บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนต่างประเทศ จำนวน 1 กองทุน สำหรับผลการดำเนินงานรอบระยะเวลาบัญชี 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2568 คือ กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Dividend Equity (ES-GDIV) ในอัตรา 0.30 บาทต่อหน่วยลงทุน รวมมูลค่าจ่ายปันผลรวม 25,503,365.17 บาท โดยมีกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568
สำหรับกองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Dividend Equity (ES-GDIV) เน้นลงทุนในกองทุน JPMorgan Investment Funds - Global Dividend Fund (กองทุนหลัก) ในหน่วยลงทุนชนิด Class C (acc) USD ซึ่งบริหารจัดการโดย JPMorgan Asset Management (Europe) ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุนหลักมีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัททั่วโลกรวมถึงตลาดเกิดใหม่ที่สามารถสร้างรายได้ในระดับสูง ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 67 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนหลัก โดยมุ่งหวังสร้างโอกาสผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว โดยเป็นกองทุน Global Dividend สไตล์หุ้นผสมผสานที่เน้นลงทุนในหุ้นที่มีอัตราการจ่ายปันผลเติบโตหรือมีความสามารถในการจ่ายปันผล เน้นคัดเลือกหุ้นแบบ Bottom Up ราว 40-90 บริษัท
สำหรับพอร์ตการลงทุนของกองทุนหลักกระจายการลงทุนในหมวดอุตสาหกรรมสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ 1. Media สัดส่วน 12.5% 2.Technology-Semi & Hardware สัดส่วน 12.4% 3. Bank สัดส่วน 11.2% 4. Technology -Software สัดส่วน 8.5% และ5. Pharma/Medtech 8.5% โดยมีสัดส่วนการลงทุนส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกา 61.8% ยุโรปและตะวันออกกลางยกเว้น สหราชอาณาจักร 14.1% ตลาดเกิดใหม่ 8.0% สหราชอาณาจักร 5.4% และ ญี่ปุ่น 5.1% โดยมีการลงทุนหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ อาทิ Microsoft ผู้ผลิตและให้บริการ Software และ Cloud Computing รายใหญ่ของโลก, TSMC บริษัทผู้นำด้านการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของโลกสัญชาติไต้หวัน, Meta Platforms บริษัทเทคยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการด้านโซเชียลมีเดียระดับโลกทั้ง Facebook, Instagram, WhatsApp และบริการด้านอื่น ๆ เช่น Walt Disney กลุ่มธุรกิจสื่อและความบันเทิง และ The Southern Company ผู้ให้บริการด้านสาธารณูปโภคด้านพลังงานของสหรัฐฯ เป็นต้น (ที่มา: JPMorgan Global Dividend Fund factsheet ณ วันที่ 30 กันยายน 2568)
ทั้งนี้กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Dividend Equity (ES-GDIV) จดทะเบียนกองทรัพย์สินเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 โดยมีการจ่ายเงินปันผลต่อหน่วยลงทุนครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย ปี 2567 อยู่ที่ 0.60 บาทต่อหน่วย และปี 2568 มีการจ่ายเงินปันผลไปแล้ว 0.40 บาทต่อหน่วย โดยรวมกับการจ่ายปันผลงวดนี้อีก 0.30 บาทต่อหน่วย รวมเป็นยอดจ่ายเงินปันผลทั้งสิ้น 1.50 บาทต่อหน่วย (ที่มา: บลจ.อีสท์สปริง ณ วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568)
ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.eastspring.co.th หรือโทร 1725 ในวันและเวลาทำการ หรือผ่านช่องทางการขายของบลจ.อีสท์สปริง หรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับการแต่งตั้ง และผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน และผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต การลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน กองทุนนี้ไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
กรุงไทยจัดแคมเปญ "Krungthai Tax Festival 2025" วางแผนลดหย่อนภาษีปลายปี ด้วยผลิตภัณฑ์การลงทุนครบวงจร
SUPEREIF จ่ายเงินลดทุนครั้งที่ 6 ในอัตรา 0.155 บาทต่อหน่วย วันที่ 11 ธันวาคม 2568 นี้
บลจ.อีสท์สปริง แนะ 3 กลยุทธ์ลงทุน เพิ่มน้ำหนักเอเชีย-สหรัฐฯ - ธีม IT และสินทรัพย์รายได้มั่นคง
บลจ. ทิสโก้เปิด " TWORLD " เน้นลงทุนหุ้นทั่วโลก เหมาะใช้เป็นกองทุนหลักของพอร์ต
BBLAM เสนอขาย IPO 'BP21/25(AI)' วันที่ 6-10 พ.ย. 2568
3BBIF เตรียมจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 36 ในอัตรา 0.137224 บาทต่อหน่วย วันที่ 22 ธ.ค. นี้
บลจ.อีสท์สปริง มองโอกาสลงทุนหุ้นอินเดียระยะยาว เปิดตัวกองทุน RMF น้องใหม่ "ES-INDAERMF" เสนอขาย 4-10 พ.ย. 68 นี้
บลจ.ทิสโก้เปิด "ทริกเกอร์ทองคำ" คาดราคาทองโลกขึ้นจาก 4 ปัจจัยหนุน