Thailand Coffee Fest Year End 2025 เปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ชวน 2 แบรนด์ดัง แชร์ประสบการณ์บนเส้นทาง "Global Friends เมื่อกาแฟไทยไปไกลกว่ายอดดอย"

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ในโลกธุรกิจกาแฟที่มีการแข่งขันสูงและมาตรฐานที่หลากหลาย การก้าวเข้าสู่ตลาดโลกของแบรนด์ไทยไม่ใช่เรื่องง่าย แต่จากเวทีเสวนา "Global Friends เมื่อกาแฟไทยไปไกลกว่ายอดดอย" ภายในงาน Thailand Coffee Fest Year End 2025: Coffee by Your Side ได้เปิดมุมมองสำคัญโดย "อายุ จือปา" ผู้ก่อตั้ง Akha Ama Coffee และ "วรงค์ ชลานุชพงศ์" ผู้ก่อตั้ง NANA Coffee Roaster สะท้อนให้เห็นขีดความสามารถของกาแฟไทยที่ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงบนดอย หากแต่สามารถก้าวสู่ระบบคุณค่าของอุตสาหกรรมกาแฟสากลได้อย่างน่าภาคภูมิใจ

Thailand Coffee Fest Year End 2025 เปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ชวน 2 แบรนด์ดัง แชร์ประสบการณ์บนเส้นทาง "Global Friends เมื่อกาแฟไทยไปไกลกว่ายอดดอย"

เริ่มต้นจากปัญหา ใช้ "กาแฟ" สร้างสมดุลให้ชุมชน Thailand Coffee Fest Year End 2025 เปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ชวน 2 แบรนด์ดัง แชร์ประสบการณ์บนเส้นทาง "Global Friends เมื่อกาแฟไทยไปไกลกว่ายอดดอย"

"อายุ จือปา" เล่าว่า แบรนด์ Akha Ama Coffee ไม่ได้มีจุดเริ่มต้นจากแพชชันเรื่องการดื่มกาแฟ แต่มาจากปัญหาเชิงโคงสร้างในชุมชนที่เป็นสังคมเกษตรกร เนื่องจากตนเองมีพื้นฐานการทำงานด้านสังคมและมาจากครอบครัวเกษตรกร เล็งเห็นถึงปัญหาใหญ่ที่ทำให้ชุมชนขาดความสมดุล นั่นคือ อาชีพเกษตรกรไม่ได้รับการยอมรับและไม่สามารถกำหนดชะตากรรมของตัวเองได้ ต้องพึ่งพาพ่อค้าคนกลาง และคนรุ่นใหม่ละทิ้งบ้านเกิดเข้าสู่เมืองใหญ่ สุดท้ายเป็นเรื่องวิกฤตสิ่งแวดล้อม ที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้พืชผลดั้งเดิมปลูกได้ไม่ดีเหมือนในอดีต ทำให้โอกาสของคนในชุมชนลดน้อยลงเรื่อย ๆ จนไม่มีใครอยากกลับบ้าน

ด้วยเป้าหมายต้องการสร้าง Impact และจุดสมดุลให้ชุมชนกลับมามีชีวิตชีวาและมีความภูมิใจในท้องถิ่นอีกครั้ง ซึ่งจากการพูดคุยเสวนาต่อยอดนำองค์ความรู้ของพ่อแม่มาใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น "กาแฟ" ได้กลายเป็นตัวเลือกของชุมชน ถูกหยิบมาเป็น "โปรดักส์" สำคัญ เพราะสามารถเข้ามาแทรกอยู่ในคนทุกรุ่น นำมาแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม-เศรษฐกิจได้อย่างลงตัว จึงได้เรียนรู้เรื่องกาแฟอย่างจริงจัง พยายามให้ชุมชนปรับมุมมอง เปลี่ยนวิธีการปลูกจากที่เหมือนปลูกทิ้งปลูกขว้างสู่การสร้างความรู้และกำหนดทิศทางผลผลิตด้วยตนเอง ทำให้ได้รับการยอมรับในเชิงคุณภาพ ไม่ใช่แค่เรื่องปริมาณอีกต่อไป จนปัจจุบันแบรนด์ Akha Ama Coffee ขยายไปหลายสาขา ประสบความสำเร็จไม่ใช่แค่ในเมืองไทย แต่ยังเปิดประตูสู่เวทีสากลอย่างประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

ส่งกาแฟไทยไป "โตเกียว" เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ

การปักหมุดขยายธุรกิจไปโตเกียว ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องศึกษาวัฒนธรรมและกฎระเบียบอย่างลึกซึ้ง แต่นี่คือก้าวสำคัญของแบรนด์ Akha Ama Coffeeเพราะต้องการยกระดับคุณค่าของกาแฟไทยทั้งในเชิงของการเพาะปลูก ฝีมือ และคุณภาพ ซึ่งพลังในการขับเคลื่อน หรือไอเดีย ต่าง ๆ ไม่ได้มาจากคนเพียงคนเดียว แต่มาจากทั้งชุมชน และน้อง ๆ ทีมทำงาน รวมถึงเครือข่ายที่นำเอากาแฟจากเมืองไทยไปทำแบรนด์ที่ญี่ปุ่น ทำให้ได้กินกาแฟแบบเดียวกับที่เราทำในเมืองไทย ทั้งที่กำไรจากการขยายไปต่างประเทศมีน้อยมาก โดยสิ่งที่ "อายุ จือปา" มุ่งหวังคือ การสร้างเส้นทางให้กับกาแฟไทย และสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า "ถ้าเด็กดอยทำได้ ใครในโลกใบนี้ก็ทำได้"

ส่วนเป้าหมายของ Akha Ama Coffee จะยังคงทำสิ่งเล็ก ๆ ไปเรื่อย ๆ โดยสิ่งสำคัญมากสำหรับเราในอุตสาหกรรมกาแฟคือ วันนี้มีกาแฟที่ดีแล้ว ในวันพรุ่งนี้หรือในอนาคตจะรักษาและทำให้ดีขึ้นได้อย่างไร ไม่ใช่เรื่องธุรกิจ แต่มองไปถึงการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน รวมถึงทุกคนในอุตสาหกรรมกาแฟ ดังนั้น การรักษามาตรฐานและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นเรื่องใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้นจะต้องใช้ทรัพยากรให้น้อยลง แต่เน้นเพิ่มคุณค่าและคุณภาพ แม้ว่าเราจะปลูกกาแฟที่มีปริมาณจำกัด ก็ต้องทำให้กาแฟมีคุณภาพที่ดีเยี่ยม พร้อมทั้งดูแลชุมชนและสิ่งแวดล้อมด้วย

"เราพูดเรื่องแรงบันดาลใจเสมอ ว่าจะอย่างไรให้คนที่อยู่ในห่วงโซ่ของกาแฟทั้งหมด มีแรงบันดาลใจในการทำสิ่งดี ๆ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำล้วนสำคัญ จึงอยากฝากทุกคนว่า กาแฟเป็นหนึ่งในวงการที่มีความ friendly ที่สุด ผมอยากให้สิ่งนี้มีอยู่ต่อไป เพื่อร่วมกันสร้างคุณค่าและไม่หยุดที่จะพัฒนา สร้างสมดุลเสริมกันและกันต่อไป ผมหวังว่าจะได้มีโอกาสนั่งกินกาแฟแก้วที่ดีกว่าวันนี้ในสภาพแวดล้อมที่ดีกว่าวันนี้เช่นกัน"

จากธุรกิจทางรอดสู่บทพิสูจน์กาแฟไทยบนเวทีสากล

จุดเริ่มต้นของ NANA Coffee Roaster ก็ไม่ได้เกิดจากความหลงใหลในกาแฟของ "วรงค์ ชลานุชพงศ์" แต่มาจากความต้องการ "อยู่รอด" หลังจากที่ธุรกิจเดิมอยู่ในช่วงขาลง จึงตัดสินใจมองหาธุรกิจใหม่ ซึ่งกาแฟเป็นทางเลือกที่ลงตัว ด้วยงบประมาณลงทุนที่ไม่มาก เพียงจ่ายค่าเช่าอุปกรณ์ราว 3,000 บาทต่อเดือน แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะหาทาง "สร้างจุดสูงสุดใหม่" ให้กับธุรกิจ และความจำเป็นในการอยู่รอดจึงค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นแรงผลักดันและ passion อย่างเต็มตัว สร้างแบรนด์ให้เป็นรู้จัก โดยในช่วง 3-4 ปีหลัง ได้รับการสนับสนุนให้ไปออกบูธในงานแสดงสินค้าที่ต่างประเทศ ซึ่งผู้บริโภคในประเทศมาเลเซีย จีน ญี่ปุ่น และดูไบ ค่อนข้างชื่นชอบกาแฟไทยอย่างมาก

"เราไม่ได้รู้สึกว่าประสบความสำเร็จ แต่ Organizer ในต่างประเทศต้องการเอาร้านกาแฟที่คนรู้จักไปร่วมงาน โดยออกค่าใช้จ่ายให้หมด เรามองว่าเป็นโอกาสและมีความเสี่ยงน้อย ซึ่งการที่กาแฟไทยขายหมดเป็นอย่างแรก เป็นภาพสะท้อนชัดเจนถึงสิ่งที่เราตั้งใจทำ ช่วงหลังได้ชวนน้อง ๆ ไปด้วย และทุกคนขายดีหมด ตอกย้ำว่ากาแฟไทยเป็นที่ยอมรับในเวทีระดับสากล นอกจากนี้ ยังมีการส่งน้อง ๆ ในร้านไปแข่งขัน อาศัยเวทีต่าง ๆ เป็นแรงผลักดันให้ทุกคนกระตือรือร้นในการฝึกฝนตัวเองให้เก่งขึ้น เป็นการสร้างเส้นทางอาชีพให้กับคนทำงาน"

