Navella แจง! ปวดไมเกรน มีอาการแบบไหน พร้อม 5 วิธีป้องกัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

คุณเคยรู้สึกปวดหัวตุ้บ ๆ ข้างเดียวจนแทบทนไม่ไหวไหม? อาการปวดหัวไมเกรนสามารถทำให้ต้องหยุดกิจกรรมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน อ่านหนังสือ หรือแม้กระทั่งพักผ่อน เพราะความรุนแรงของอาการสามารถส่งผลต่อคุณภาพชีวิตได้โดยตรง หลายคนมักเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเพียงปวดหัวทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วไมเกรนเป็นภาวะเฉพาะที่เกิดจากระบบประสาทและหลอดเลือดในสมอง ทำให้เกิดอาการซับซ้อนมากกว่าแค่ความเจ็บปวด การเข้าใจสัญญาณและวิธีป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดความถี่และความรุนแรงของอาการได้อย่างมาก

Navella แจง! ปวดไมเกรน มีอาการแบบไหน พร้อม 5 วิธีป้องกัน

อาการปวดไมเกรนต่างจากปวดหัวทั่วไปอย่างไร?

หลายคนมักสับสนระหว่าง ปวดหัวทั่วไป กับ ปวดหัวไมเกรน แม้ว่าทั้งสองจะทำให้เกิดความเจ็บปวด แต่สาเหตุและลักษณะอาการต่างกันอย่างชัดเจน การแยกแยะอาการระหว่างปวดหัวทั่วไปกับไมเกรนช่วยให้เราเลือกวิธีจัดการได้ถูกต้อง เช่น การปรับพฤติกรรม ไลฟ์สไตล์ และรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งสามารถลดความถี่และความรุนแรงของไมเกรนได้อย่างตรงจุด

ปวดหัวทั่วไป มักเกิดจากความเครียด การนอนหลับไม่เพียงพอ หรือกล้ามเนื้อคอและไหล่ตึง โดยลักษณะอาการมักเป็นความรู้สึกแน่นหรือบีบรัดรอบศีรษะ ไม่รุนแรงมาก สามารถบรรเทาได้ด้วยการพักผ่อน ดื่มน้ำ หรือใช้ยาพาราเซตามอล

ในขณะที่ ปวดหัวไมเกรน เป็นภาวะทางระบบประสาทและหลอดเลือดในสมอง ทำให้เกิดอาการเฉพาะตัว ซึ่งจะกล่าวถึงในลำดับต่อไป

อาการปวดหัวไมเกรนที่พบได้บ่อย มีลักษณะอย่างไร?

  • ปวดศีรษะข้างเดียว: อาการปวดมักเกิดที่ข้างใดข้างหนึ่งของศีรษะ ทำให้รู้สึกตุ้บ ๆ เป็นจังหวะ
  • อาการไวต่อแสงและเสียง: แสงจ้า เสียงดัง หรือแม้แต่กลิ่นบางชนิด สามารถทำให้อาการปวดแย่ลง
  • อาการคลื่นไส้/อาเจียน: ไมเกรนบางชนิดมักมาพร้อมกับอาการคลื่นไส้หรืออาเจียน ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย
  • อาการอื่น ๆ: เช่น เห็นแสงวาบผิดปกติ ภาพบิดเบี้ยว รู้สึกชาตามร่างกาย หรือมีอาการตาพร่ามัว

Navella แนะ! 5 วิธีป้องกันอาการปวดไมเกรนเรื้อรัง

1. หาต้นเหตุของอาการ (เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด)

สิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันอาการไมเกรนเรื้อรังคือ "การหาต้นเหตุของอาการ" เพราะไมเกรนไม่ได้เกิดจากสาเหตุเดียวเสมอไป แต่สามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งด้านพฤติกรรม ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ อาหารบางชนิด หรือแม้แต่ "ความไม่สมดุลของฮอร์โมนและการมีสารพิษสะสมในร่างกาย" เช่น ท็อกซินจากสิ่งแวดล้อม สารโลหะหนัก หรือของเสียที่ร่างกายขับออกได้ไม่หมด ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจไปกระตุ้นการอักเสบของเส้นเลือดและระบบประสาท ทำให้เกิดอาการปวดไมเกรนซ้ำ ๆ ได้

ดังนั้น การ "ตรวจหาต้นเหตุเชิงลึก" จึงเป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลไมเกรนอย่างยั่งยืน ที่ Navella Medical & Wellness มีบริการตรวจวิเคราะห์ระดับฮอร์โมนและสารพิษในร่างกาย เพื่อค้นหาความไม่สมดุลหรือสิ่งตกค้างที่อาจเป็นตัวกระตุ้นไมเกรน จากนั้นจึงวางแผนการปรับสมดุลและขับสารพิษออกอย่างเหมาะสมกับแต่ละบุคคล

