TIDLOR รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/68 เติบโตคุณภาพทั้งกำไรสุทธิ เบี้ยประกันและพอร์ตสินเชื่อที่ขยายตัวต่อเนื่อง ด้านคุณภาพหนี้คุมอยู่ NPL ต่ำเหลือเพียง 1.66% ขณะที่ฐานเงินทุนแข็งแกร่ง หนุนให้บริษัทในกลุ่มสามารถออกแคมเปญพิเศษลดดอกเบี้ยช่วยลูกค้าบรรเทาภาระหนี้ ในภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน สะท้อนศักยภาพการดำเนินธุรกิจ มุ่งสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้ผู้ถือหุ้น พร้อมเดินเคียงข้างคนไทย
บริษัท ติดล้อ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ Tidlor Holdings ("TIDLOR") ("กลุ่มบริษัท") โดย นางสาวชลธิชา ทองไทย ผู้บริหารระดับสูงฝ่ายบัญชีและการเงิน หรือ CFO เปิดเผย ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 1,415 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.0% (YoY) และ 8.5% (QoQ) ถือเป็นสถิติสูงสุดใหม่ในรอบไตรมาส โดยมีรายได้รวม 5,927.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.7% (YoY) จากการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อรวม และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการจากธุรกิจนายหน้าประกันภัย ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 4,157.1 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 4.9% (YoY) โดยสาเหตุหลักมาจากการปรับลดลงของผลขาดทุนด้านเครดิต
ประกันพุ่ง เติบโตมากกว่าภาพรวมตลาด เบี้ยประกันรับรวมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง:
ด้านการดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันภัยในไตรมาส 3 ปี 2568 มีเบี้ยประกันวินาศภัยรวม 2,607.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.7% (YoY) เติบโตสูงกว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยที่ช่วงเดือน 8 เดือนแรกยังคงติดลบ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยปัจจัยการเติบโตมาจากการมีผลิตภัณฑ์และช่องทางการขายที่ครอบคลุม โดยใช้จุดแข็งด้านเทคโนโลยีนายหน้าประกันภัย (InsurTech Platform) ผ่าน 3 แบรนด์นายหน้าประกันหลักอย่าง ประกันติดโล่, อารีเกเตอร์ และเฮ้กู๊ดดี้ ที่ช่วยขยายฐานลูกค้า ช่วยเติมเต็มช่องว่างทางการตลาดในทุกกลุ่มเป้าหมาย จึงกล่าวได้ว่ารายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยยังคงเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนหลักของกลุ่มบริษัท
สินเชื่อโตต่อเนื่อง คุณภาพหนี้ดี คุม NPL เหลือ 1.66% ต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม:
ด้านธุรกิจสินเชื่อ กลุ่มบริษัท มีพอร์ตสินเชื่อคงค้างรวม 107,324.2 ล้านบาท เติบโต 4.5% (YoY) และ 1.3% (QoQ) จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของพอร์ตสินเชื่อทะเบียนรถ ขณะที่จำนวนลูกค้าสินเชื่อเพิ่มขึ้น 9.6% (YoY) สะท้อนถึงนโยบายการขยายธุรกิจสินเชื่อที่รัดกุมและมีคุณภาพ โดยการเติบโตมาจากทั้งช่องทางสาขามากกว่า 1,800 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ และมาจากการใช้เทคโนโลยีด้านการเงิน อาทิ "บัตรติดล้อ" บัตรกดเงินสดหมุนเวียนที่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถกดเงินสดตามวงเงินสินเชื่อทะเบียนรถของตนเองได้สะดวกผ่านตู้ ATM ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำทั่วประเทศ และบริการ "โอนเงินสินเชื่อเข้าบัญชีผ่านแอปพลิเคชันเงินติดล้อ" ที่ปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านคุณภาพสินทรัพย์ ยังคงอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ดี อัตราสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม (NPL Ratio) ปรับลดลง มาอยู่ที่ 1.66% จากเดิม 1.78% ในช่วงไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการอนุมัติสินเชื่ออย่างรอบคอบ และคุณภาพสินทรัพย์ที่ปล่อยใหม่คงอยู่ในระดับที่ดี รวมถึงการติดตามหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ และโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" ของภาครัฐที่เข้ามาช่วยสนับสนุน ขณะที่อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL Coverage Ratio) ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้ามาอยู่ที่ 283.9% สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนช่วยให้อัตราส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อ (Credit Cost) ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 2.2% จาก 3.9% ในช่วงไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าอีกด้วย
