ในโลกธุรกิจกาแฟที่มีการแข่งขันสูงและมาตรฐานที่หลากหลาย การก้าวเข้าสู่ตลาดโลกของแบรนด์ไทยไม่ใช่เรื่องง่าย แต่จากเวทีเสวนา "Global Friends เมื่อกาแฟไทยไปไกลกว่ายอดดอย" ภายในงาน Thailand Coffee Fest Year End 2025: Coffee by Your Side ได้เปิดมุมมองสำคัญโดย "อายุ จือปา" ผู้ก่อตั้ง Akha Ama Coffee และ "วรงค์ ชลานุชพงศ์" ผู้ก่อตั้ง NANA Coffee Roaster สะท้อนให้เห็นขีดความสามารถของกาแฟไทยที่ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงบนดอย หากแต่สามารถก้าวสู่ระบบคุณค่าของอุตสาหกรรมกาแฟสากลได้อย่างน่าภาคภูมิใจ
เริ่มต้นจากปัญหา ใช้ "กาแฟ" สร้างสมดุลให้ชุมชน
"อายุ จือปา" เล่าว่า แบรนด์ Akha Ama Coffee ไม่ได้มีจุดเริ่มต้นจากแพชชันเรื่องการดื่มกาแฟ แต่มาจากปัญหาเชิงโคงสร้างในชุมชนที่เป็นสังคมเกษตรกร เนื่องจากตนเองมีพื้นฐานการทำงานด้านสังคมและมาจากครอบครัวเกษตรกร เล็งเห็นถึงปัญหาใหญ่ที่ทำให้ชุมชนขาดความสมดุล นั่นคือ อาชีพเกษตรกรไม่ได้รับการยอมรับและไม่สามารถกำหนดชะตากรรมของตัวเองได้ ต้องพึ่งพาพ่อค้าคนกลาง และคนรุ่นใหม่ละทิ้งบ้านเกิดเข้าสู่เมืองใหญ่ สุดท้ายเป็นเรื่องวิกฤตสิ่งแวดล้อม ที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้พืชผลดั้งเดิมปลูกได้ไม่ดีเหมือนในอดีต ทำให้โอกาสของคนในชุมชนลดน้อยลงเรื่อย ๆ จนไม่มีใครอยากกลับบ้าน
ด้วยเป้าหมายต้องการสร้าง Impact และจุดสมดุลให้ชุมชนกลับมามีชีวิตชีวาและมีความภูมิใจในท้องถิ่นอีกครั้ง ซึ่งจากการพูดคุยเสวนาต่อยอดนำองค์ความรู้ของพ่อแม่มาใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น "กาแฟ" ได้กลายเป็นตัวเลือกของชุมชน ถูกหยิบมาเป็น "โปรดักส์" สำคัญ เพราะสามารถเข้ามาแทรกอยู่ในคนทุกรุ่น นำมาแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม-เศรษฐกิจได้อย่างลงตัว จึงได้เรียนรู้เรื่องกาแฟอย่างจริงจัง พยายามให้ชุมชนปรับมุมมอง เปลี่ยนวิธีการปลูกจากที่เหมือนปลูกทิ้งปลูกขว้างสู่การสร้างความรู้และกำหนดทิศทางผลผลิตด้วยตนเอง ทำให้ได้รับการยอมรับในเชิงคุณภาพ ไม่ใช่แค่เรื่องปริมาณอีกต่อไป จนปัจจุบันแบรนด์ Akha Ama Coffee ขยายไปหลายสาขา ประสบความสำเร็จไม่ใช่แค่ในเมืองไทย แต่ยังเปิดประตูสู่เวทีสากลอย่างประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
ส่งกาแฟไทยไป "โตเกียว" เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
การปักหมุดขยายธุรกิจไปโตเกียว ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องศึกษาวัฒนธรรมและกฎระเบียบอย่างลึกซึ้ง แต่นี่คือก้าวสำคัญของแบรนด์ Akha Ama Coffeeเพราะต้องการยกระดับคุณค่าของกาแฟไทยทั้งในเชิงของการเพาะปลูก ฝีมือ และคุณภาพ ซึ่งพลังในการขับเคลื่อน หรือไอเดีย ต่าง ๆ ไม่ได้มาจากคนเพียงคนเดียว แต่มาจากทั้งชุมชน และน้อง ๆ ทีมทำงาน รวมถึงเครือข่ายที่นำเอากาแฟจากเมืองไทยไปทำแบรนด์ที่ญี่ปุ่น ทำให้ได้กินกาแฟแบบเดียวกับที่เราทำในเมืองไทย ทั้งที่กำไรจากการขยายไปต่างประเทศมีน้อยมาก โดยสิ่งที่ "อายุ จือปา" มุ่งหวังคือ การสร้างเส้นทางให้กับกาแฟไทย และสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า "ถ้าเด็กดอยทำได้ ใครในโลกใบนี้ก็ทำได้"
