นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอน การกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างกระแสรายได้ที่มั่นคงจึงเป็นทางเลือกน่าสนใจ ประกอบกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่อาจปรับลดลงในอนาคต จึงอาจเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนราคาตราสารหนี้ให้สูงขึ้นได้ เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนระยะยาวเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี บริษัทฯ จึงได้เปิดเสนอขาย กองทุนเปิดกรุงไทย World Class Income เพื่อการเลี้ยงชีพ (KTWC-INCOME RMF) (ความเสี่ยงระดับ 5) โดยเปิดเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 11 - 17 ธันวาคม 2568 นี้ โดยผู้ลงทุนสามารถลงทุนผ่าน บลจ.กรุงไทย หรือธนาคารกรุงไทย รวมถึงแอปพลิเคชัน KTAM Smart Trade และ NEXT
สำหรับกองทุน KTWC-INCOME RMF เป็นกองทุนรวมผสมที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม และ/หรือกองทุนรวม ETF ในต่างประเทศ ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีการลงทุนทั้งในหุ้น ตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ทรัพย์สินทางเลือก เงินฝากหรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก โดยจะลงทุนในกองทุนรวมและ/หรือ ETFอย่างน้อยตั้งแต่ 2 กองทุน เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยจะลงทุนในกองทุนใดกองทุนหนึ่งไม่เกิน 79% ของ NAV และกองทุนมีการลงทุนที่ส่งผลให้มี net exposure ที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่างประเทศ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV อย่างไรก็ตาม กองทุนจะกำหนดสัดส่วนการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารทุน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกิน 30% ของ NAV โดยกองทุนจะเน้นกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ประเภทต่างๆ ทั่วโลก เพื่อโอกาสรับกระแสรายได้ระหว่างทางอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ บริษัทจัดการจะมอบหมายให้ FIL Investment Management (Hong Kong) Limited ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Fidelity International เป็นผู้รับมอบหมายงานด้านการจัดการลงทุน โดยไม่รวมในส่วนการลงทุนเพื่อสภาพคล่อง
กองทุนมีกลยุทธ์เน้นสร้างกระแสรายได้จากแหล่งที่มาที่มีความหลากหลาย โดยจะเน้นการกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ประเภทต่างๆ ทั่วโลกใน (1) สินทรัพย์ที่มีคุณภาพ (Quality Assets) เช่น พันธบัตรรัฐบาล และหุ้นกู้ Investment grade ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับที่สามารถลงทุนได้ตั้งแต่ BBB ขึ้นไป (2) สินทรัพย์เพื่อสร้างกระแสรายได้ (Carry Assets) เช่น ตราสารหนี้ High yield และตราสารหนี้ Emerging market และ (3) สินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ (Opportunistic Assets) เช่น Leveraged loan, Listed private debt (BDCs) และหุ้นกู้แปลงสภาพ โดยกองทุนจะกำหนดกรอบการลงทุนเป็นสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าระดับที่สามารถลงทุนได้ (High Yield) ไม่เกิน 60% และสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก ไม่เกิน 15% โดยเบื้องต้นได้กำหนดสัดส่วนการลงทุนเป้าหมายในกลุ่มตราสารหนี้ High Yield ประมาณ 35% และสินทรัพย์ทางเลือกประมาณ 10% (กลยุทธ์และสัดส่วนการลงทุนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทางผู้จัดการกองทุน ที่มา : Fidelity International ข้อมูล ณ 16 มิ.ย. 68)
นอกจากความน่าสนใจจากการสร้างกระแสรายได้จากแหล่งที่มาที่มีความหลากหลายในทุกสภาวะตลาด และบริหารจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญระดับโลกอย่าง FIL Investment Management (Hong Kong) Limited ผ่านกระบวนการในการสร้างพอร์ตการลงทุนอย่างมีวินัย พร้อมทั้งยังสร้างความสมดุลด้านการบริหารจัดการความเสี่ยงจากแหล่งที่มาของความเสี่ยงที่แตกต่างกัน โดยมุ่งเน้นการสร้างสมดุลความเสี่ยงระหว่างด้านเครดิต และด้านอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้เกิดเสถียรภาพตลอดวัฏจักรของตลาด
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการได้ที่ บลจ.กรุงไทย โทร. 0-2686-6100 กด 9 และธนาคารกรุงไทย หรือศึกษารายละเอียดได้ที่ www.ktam.co.th สนใจเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชั่น KTAM Smart Trade ได้ที่ https://bit.ly/KTSTSignIn
ปัจจัยความเสี่ยงของกองทุนที่สำคัญ : ความเสี่ยงจากการผันผวนของราคาตราสาร ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของผู้ออกตราสาร ความเสี่ยงจากการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของผู้ออกตราสาร ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องของตราสาร ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ความเสี่ยงของประเทศที่ลงทุน ความเสี่ยงจากข้อจำกัดการนำเงินลงทุนกลับประเทศ ความเสี่ยงจากการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกัน ความเสี่ยงความเสี่ยงจากการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ความเสี่ยงในเรื่องคู่สัญญาในการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และความเสี่ยงของการลงทุนในตราสารที่มีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง
คำเตือน: กองทุนมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน โดยกองทุนป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ผู้ลงทุนจึงอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเป็นคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน RMF และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ หากลงทุนไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด อาจต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเสียเงินเพิ่ม
บลจ.ทิสโก้ ตัวจริงเรื่องทริกเกอร์ฟันด์ บริหาร กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ ทริกเกอร์ 5M#1 ถึงเป้าหมายใน 25 วัน
ธปท.แต่งตั้ง บลจ.ทิสโก้ ร่วมบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
BBLAM เสนอขาย IPO 'กองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 10/25' วันที่ 3-8 ธ.ค. 2568
จิตตะ เวลธ์ ปักธงช่วยคนไทยหลุดพ้น "กับดักกองทุนรวม" เปิดตัว Omni Fund กองทุนส่วนบุคคลเจ้าแรก ที่ซื้อ-ขาย ปรับพอร์ตกองทุนรวมให้อัตโนมัติ
'พรินซิเพิล' คว้ารางวัล Best Asset Management Company Awards* จากงาน SET Awards 2025 ผู้นำความเป็นเลิศด้านการบริหารจัดการมาตรฐานระดับโลก
บลจ.เกียรตินาคินภัทร คว้ารางวัล บริหารกองทุนดีเด่น และ บลจ.ดีเด่นด้าน ESG จากเวที SET AWARDS 2025 ตอกย้ำบทบาทผู้นำการลงทุนอย่างรับผิดชอบ
บลจ.เกียรตินาคินภัทร เปิดตัวกองทุน KKP AAA CLO-USD โอกาสใหม่สำหรับการลงทุนในตราสารที่มีสินเชื่อเป็นหลักประกัน (CLO) IPO วันที่ 25 พฤศจิกายน - 3 ธันวาคม นี้
BBLAM เสนอขาย IPO 'BP23/25(AI)' วันที่ 26-28 พ.ย. 2568