ปัจจุบัน โลกกำลังเผชิญวิกฤตโลกร้อนอย่างรุนแรง จากรายงานของ McKinsey & Company (2022) ระบุว่า ภาคการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์เป็นแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกราว 40% จากการเผาเชื้อเพลิง? ทำให้หลายประเทศและองค์กรทั่วโลกเร่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาอาคารที่มีการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Building วันนี้ OPEN-TEC ศูนย์กลางองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี (Tech Knowledge Sharing Platform) ภายใต้การดูแลของ TCC TECHNOLOGY GROUP จะพาทุกท่านทำความรู้จักแนวคิดที่กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการพัฒนาอาคารในอนาคต
Net Zero Building คืออะไร?
Net Zero Building คืออาคารที่ถูกออกแบบและบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้งานพลังงานน้อยกว่าหรือเท่ากับพลังงานสะอาดที่ผลิตได้เองและส่งเสริมการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการติดตั้งระบบตรวจสอบควบคุมการใช้พลังงานแบบอัตโนมัติ เพื่อให้มั่นใจว่าอาคารมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเท่ากับศูนย์อย่างแท้จริง นอกจากนี้ แนวคิด Net Zero ยังครอบคลุมถึงการลดคาร์บอนที่เกิดจากกระบวนการผลิตวัสดุก่อสร้างและการก่อสร้าง (embodied carbon) ซึ่งปัจจุบันได้รับความสำคัญมากขึ้น จากรายงานของ World Green Building Council' (WorldGBC) แนะนำว่าอาคารใหม่ควรลดการปล่อยคาร์บอนจากส่วนนี้อย่างน้อย 40% ภายในปี 2030 และตั้งเป้าลดให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050?
เทคโนโลยีที่ทำให้อาคารเป็น Net Zero ได้จริง
เมื่อแนวคิด Net Zero Building ถูกนำมาใช้ในวงกว้าง เทคโนโลยีก็กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้อาคารสามารถลดการปล่อยคาร์บอนและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น
- พลังงานหมุนเวียน: แผงโซลาร์บนหลังคาและกังหันลมขนาดเล็กทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานหลัก
- ระบบกักเก็บพลังงาน: ช่วยให้สามารถใช้ไฟฟ้าได้ต่อเนื่องแม้ในช่วงแสงอาทิตย์ไม่เพียงพอ
- เซนเซอร์ IoT: เก็บข้อมูลอุณหภูมิ แสงสว่าง และการใช้ไฟฟ้าในแต่ละพื้นที่ของอาคาร ทำงานร่วมกับระบบควบคุมอัตโนมัติ เพื่อปรับการใช้พลังงานอย่างเหมาะสม
- วัสดุก่อสร้างสมัยใหม่: กระจกกันความร้อนหรือฉนวนประสิทธิภาพสูงช่วยลดภาระของระบบปรับอากาศ
- แบบจำลองเสมือนจริง: ตัวอย่างการจำลองอาคารเสมือนจริงโดยให้นักออกแบบและวิศวกรสามารถประเมินประสิทธิภาพการใช้พลังงานและปรับปรุงการออกแบบตั้งแต่ขั้นตอนก่อนก่อสร้าง
ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้อาคารมีโอกาสเข้าใกล้เป้าหมาย Net Zero ได้ตั้งแต่ต้นทางนั่นเอง
Net Zero Building กับโลกธุรกิจ
ในโลกธุรกิจ การออกแบบอาคารให้สอดคล้องกับ Net Zero นั้นแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและการสร้างผลประโยชน์เชิงเศรษฐกิจที่ชัดเจน แม้ต้นทุนการก่อสร้างจะสูงกว่าอาคารทั่วไป แต่ในระยะยาวสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้มาก ส่งผลให้ผลตอบแทนการลงทุนคุ้มค่า อีกทั้ง อาคารที่ได้มาตรฐาน Net Zero ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กร ซึ่งสอดคล้องกับแนวทาง ESG ที่หลายองค์กรในยุคปัจจุบันให้ความสำคัญ
แนวโน้ม Net Zero Building ในประเทศไทย
ประเทศไทยเริ่มมีแนวโน้มการพัฒนาอาคาร Net Zero อย่างชัดเจน โดยหลายโครงการใหญ่ได้นำเทคโนโลยีและแนวคิดยั่งยืนมาปรับใช้ สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจ ดังตัวอย่างโครงการต่อไปนี้
1. One Bangkok3
One Bangkok เป็นหนึ่งในตัวอย่างของอาคารที่ออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะของผู้ใช้งานตั้งแต่แรกเริ่ม โดยได้รับมาตรฐาน LEED ND Platinum และ WELL Core & Shell Platinum โดยภายในโครงการมีการใช้ District Cooling System ที่ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 17,000 MWh/ปี และลด CO? ประมาณ 9,000 ตัน/ปี พร้อม Smart Energy Management System และ IoT ที่สามารถตรวจสอบการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์ รวมถึงระบบน้ำรีไซเคิลและการรีไซเคิลขยะจากการก่อสร้างได้มากกว่า 75%