สำหรับงวด 9 เดือน ปี 2568 กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 3,924.5 เพิ่มขึ้น 23.2% (YoY) จากการขยายตัวของรายได้รวม 5.7% (YoY) การบริหารคุณภาพสินเชื่อที่มีประสิทธิภาพ และการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทยังคงมีโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่งและสภาพคล่องที่มั่นคง รองรับการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว พร้อมการกระจายรายได้จากธุรกิจนายหน้าประกันภัย ทั้งนี้ และยังคงมุ่งเน้นขับเคลื่อนองค์กรสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ
สถานะทางการเงินแกร่ง ขับเคลื่อนสร้างการเติบโตให้ธุรกิจพร้อมเคียงข้างคนไทย
นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า ทีมผู้บริหารยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพและต่อเนื่องให้กลุ่ม Tidlor Holdings จากสองเครื่องยนต์หลักคือ "ธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ" และ"ธุรกิจนายหน้าประกัน" โดยใช้จุดแข็งด้านเทคโนโลยีทางการเงิน และแพลตฟอร์มนายหน้าประกัน (InsurTech Platform) เป็นหลักสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตและสร้างรายได้ให้กับกลุ่มบริษัท
ทั้งนี้ ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบันยังมีความไม่แน่นอน ส่งผลถึงรายได้ของประชาชนบางกลุ่มที่อาจจะไม่คงที่ กระทบต่อสภาพคล่องทางการเงิน ขณะที่ภาพรวมสินเชื่อในระบบอยู่ในภาวะตึงตัวอาจทำให้สถาบันการเงินหลายแห่งไม่สามารถปล่อยกู้ได้ตามปกติ แต่ด้วยการมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของกลุ่มบริษัท การมีสภาพคล่อง และมีงบฐานะการเงินที่ดี (Balance Sheet) บมจ. เงินติดล้อ บริษัทในกลุ่ม Tidlor Holdings จึงจัดทำแคมเปญลดดอกเบี้ยจาก 24 เหลือ 19% ต่อปี สำหรับสินเชื่อทะเบียนรถเก๋งและรถกระบะ ในช่วงระหว่างวันที่ 20 ต.ค. 68 - 31 ธ.ค. 68 เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาภาระในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้ประชาชนผู้ใช้สินเชื่อได้ ถือเป็นการสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ "เงินติดล้อ" ในการมุ่งสร้างโอกาสและเป็นที่พึ่งด้านการเงินให้กับประชาชน เพื่อให้ "ชีวิตหมุนต่อได้"
Tidlor Holdings และกลุ่มบริษัท มุ่งสู่การเป็น The Leading Financial Inclusion Service Provider หรือ ผู้นำด้านการสร้างโอกาสและความเท่าเทียมทางการเงิน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้วยความเข้าใจ เป็นธรรม และโปร่งใส เคียงคู่ไปกับการส่งเสริมความรู้ด้านการเงิน เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคม (Social Impact) อย่างยั่งยืน สำหรับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนสามารถเยี่ยมชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.tidlorinvestor.com
มิตรแท้ประกันภัย รับรางวัลจรรยาบรรณดีเด่นหอการค้าไทย ประจำปี 2568 ตอกย้ำองค์กรต้นแบบด้านการดำเนินธุรกิจด้วยหลัก "จริงใจ เปิดเผย"
ทานตะวันอุตสาหกรรม (THIP) คว้าหุ้นยั่งยืนประจำปี 2568 ระดับ "A" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จาก SET
DKSH มอบรางวัล "Sustainability Partner Appreciation Award" ยกย่องพันธมิตรทางธุรกิจ ส่งเสริมความยั่งยืนเนื่องในวันสิ่งแวดล้อมไทย ปี 2568
โรบินสันไลฟ์สไตล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล รุกต่อยอดความสำเร็จของ "Outdoor Zone" เร่งเสริมศักยภาพเศรษฐกิจท้องถิ่น เติบโตร่วมกัน
PROUD คว้า SET ESG Ratings 2568 ระดับ "A" สะท้อนผู้นำอสังหาฯ ระดับลักชัวรี เติบโตยั่งยืนทุกมิติ
WICE จับมือ กทม. เดินหน้าฟื้นฟูระบบนิเวศแม่น้ำเจ้าพระยา
บมจ. เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) เปิดบ้านต้อนรับคณะนักลงทุน รับฟังวิสัยทัศน์และทิศทางการเติบโตในอนาคต