นี้ พร้อมโปรลด 50% ทุกรายการ — เมื่อความสวยรอไม่ได้ จึงจำเป็นที่ต้องพึ่งคลินิกเสริมความงามให...