ศูนย์ฯ สิริกิติ์ จับมือ SCIeco โดย SCG สร้างระบบจัดการขยะครบวงจร ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนในไมซ์ มุ่งสู่ศูนย์ประชุม Net Zero ปี 2050

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับบริษัท เอส ซี ไอ อีโค่ เซอร์วิสเซส จำกัด (SCIeco) โดย SCG ยกระดับระบบการจัดการขยะ ภายในศูนย์ฯ ไปสู่โมเดล "Waste-to-Value" ผ่านเทคโนโลยีการแปรรูปขยะทั่วไป (General Waste) ให้เป็นเชื้อเพลิงทดแทน (Refuse-Derived Fuel: RDF) ซึ่งช่วยลดปริมาณขยะที่จะเข้าสู่หลุมฝังกลบ พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2050

ศูนย์ฯ สิริกิติ์ จับมือ SCIeco โดย SCG สร้างระบบจัดการขยะครบวงจร ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนในไมซ์ มุ่งสู่ศูนย์ประชุม Net Zero ปี 2050

ความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเดือนวันสิ่งแวดล้อมไทย เพื่อตอกย้ำบทบาทของศูนย์ฯ สิริกิติ์ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ให้กับอุตสาหกรรมไมซ์ไทย โดยศูนย์ฯ สิริกิติ์ จะเป็นศูนย์ประชุมแห่งแรกของประเทศไทยที่นำระบบแปรรูปขยะทั่วไป เป็นพลังงานแบบ RDF มาใช้จริง สร้างการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม และผลักดันแนวคิดความยั่งยืนให้เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมไมซ์อย่างแท้จริง ศูนย์ฯ สิริกิติ์ จับมือ SCIeco โดย SCG สร้างระบบจัดการขยะครบวงจร ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนในไมซ์ มุ่งสู่ศูนย์ประชุม Net Zero ปี 2050

สุรพล อุทินทุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น. ซี. ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กล่าวว่า "การสร้างความยั่งยืนของอุตสาหกรรมไมซ์ ต้องเริ่มจากฐานโครงสร้างการบริหารจัดการ ไม่ใช่เพียงการรณรงค์ ในระดับกิจกรรม ความร่วมมือครั้งนี้คือก้าวสำคัญในการปรับระบบตั้งแต่ต้นทางของการจัดการขยะ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเดินหน้าไปสู่เป้าหมาย Net Zero อย่างมั่นคง"

"ศูนย์ฯ สิริกิติ์ จึงเลือกพาร์ทเนอร์อย่าง SCIeco โดย SCG ซึ่งเป็นองค์กรต้นแบบที่ดำเนินธุรกิจ อย่างยั่งยืน รับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมตามหลักบรรษัทภิบาล และเป็นผู้เชี่ยวชาญ ด้านการจัดการของเสียครบวงจร (Total Waste Management) รวมถึงการแปรรูปขยะทั่วไป (General -Waste) ให้เป็นเชื้อเพลิงทดแทน (Refuse-Derived Fuel: RDF) ที่ได้รับความไว้วางใจ

จากหลากหลายอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศ ด้วยศักยภาพด้านเทคโนโลยี การบริหารจัดการ และระบบรายงานข้อมูลที่โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ เรามั่นใจว่าความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงช่วยยกระดับการจัดการขยะภายในศูนย์ฯ สิริกิติ์ สู่มาตรฐานสากลเท่านั้น แต่ยังเป็นต้นแบบ ในการนำของเสียกลับเข้าสู่กระบวนการผลิตพลังงานหมุนเวียน และสนับสนุนเป้าหมายเศรษฐกิจหมุนเวียนของประเทศไทย ในระยะยาว"

ตลอด 3 ปี ที่ผ่านมา ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ได้พัฒนามาตรการด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ทั้งภายในและภายนอกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำระบบมาตรฐานสากล ISO 14064-1 และ Carbon Footprint for Organization (CFO) ซึ่งล้วนเป็นมาตรฐานสำหรับการวัดปริมาณและการรายงานการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร การร่วมมือกับองค์กรภายนอก ในการนำอาหารส่วนเกินกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ (Zero Food Waste Initiative) ไปจนถึงการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของอิเวนต์ (Carbon Footprint of Event-CFE) ด้วยการนำแดชบอร์ดคำนวณคาร์บอนแบบเรียลไทม์ หรือ Real-Time Carbon Footprint Tracking Dashboard มาใช้ในงานไมซ์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของศูนย์ประชุมในประเทศไทย ความทุ่มเทดังกล่าวทำให้ ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ได้รับรางวัลด้านความยั่งยืนทั้งในระดับประเทศ และระดับสากล ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญ ที่ผลักดันองค์กรสู่เป้าหมาย Net Zero 2050 อย่างเป็นรูปธรรม

ฉลอง ลิ่มสุนทรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส ซี ไอ อีโค่ เซอร์วิสเซส จำกัด กล่าวว่า "เรามองว่าขยะไม่ใช่ภาระแต่เป็นทรัพยากรที่ยังมีคุณค่าซ่อนอยู่ การแปรรูปขยะทั่วไป ให้เป็นพลังงานทดแทน คือการคืนคุณค่าให้ทรัพยากรกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ศูนย์ฯ สิริกิติ์ เป็นศูนย์การประชุมแรกในประเทศไทยที่เราร่วมมือ ด้วยเล็งเห็นศักยภาพ ในการพัฒนาระบบจัดการขยะในระดับปฏิบัติการจริง ตั้งแต่ขั้นตอนคัดแยก รวบรวมจัดเก็บ ไปจนถึงการส่งต่อ เพื่อแปรรูปเป็นพลังงานอย่างครบวงจร ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นต้นแบบสำคัญให้อุตสาหกรรมไมซ์ ในการยกระดับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม และขับเคลื่อนประเทศไทย สู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างยั่งยืน"

ความร่วมมือนี้สะท้อนเจตนารมณ์ร่วมของทั้งสององค์กรในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมที่วัดผลได้จริง และเป็นอีกก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์ไทย ในการผลักดันประเทศไทยสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน


ข่าวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ+วันสิ่งแวดล้อมไทยวันนี้

บพข. เปิดเวที "PMUC Co-Creation" ครั้งที่ 1 ติวเข้มสูตรขอทุนสำหรับผู้ประกอบการ/เอกชน เจาะ 4 GIGA Clusters ปั้นนวัตกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) จัดงาน "PMUC Co-Creation: ปั้นนวัตกรรมด้วยทุนจาก บพข." เปิดเวที Workshop สุดเข้มข้นให้ผู้ประกอบการและภาคเอกชนกว่า 120 บริษัท จำนวนกว่า 200 คน ที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรม ได้เรียนรู้เทคนิคการเข้าถึงทุนวิจัยและนวัตกรรมจากรัฐแบบเจาะลึก เพื่อมุ่งสร้างอิมแพ็คเชิงเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม ผศ.ดร. กานดา บุญโสธรสถิตย์ ผู้อำนวยการ บพข. เผยว่า งาน PMUC Co-Creation จัดขึ้นภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อเปิดมิติใหม่ของการพัฒนานวัตกรรม โดยออกแบบให้

ในเวทีสัมมนาวิชาการประจำปี 2568 "นวัตกรรม... "นวัตกรรมสังคม" แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ สร้าง New S-Curve เคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก — ในเวทีสัมมนาวิชาการประจำปี 2568 "นวัตกรรมสังคมกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐาน...