บมจ.เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ (PCE) ส่งสัญญาณโตไม่หยุด เดินหน้าขยายโรงสกัดน้ำมันปาล์มเต็มกำลัง เปิดเฟส 2 เดือนธันวาคมนี้ เพิ่มกำลังผลิต 100% จาก1,800 ตันต่อวันเพิ่มเป็น 3,600 ตัน/วัน ก่อนเดินหน้าสู่เฟส 3 ไตรมาส 3 ปี 69 ดันกำลังผลิตทะลุ 5,040 ตัน/วัน ต่อยอด Economy of Scale หนุนรายได้-กำไรระยะยาวแข็งแรง
นายพรพิพัฒน์ ประสิทธิ์ศุภผล รองกรรมการผู้จัดการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาองค์กร บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (PCE) เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมเปิดโรงสกัดน้ำมันปาล์มเฟส 2 มูลค่าลงทุน 180 ล้านบาท ภายในเดือนธันวาคม 2568 นี้ โดยโรงงานใหม่มีกำลังการผลิต 75 ตัน/ชั่วโมง เมื่อรวมกับกำลังการผลิตโรงงานเดิมอยู่ที่ 75 ตัน/ชั่วโมง จะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มเป็น 150 ตัน/ชั่วโมง หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัว ส่งผลให้การบริหารจัดการต้นทุนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น กำไรขั้นต้นมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นในระยะถัดไป ทั้งยังคงรักษาสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง ด้วยโครงสร้างที่เอื้อต่อการเติบโต หนุนรายได้บริษัทฯเติบโต 10-15% ต่อปี
ขณะเดียวกันยังมีแผนขยายเฟส 3 เพิ่มกำลังการผลิตอีก 60 ตัน/ชั่วโมง ซึ่งจะดำเนินการสร้างเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3 ปี 69 และเมื่อครบทั้ง 3 เฟสแล้ว จะสามารถรองรับผลผลิตปาล์มน้ำมันได้สูงถึง 210 ตัน/ชั่วโมง หรือ 5,040 ตัน/วัน โดยจะสามารถดำเนินการพร้อมกันทั้ง 3 เฟส ได้ในปี 2570 ซึ่งตั้งเป้าผลิตให้ได้ปีละ 8-9 แสนตันผลปาล์ม สอดคล้องกับปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันที่มีการเติบโตต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่งผลดีต่อ Economy of Scale หรือการเพิ่มความสามารถในการควบคุมต้นทุนการผลิตน้ำมันปาล์มดิบ
"PCE ยังคงเดินหน้ามองหาโอกาสการเติบโตผ่านการร่วมลงทุนกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มแหล่งรายได้และกระจายความเสี่ยงธุรกิจ สร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดศักยภาพในการแข่งขันกับตลาดโลกในอนาคต พร้อมสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้น" นายพรพิพัฒน์ กล่าว
ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯในงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 มีการเติบโตของยอดขายที่โดดเด่น โดยมีรายได้จากการขายและการให้บริการรวมทั้งสิ้น 23,609.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) มีกำไรสุทธิ 257.9 ล้านบาท แม้จะเผชิญกับภาวะผันผวนของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มทั้งในด้านปริมาณผลผลิต และด้านราคา นอกจากนี้ยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันถั่วเหลืองที่มีแนวโน้มลดต่ำลงในระยะสั้นส่งผลให้ผู้ซื้อหันไปใช้น้ำมันถั่วเหลืองเพิ่มมากขึ้น
ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตของยอดขายมาจากการขยายช่องทางการจำหน่ายของกลุ่มบริษัทฯ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะการรุกตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น กะลาปาล์ม (PKS) ที่มีคุณภาพสูงซึ่งได้รับมาตรฐานระดับนานาชาติ Green Gold Label (GGL) และน้ำมันเมล็ดในปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ (RBDPKO) ซึ่งเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ในไตรมาส 3 ของปี 2567 ซึ่งในปี 2568 นี้จะรับรู้รายได้เต็มปี และสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คาดว่าแนวโน้มรายได้รวมในปีนี้จะแตะที่ระดับ 30,000 ล้านบาท
PCE โชว์รายได้ 9 เดือนแตะ 23,838 ลบ. เติบโต 8.9% ลุยส่งออก-แตกไลน์ผลิตภัณฑ์กะลาปาล์มคุณภาพสูงและน้ำมันเมล็ดในปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ ดันรายได้รวมปีนี้โตเข้าเป้าแตะ 3 หมื่น ลบ.
PCE ตอกย้ำผู้นำตลาด! คว้าออร์เดอร์ยักษ์ ดันยอดขายน้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภคพุ่งเท่าตัว หนุนรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 1,000-2,000 ลบ./ปี
PCE เร่งเครื่องเปิดโรงสกัดเฟส 2 เดือน ก.ย. นี้ กำลังผลิตเพิ่มเท่าตัว - เตรียมเดินหน้าเฟส 3 กลางปีหน้า หนุนรายได้ปี 68 ทะลุ 3 หมื่นลบ.ทำสถิติสูงสุดใหม่
PCE ท็อปฟอร์ม! Q2/68 กำไรสุทธิ 134.3 ลบ. เพิ่มขึ้น 32.9% YoY ส่งออกอินเดีย-จีนคึกคัก! จับตาครึ่งปีหลังทะยานต่อ ปักธงรายได้ปีนี้ทะลุ 3 หมื่นลบ. All Time High ตามนัด
PCE ติดอันดับ Fortune Southeast Asia 500 ปีแรก
กูรูเชียร์ "ซื้อ" PCE เคาะเป้าราคาเหมาะสม 3.10-3.60 บ./หุ้น ประเมินผลงาน Q2/68 โดดเด่นตามฤดูกาล คาดปริมาณส่งออกน้ำมันเมล็ดในปาล์มกึ่งบริสุทธิ์พุ่ง 140%
PCE สุดปลื้ม! ติดทำเนียบ EGS100 ปีแรก ตอกย้ำธุรกิจคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม-สังคม-ธรรมาภิบาล ปักหมุดรายได้ปีนี้แตะ 3 หมื่นลบ. มุ่งสู่การเติบโตยั่งยืน
PCE ลุย! ส่งออกกะลาปาล์มคุณภาพสูง