INETREIT โชว์ผลงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 เติบโตแข็งแกร่ง กวาดกำไร 266 ล้านบาท เติบโต 61% เคาะจ่ายปันผล 0.0667 บาทต่อหน่วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต หรือ INETREIT ทรัสต์กองแรกและกองเดียวในประเทศไทยที่เข้าลงทุนตรงในทรัพย์สินเกี่ยวกับเมกะเทรนด์ด้านเทคโนโลยี Data Center ทั้งหมด พร้อมทั้งอุปกรณ์ที่ให้บริการ Cloud อย่างมีประสิทธิภาพ ประกาศผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก ปี 2568 มีรายได้ 343 ล้านบาท เติบโต 29% (YoY) ขณะที่กำไรจากการลงทุนสุทธิทำได้ 266 ล้านบาท เติบโต 61% (YoY) บอร์ดเคาะจ่ายปันผลรายเดือนสำหรับงวดการดำเนินงานเดือนมิถุนายน 2568 และกำไรสะสม ที่อัตรา 0.0667 บาทต่อหน่วย จ่ายผลประโยชน์ตอบแทนในวันที่ 5 กันยายน 2568

INETREIT โชว์ผลงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 เติบโตแข็งแกร่ง กวาดกำไร 266 ล้านบาท เติบโต 61% เคาะจ่ายปันผล 0.0667 บาทต่อหน่วย

นายสุตกานต์ แน่นหนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเน็ต รีท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2568 (เมษายน - มิถุนายน) บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 175 ล้านบาท เติบโต 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เนื่องจากการปรับรายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้น 2% และรายได้ค่าเช่า White space ของเฟส 2 ส่วนเพิ่มเติม ขณะที่กำไรจากการลงทุนสุทธิทำได้ 136 ล้านบาท เติบโต 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) เนื่องจากมีกำไรจากการดำเนินการในงวดที่มาจากค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น และกำไรจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมเงินลงทุน ส่งผลให้ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก ปี 2568 มีรายได้รวม 343 ล้านบาท เติบโต 29% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 266 ล้านบาท เติบโต 61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เนื่องจากมีรายได้เพิ่มขึ้นตามที่กล่าวข้างต้น และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มทุนครั้งที่ 1 เมื่อเทียบกับปีก่อน

ทั้งนี้ เพื่อต่อยอดการเติบโตในอนาคต INETREIT อยู่ในระหว่างกระบวนการเพิ่มทุนเพื่อเข้าลงทุนในโครงการ INET Data Center 3 เฟส 2 ส่วนขยาย ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2568 โดยได้ยื่นเอกสาร (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปแล้วเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568

INETREIT ยังคงนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ โดยปัจจุบันเป็นการจ่ายปันผลรายเดือน โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 มีมติอนุมัติจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน (เงินปันผล) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2568 - 30 มิถุนายน 2568 และกำไรสะสมในอัตรา 0.0667 บาทต่อหน่วย โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 22 สิงหาคม 2568 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 5 กันยายน 2568 ทั้งนี้ เมื่อรวมการจ่ายปันผลสำหรับไตรมาส 2 ปี 2568 จะอยู่ที่ 0.2000 บาทต่อหน่วย และรวม 6 เดือนแรกของปี 2568 INETREIT ได้จ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้น 0.4000 บาทต่อหน่วย คิดเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 201.60 ล้านบาท

นายสุตกานต์ แน่นหนา กล่าวเพิ่มเติมว่า INETREIT ประเมินว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ในช่วงครึ่งปีหลังยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้บริการที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากกลุ่ม Cyber Security เนื่องจากองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนให้ความสำคัญกับการป้องกันการโจรกรรมข้อมูลมากขึ้น นอกจากนี้ องค์กรขนาดกลางและขนาดย่อมมีความต้องการเปลี่ยนจากการตั้งเซิร์ฟเวอร์เองมาเป็นการใช้บริการผ่านผู้ให้บริการหลัก เพื่อความคล่องตัว, ความปลอดภัย และการประหยัดต้นทุนที่สูงกว่า ปัจจัยเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวมคือการที่สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากไทยในอัตรา 19% ซึ่งต่ำกว่าคู่แข่งในภูมิภาคอย่างอินเดีย (25%) และเวียดนาม (20%) สิ่งนี้อาจกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อ GDP และอาจดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติในอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคตอย่างดาต้าเซ็นเตอร์

"จุดแข็งที่สำคัญของ INETREIT คือโครงสร้างรายได้ที่มั่นคงจากการมีผู้เช่าหลัก คือ INET ด้วยสัญญาเช่าระยะยาวในราคาคงที่ (Fixed Rent) ซึ่งมีการปรับเพิ่มขึ้น 2% ทุกปี ทำให้กองทรัสต์ไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของอัตราการเช่าพื้นที่และปัจจัยภายนอกอื่น ๆ นอกจากนี้ ต้นทุนหลักในการดำเนินงานของกองทรัสต์มีเพียงค่าธรรมเนียมและต้นทุนทางการเงิน ในขณะที่ต้นทุนการดูแลทรัพย์สินทั้งหมดเป็นหน้าที่ของผู้เช่า ด้วยปัจจัยเหล่านี้ ประกอบกับผลการดำเนินงานที่เติบโตต่อเนื่องและการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ ทำให้ INETREIT เป็นทางเลือกการลงทุนที่มั่นคงและเติบโตไปพร้อมกับเมกะเทรนด์ของธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์และคลาวด์" นายสุตกานต์ กล่าว


ข่าวอสังหาริมทรัพย์+เทคโนโลยีวันนี้

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร ผนึกกำลัง 6 พันธมิตรเอกชน ปฏิวัติวงการอสังหาฯ สู่ยุค Green Transition

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เดินหน้าขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืน (Green Transition) ในภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย จับมือกับพันธมิตรภาคเอกชนชั้นนำรวม 6 องค์กร ร่วมผลักดันให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้วัสดุและเทคโนโลยีที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างยั่งยืน ภายใต้โครงการ KKP Shaping Tomorrow ซึ่งวางบทบาทของธนาคารไม่ใช่แค่ในฐานะแหล่งเงินทุน แต่ยังพร้อมเป็นที่ปรึกษาด้าน ESG ให้กับลูกค้า โดยเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตรที่

ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคน... กลุ่มอมตะร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์โรงงานแห่งใหม่ของ บ.เอชเอชเอ (ประเทศไทย) — ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคนิควิศวกรรม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่...

บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด หรือ ... EnCo ครบรอบ 21 ปี เดินหน้ากลยุทธ์ 'STAR' ขับเคลื่อนอสังหาฯ และการบริหารอาคารอย่างยั่งยืน — บริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด หรือ EnCo จัดพิธีวันคล้ายวั...

แม้ตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2568 จะชะลอตัวตาม... ดีดีพร็อพเพอร์ตี้เผยสุดยอดทำเลทองในรอบครึ่งแรกปี 68 — แม้ตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2568 จะชะลอตัวตามสภาพเศรษฐกิจ แต่ยังมีแสงสว่างปลายอุโมงค์จากปัจจัยบวกทั้งจา...

นายสุรศักดิ์ บุณยะชัย ประธานเจ้าหน้าที่บร... บล.เคพีเอ็ม ปลื้ม หุ้นกู้ภัทรเฮ้าส์ ยอดจองล้น พร้อมไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด — นายสุรศักดิ์ บุณยะชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคพีเอ็ม จำกัด ...