เพราะเมื่อรู้ต้นเหตุที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นความเครียด ฮอร์โมน หรือสารพิษ ก็สามารถวางแนวทางการรักษาและป้องกันได้ตรงจุด เช่น ปรับโภชนาการให้เหมาะสม เพิ่มการดีท็อกซ์ระบบต่าง ๆ และเสริมวิตามินที่ช่วยลดการอักเสบของเส้นประสาท เพื่อป้องกันไม่ให้ไมเกรนกลับมาอีกในระยะยาว

2. เสริมวิตามินและอาหารเสริมที่ช่วยบรรเทาอาการ

บางสารอาหารช่วยลดความรุนแรงและความถี่ของไมเกรน เช่น

  • แมกนีเซียม มีส่วนช่วยให้หลอดเลือดและระบบประสาททำงานอย่างสมดุล ลดการเกร็งของหลอดเลือดและการส่งสัญญาณปวดในสมอง อย่างไรก็ตาม แมกนีเซียมมีหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละชนิดมีประสิทธิภาพและการดูดซึมต่างกัน สำหรับผู้ที่มีปัญหาไมเกรน ควรเลือกแมกนีเซียมในรูปแบบ Magnesium Glycinate หรือ Magnesium Threonate เพราะสองฟอร์มนี้ดูดซึมเข้าสู่สมองได้ดี มีฤทธิ์ช่วยผ่อนคลายระบบประสาท และไม่ทำให้ท้องเสีย ต่างจากแมกนีเซียมออกไซด์หรือซิเตรตที่มักกระตุ้นให้ลำไส้ทำงานมากขึ้น เหมาะกับคนที่ท้องผูกแต่ไม่เหมาะกับผู้มีอาการไมเกรนเรื้อรัง การเสริมแมกนีเซียมที่ถูกชนิดและปริมาณจึงช่วยลดการเกิดไมเกรนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • วิตามิน B2 (ไรโบฟลาวิน) ช่วยเพิ่มการทำงานของไมโทคอนเดรีย ลดความเสี่ยงการปวดหัว
  • CoQ10 ช่วยลดความเครียดออกซิเดชันและส่งเสริมสุขภาพระบบประสาท

หมายเหตุ: การรับประทานอาหารเสริมหรือวิตามินที่เหมาะสมควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้ปริมาณที่ปลอดภัยและตรงตามความต้องการของร่างกาย

3. การจัดการความเครียดและการนอนหลับให้เป็นเวลา

ความเครียดและการนอนหลับไม่เพียงพอเป็นตัวกระตุ้นไมเกรนอันดับต้น ๆ การฝึกเทคนิคผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก ๆ, การทำสมาธิ หรือโยคะเบา ๆ ร่วมกับการนอนหลับให้เป็นเวลา จะช่วยลดความถี่ของอาการได้ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการนอนดึกและรักษาตารางเวลาตื่นนอนให้สม่ำเสมอ

4. การหลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นอาการไมเกรน

อาหารบางชนิดสามารถทำให้เกิดไมเกรน เช่น ชีสที่ผ่านการหมัก, แอลกอฮอล์, ช็อกโกแลต, คาเฟอีนมากเกินไป, และอาหารแปรรูปที่มีสารกันบูด การรู้จักอาหารที่ตัวเองแพ้หรือกระตุ้นอาการ แล้วปรับเมนูให้เหมาะสม จะช่วยลดความถี่ของการปวดไมเกรนได้จริง

5. การออกกำลังกายเบา ๆ ไม่หักโหม

การออกกำลังกายเบา ๆ อย่างสม่ำเสมอช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด ลดความเครียด และกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินที่บรรเทาอาการปวด การเลือกกิจกรรมที่ไม่หักโหม เช่น โยคะ เดินเร็ว หรือว่ายน้ำเบา ๆ จะทำให้ร่างกายแข็งแรงโดยไม่เป็นตัวกระตุ้นไมเกรน

6. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านฮอร์โมน

หลายคนอาจไม่รู้ว่า "ไมเกรน" ไม่ได้เกิดจากแค่ความเครียดหรือพักผ่อนน้อยเท่านั้น แต่ ความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่กระตุ้นอาการได้ โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มักมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในรอบเดือน เช่น ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และ โปรเจสเตอโรน (Progesterone) หากระดับฮอร์โมนเหล่านี้ลดลงหรือเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น ก่อนมีประจำเดือน ช่วงหลังคลอด หรือในวัยใกล้หมดประจำเดือน อาจทำให้เกิดอาการไมเกรนกำเริบได้บ่อย