ส่วนเป้าหมายของ Akha Ama Coffee จะยังคงทำสิ่งเล็ก ๆ ไปเรื่อย ๆ โดยสิ่งสำคัญมากสำหรับเราในอุตสาหกรรมกาแฟคือ วันนี้มีกาแฟที่ดีแล้ว ในวันพรุ่งนี้หรือในอนาคตจะรักษาและทำให้ดีขึ้นได้อย่างไร ไม่ใช่เรื่องธุรกิจ แต่มองไปถึงการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน รวมถึงทุกคนในอุตสาหกรรมกาแฟ ดังนั้น การรักษามาตรฐานและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นเรื่องใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้นจะต้องใช้ทรัพยากรให้น้อยลง แต่เน้นเพิ่มคุณค่าและคุณภาพ แม้ว่าเราจะปลูกกาแฟที่มีปริมาณจำกัด ก็ต้องทำให้กาแฟมีคุณภาพที่ดีเยี่ยม พร้อมทั้งดูแลชุมชนและสิ่งแวดล้อมด้วย
"เราพูดเรื่องแรงบันดาลใจเสมอ ว่าจะอย่างไรให้คนที่อยู่ในห่วงโซ่ของกาแฟทั้งหมด มีแรงบันดาลใจในการทำสิ่งดี ๆ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำล้วนสำคัญ จึงอยากฝากทุกคนว่า กาแฟเป็นหนึ่งในวงการที่มีความ friendly ที่สุด ผมอยากให้สิ่งนี้มีอยู่ต่อไป เพื่อร่วมกันสร้างคุณค่าและไม่หยุดที่จะพัฒนา สร้างสมดุลเสริมกันและกันต่อไป ผมหวังว่าจะได้มีโอกาสนั่งกินกาแฟแก้วที่ดีกว่าวันนี้ในสภาพแวดล้อมที่ดีกว่าวันนี้เช่นกัน"
จากธุรกิจทางรอดสู่บทพิสูจน์กาแฟไทยบนเวทีสากล
จุดเริ่มต้นของ NANA Coffee Roaster ก็ไม่ได้เกิดจากความหลงใหลในกาแฟของ "วรงค์ ชลานุชพงศ์" แต่มาจากความต้องการ "อยู่รอด" หลังจากที่ธุรกิจเดิมอยู่ในช่วงขาลง จึงตัดสินใจมองหาธุรกิจใหม่ ซึ่งกาแฟเป็นทางเลือกที่ลงตัว ด้วยงบประมาณลงทุนที่ไม่มาก เพียงจ่ายค่าเช่าอุปกรณ์ราว 3,000 บาทต่อเดือน แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะหาทาง "สร้างจุดสูงสุดใหม่" ให้กับธุรกิจ และความจำเป็นในการอยู่รอดจึงค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นแรงผลักดันและ passion อย่างเต็มตัว สร้างแบรนด์ให้เป็นรู้จัก โดยในช่วง 3-4 ปีหลัง ได้รับการสนับสนุนให้ไปออกบูธในงานแสดงสินค้าที่ต่างประเทศ ซึ่งผู้บริโภคในประเทศมาเลเซีย จีน ญี่ปุ่น และดูไบ ค่อนข้างชื่นชอบกาแฟไทยอย่างมาก
"เราไม่ได้รู้สึกว่าประสบความสำเร็จ แต่ Organizer ในต่างประเทศต้องการเอาร้านกาแฟที่คนรู้จักไปร่วมงาน โดยออกค่าใช้จ่ายให้หมด เรามองว่าเป็นโอกาสและมีความเสี่ยงน้อย ซึ่งการที่กาแฟไทยขายหมดเป็นอย่างแรก เป็นภาพสะท้อนชัดเจนถึงสิ่งที่เราตั้งใจทำ ช่วงหลังได้ชวนน้อง ๆ ไปด้วย และทุกคนขายดีหมด ตอกย้ำว่ากาแฟไทยเป็นที่ยอมรับในเวทีระดับสากล นอกจากนี้ ยังมีการส่งน้อง ๆ ในร้านไปแข่งขัน อาศัยเวทีต่าง ๆ เป็นแรงผลักดันให้ทุกคนกระตือรือร้นในการฝึกฝนตัวเองให้เก่งขึ้น เป็นการสร้างเส้นทางอาชีพให้กับคนทำงาน"
ปรับกลยุทธ์ธุรกิจ ยกระดับมาตรฐานขายต่างประเทศ
อีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญของ NANA Coffee Roaster คือ การมีโอกาสไปประเทศจีนกับกรมเจรจาการค้า กระทรวงพาณิชย์ ทำให้มองเห็นว่าการมีสาขาแค่ในเมืองไทย อาจไม่เพียงพอที่จะตอบโจทย์การเติบโตในอนาคต แต่การจะไปตลาดต่างประเทศได้ ต้องมีมาตรฐานระดับสากลรองรับ ตั้งแต่ อย. ไปถึง GMP และ HCCP จึงตัดสินใจซื้อโรงงาน เพื่อยกระดับมาตรฐานและรองรับการขยายตัวสู่ต่างประเทศ พร้อมทั้งปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยลดการขยายสาขา และเน้นการผลิตแคปซูล รวมทั้งสินค้าเพื่อเข้าสู่ Modern Trade มากขึ้น ซึ่งจะทำให้ขยายการเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง
"เราเชื่อว่าการเติบโตต้องมาจากแรงบันดาล หรือความยากลำบาก การอยู่สบายจะไม่มีทางโต ดังนั้น แม้จะขายดีแล้ว ก็ต้องทำตัวเองให้เจ็บ หรือตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย เพราะธุรกิจคือการแข่งขันที่ต่อสู้กันด้วยคุณภาพ ซึ่งเรารู้สึกขอบคุณเกษตรกรทุกคน และกลับไปสนับสนุนเกษตรกรที่เป็นต้นน้ำมาตลอด โดยเชื่อว่า คนคั่วกาแฟไม่ใช่พระเจ้าที่จะเสกให้กาแฟแย่ กลายเป็นกาแฟอร่อยได้ ซึ่งกาแฟที่ยอดเยี่ยมต้องมาจากเมล็ดกาแฟที่ดีที่สุดเสมอ ใครที่คั่วกาแฟแล้วทำลายกาแฟน้อยที่สุดคือ คนที่เก่ง"
เส้นทางของ Akha Ama Coffee และ NANA Coffee Roaster ไม่เพียงยืนยันว่ากาแฟไทยสามารถไปไกลกว่ายอดดอย แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่เห็นว่า "คุณค่าของความตั้งใจ" มีพลังพอที่จะพลิกเส้นทางธุรกิจ แม้จะเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ เวทีเสวนานี้จึงไม่ใช่แค่พื้นที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์ แต่เป็นเวทีที่เชื่อมโยงผู้คนที่หลงรักกาแฟไทยทั่วโลกให้กลายเป็น Global Friends อย่างแท้จริง
เชียงใหม่ เดินหน้าผลักดันเชียงใหม่เมืองกาแฟต่อเนื่อง ล่าสุดจับมือกระทรวงเกษตรฯ ภาคเอกชนต้นน้ำ-ปลายน้ำ และผู้ผลิตกาแฟอาเซียนจัดการประชุมการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟในอาเซียน ครั้งที่ 1 หวังร่วมสร้างอาเซียนเป็นแหล่งผลิตกาแฟสำคัญของโลก
วว. พัฒนาเทคโนโลยีผลิตถ่านคาร์บอนจากของเหลือทิ้งกาแฟ สร้างอาชีพ พลังงานทดแทน ลดก๊าซเรือนกระจก
เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
เตรียมตัวสัมผัสประสบการณ์ใหม่กับเสน่ห์แห่งข้าวไทยและกาแฟพิเศษ ในงาน Thailand Coffee Fest 'Year End' 2024 และ Thailand Rice Fest 2024
รวมพลัง 2 เทศกาลใหญ่ส่งท้ายปี Thailand Coffee Fest 'Year End' 2024 และ Thailand Rice Fest 2024 พาเปิดโลกกาแฟและข้าวไทยในมุมใหม่ ที่ศูนย์ฯสิริกิติ์ 12 - 15 ธ.ค. นี้
เซ็นทรัลพัฒนา จับมือสมาคมกาแฟพิเศษไทย ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกาแฟไทย สร้าง Coffee Ecosystem แข็งแกร่ง ดันไทยสู่เดสติเนชั่นเทศกาลกาแฟระดับโลก ผ่าน Thailand Coffee Hub ทั่วประเทศ
ไอคอนสยาม ปลื้มคนร่วมงาน "ICONIC CRAFT COFFEE EXPO 2024' ล้นหลาม ตลอด 10 วัน ดันยอดขายพุ่ง 2 เท่า ยกระดับอุตสาหกรรมกาแฟไทย "ต้นน้ำ-ปลายน้ำ" ผงาดสู่ระดับสากล
ยึดมั่น Brand Purpose เซ็นทรัลพัฒนา หนุนอุตสาหกรรมกาแฟไทย เชื่อมโยง Coffee Hub แข็งแกร่งทุกภูมิภาค ผสานแน่นทุกฟันเฟือง เป้าหมายสู่เวทีโลก