2. Queen Sirikit National Convention Center (QSNCC)4
QSNCC เป็นตัวอย่างของศูนย์ประชุมที่ปรับตัวสู่ความยั่งยืนด้วยการใช้เทคโนโลยี Net Zero ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนอย่างเป็นระบบ เช่น Real-Time Carbon Footprint Tracking Dashboard, Solar Rooftop ขนาดกว่า 6,200 ตารางเมตร5, ระบบแสงธรรมชาติ, การจัดการขยะอาหารแบบ Zero Food Waste และวัสดุก่อสร้างรีไซเคิลกว่า 75% โครงการนี้ได้รับรางวัลด้านสิ่งแวดล้อมหลายรายการ เช่น Best Sustainability Initiative (Convention Centre) จาก M&C Asia Stella Awards 2023 และ ISO 20121
3. The PARQ6
The PARQ เป็นโครงการที่ใช้เทคโนโลยีอาคารอัจฉริยะ เพื่อลดการใช้พลังงานและคาร์บอนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี ระบบเครื่องปรับอากาศรวม (Chiller Plant) ที่มีประสิทธิภาพสูง, พัดลมควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (electronically commutated) ในการปรับอากาศ, กระจกฉนวน (Insulating Glass) ที่ลดความร้อนเข้าสู่ตัวอาคารได้ถึง 75% และ เซ็นเซอร์อัจฉริยะ ที่ควบคุมแสงสว่างอัตโนมัติ ซึ่งการออกแบบและติดตั้งเทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยลดการใช้พลังงานและคาร์บอน พร้อมสร้างสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายสำหรับผู้ใช้อาคาร
สุดท้ายนี้ อาคารคาร์บอนสุทธิศูนย์ หรือ Net Zero Building กำลังค่อย ๆ กลายเป็นแนวทางปฏิบัติที่จับต้องได้และเริ่มเป็นมาตรฐานของภาคธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์ อาคารเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของความยั่งยืน แต่ยังสะท้อนถึงการวางแผนและการลงทุนที่คุ้มค่า ทั้งด้านพลังงาน ภาพลักษณ์ และความพร้อมสำหรับอนาคต
อ้างอิง
- McKinsey & Company. Accelerating green growth in the built environment. McKinsey. https://shorturl.at/cLWy4
- 2. World Green Building Council. New report - The building and construction sector can reach net?zero carbon emissions by 2050. WorldGBC. https://shorturl.at/3hVbC
- 3. One Bangkok. Sustainability & Smart City. One Bangkok. https://shorturl.at/e0dUV
- 4. Queen Sirikit National Convention Center (QSNCC). First time for Thailand's convention centers! QSNCC sets a new sustainability standard for the MICE industry with a real-time carbon footprint tracking dashboard. 2 June 2025. QSNCC. https://shorturl.at/iT2Gh
- 5. Queen Sirikit National Convention Center (QSNCC). Sustainability & Standard. QSNCC. https://shorturl.at/ZXzqU
- 6. The PARQ. LEED Features. The PARQ. https://www.theparq.com/en/sustainability/leed-features
ทีทีบี ผนึก แสนสิริ ออก "สินเชื่อบ้านรักษ์โลก" ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 2.75% ต่อปี เดินหน้าสร้างสังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน
คืบหน้าต่อเนื่อง! "ลูนิค เรียลเอสเตท" แต่งตั้ง "พรพระนคร" ลุยงานก่อสร้างเฟสแรกโครงการลักชัวรี "Skypark Lucean Jomtien Pattaya"
แสนสิริ ผนึก สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์ 2 ผู้นำ จากวงการอสังหาฯ และ การศึกษาไทย ยกระดับการเรียนรู้จากห้องเรียน สู่โลกแห่งการทำงานจริง
แสนสิริ คว้ารางวัลระดับ APAC จาก Meta "Best Reels for Innovation & Generative AI"
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เปิดประสบการณ์ใหม่แห่งการอยู่อาศัย"Flexible Function" บ้านที่ปรับพื้นที่ได้ตามใจ ภายใต้แนวคิด "Lalin Miracle Space" ที่เข้าใจทุกการใช้ชีวิต
ออริจิ้น เรสซิเดนซ์ ภูเก็ต บางเทา สร้างปรากฏการณ์! เปิดจอง Online Booking ครั้งแรก SOLD OUT ภายในเวลา 15 นาที !! กวาดยอดขายกว่า 500 ล้านบาท
FPT คว้า CGR ระดับดีเลิศ 6 ปีซ้อน พร้อมรับการจัดอันดับสูงสุดจาก GRESB การันตีมาตรฐานด้านความยั่งยืนของไทย-สากล
B-WORK เตรียมจ่ายเงินปันผล ในอัตรา 0.182386 บาทต่อหน่วย วันที่ 11 ธ.ค. 2568 นี้