นอกจากนี้ ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งหลั่งจากต่อมหมวกไต มีบทบาทสำคัญในการควบคุมความเครียดและพลังงานของร่างกาย หากร่างกายเครียดสะสมหรือนอนไม่พอเป็นเวลานาน ต่อมหมวกไตอาจทำงานหนักจนเกิดภาวะที่เรียกว่า "ต่อมหมวกไตล้า" (Adrenal Fatigue) ส่งผลให้ระดับคอร์ติซอลไม่คงที่ เกิดภาวะอ่อนเพลีย ปวดหัวเรื้อรัง และไมเกรนบ่อยขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ดังนั้น การตรวจวัดระดับฮอร์โมนจึงเป็นขั้นตอนสำคัญในการหาต้นเหตุของอาการไมเกรนที่แท้จริง เพราะบางครั้งปัญหาไม่ได้อยู่ที่สมอง แต่เกิดจากระบบฮอร์โมนและต่อมไร้ท่อที่เสียสมดุล การตรวจฮอร์โมนกับผู้เชี่ยวชาญ ที่ Wellness Center จะช่วยวิเคราะห์ความไม่สมดุลของฮอร์โมน เอสโตรเจน โปรเจสเตอโรน คอร์ติซอล รวมถึงฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับพลังงาน สมาธิ และความไวของระบบประสาท

ติดต่อ Navella ได้ที่

Location: Silom Edge ชั้น 3 (ติดสถานี MRT Silom & BTS Sala Daeng)

Tel: 02-090-6988, 098-286-6228

Line: @navellawellness

IG: @navellawellness

FB: Navella Medical

Website: www.navellawellness.com

E-mail: [email protected]

**ใบอนุญาตคลินิก : 10102000166


ข่าวทนไม่ไหว+การทำงานวันนี้

LADIIPRANG X KLEAR LIVE SESSION โปรเจกต์พิเศษส่งต่อพลังหญิง

ปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ได้อุบัติขึ้นแล้ว เมื่อวงร็อกที่มีนักร้องนำเป็นผู้หญิงอย่างวง KLEAR จากค่าย genie records และนักร้องสาวมากความสามารถ LADIIPRANG จากค่าย LOVEiS ENTERTAINMENT ผนึกกำลังกันทำ LIVE SESSION ด้วยกันครั้งแรก ถือเป็นกำไรของคนฟังอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยเพลงที่คัดเลือกมาก็เป็นผลงานล่าสุดของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็น "เจ็บให้พัง" จากวง KLEAR และ "อยู่จนกว่าจะทนไม่ไหว (STAY)" จาก LADIIPRANG ซึ่งเป็นเพลงที่ แพท วง KLEAR ช่วยเขียนเนื้อเพลงให้ด้วย การมาร่วมร้องเพลงด้วยกันในโปรเจกต์นี้ทำให้

มาแล้วจ้า!! กับล้อหนังดัง "คุณชายโซ" ที่น... "แจ๊ส ชวนชื่น" ฮาจัดหนัก "คุณชายโซ" ที่ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 — มาแล้วจ้า!! กับล้อหนังดัง "คุณชายโซ" ที่นำแสดงโดยซุปตาร์ตลก แจ๊ส ชวนชื่น พร้อมด้วยตัวตึงสร้างคว...

"เปโดร ณพวีร์ พุกกะมาน" นักลงทุนรุ่นใหม่แ... ผลงานหนังสือคู่มือลงทุนเล่มแรก "เปโดร ณพวีร์ พุกกะมาน" ใกล้คลอดแล้ว!! — "เปโดร ณพวีร์ พุกกะมาน" นักลงทุนรุ่นใหม่และผู้ก่อตั้ง Creative Investment Space (C...

ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มมีการแข่งขันกันอ... อิ่มตา อิ่มท้อง กับบริการถ่ายภาพอาหารยั่วๆ ฟรี! จาก foodpanda — ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มมีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น โดยแต่ละร้านต้องงัดเอาเมนูเด่นและบริก...

"อานตี้ แอนส์" (Auntie Anne's) ผู้นำตลาดซ... คลั่งรักชีสฟินไม่ไหว อานตี้ แอนส์ ส่งเมนูใหม่ กับ XOXO Cheese Pretzel อร่อยเน้นๆ ฟินเท่าโลก — "อานตี้ แอนส์" (Auntie Anne's) ผู้นำตลาดซอฟท์เพรทเซลของประเท...

อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ ซุปตาร์ตัวแม่ หลังต... "อั้ม-พัชราภา" ต่อสัญญาพรีเซ็นเตอร์ กิฟฟารีน ไฮยา ฉลองยอดขาย 2 ล้านขวด — อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ ซุปตาร์ตัวแม่ หลังต่อสัญญา พรีเซ็นเตอร์ กิฟฟารีน ไฮยา อินเท...

หลังจากมีข่าวปิดโรงงานผลิตชุดชั้นใน (บ่อย... SABINA เคลียร์ชัด ! ยันโรงงานผลิตชุดชั้นในทั้ง 5 แห่งยังเปิดปกติ — หลังจากมีข่าวปิดโรงงานผลิตชุดชั้นใน (บ่อยๆ) จนนักลงทุนอดรนทนไม่ไหวโทรมาถามความแข็งแรงขอ...