ปรับกลยุทธ์ธุรกิจ ยกระดับมาตรฐานขายต่างประเทศ

อีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญของ NANA Coffee Roaster คือ การมีโอกาสไปประเทศจีนกับกรมเจรจาการค้า กระทรวงพาณิชย์ ทำให้มองเห็นว่าการมีสาขาแค่ในเมืองไทย อาจไม่เพียงพอที่จะตอบโจทย์การเติบโตในอนาคต แต่การจะไปตลาดต่างประเทศได้ ต้องมีมาตรฐานระดับสากลรองรับ ตั้งแต่ อย. ไปถึง GMP และ HCCP จึงตัดสินใจซื้อโรงงาน เพื่อยกระดับมาตรฐานและรองรับการขยายตัวสู่ต่างประเทศ พร้อมทั้งปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยลดการขยายสาขา และเน้นการผลิตแคปซูล รวมทั้งสินค้าเพื่อเข้าสู่ Modern Trade มากขึ้น ซึ่งจะทำให้ขยายการเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง

"เราเชื่อว่าการเติบโตต้องมาจากแรงบันดาล หรือความยากลำบาก การอยู่สบายจะไม่มีทางโต ดังนั้น แม้จะขายดีแล้ว ก็ต้องทำตัวเองให้เจ็บ หรือตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย เพราะธุรกิจคือการแข่งขันที่ต่อสู้กันด้วยคุณภาพ ซึ่งเรารู้สึกขอบคุณเกษตรกรทุกคน และกลับไปสนับสนุนเกษตรกรที่เป็นต้นน้ำมาตลอด โดยเชื่อว่า คนคั่วกาแฟไม่ใช่พระเจ้าที่จะเสกให้กาแฟแย่ กลายเป็นกาแฟอร่อยได้ ซึ่งกาแฟที่ยอดเยี่ยมต้องมาจากเมล็ดกาแฟที่ดีที่สุดเสมอ ใครที่คั่วกาแฟแล้วทำลายกาแฟน้อยที่สุดคือ คนที่เก่ง"

เส้นทางของ Akha Ama Coffee และ NANA Coffee Roaster ไม่เพียงยืนยันว่ากาแฟไทยสามารถไปไกลกว่ายอดดอย แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่เห็นว่า "คุณค่าของความตั้งใจ" มีพลังพอที่จะพลิกเส้นทางธุรกิจ แม้จะเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ เวทีเสวนานี้จึงไม่ใช่แค่พื้นที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์ แต่เป็นเวทีที่เชื่อมโยงผู้คนที่หลงรักกาแฟไทยทั่วโลกให้กลายเป็น Global Friends อย่างแท้จริง


ข่าวอุตสาหกรรมกาแฟ+ธุรกิจกาแฟวันนี้

กวินฯ ลุยจัดงาน ASEAN Cafe ปีที่ 17 เอาใจคอกาแฟ เบเกอรี่ ไอศครีม

กวินฯ ลุยยกระดับอุตสาหกรรมกาแฟ ชา เครื่องดื่ม เบเกอรี่และของหวาน เตรียมจัดงาน ASEAN Cafe Show 2023 ปีที่ 17 ยกขบวนผู้แสดงกว่า 250 บริษัทจากไทยและเทศ สินค้าใหม่ล่าสุดกว่า 8,000 รายการจากทั่วโลก คาดผู้เข้าชมงานทะลุ 25,000 คน เงินสะพัดกว่า 500 ล้านบาท นายกวิน กิตติบุญญา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กวิน อินเตอร์เทรด จำกัด กล่าวถึง เทรนด์ธุรกิจกาแฟและเบเกอรี่ว่ายังคงเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนและผู้ประกอบการ ยังเกาะอยู่ในกลุ่มธุรกิจดาวรุ่งของปี 66 ซึ่งประมาณการมูลค่ารวมของธุรกิจร้านกา

"กาแฟ" เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่ผู้คนทั่ว... วว. พัฒนาเทคโนโลยีผลิตถ่านคาร์บอนจากของเหลือทิ้งกาแฟ สร้างอาชีพ พลังงานทดแทน ลดก๊าซเรือนกระจก — "กาแฟ" เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่ผู้คนทั่วโลกต่างหลงใหล ด้ว...