แลนด์มาร์กใหญ่ที่สุดครั้งแรก ของโลกที่เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น สนับสนุนการท่องเที่ยวยั่งยืนของประเทศไทย
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 เติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง จากพอร์ตอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูงที่มีความสมดุล โดยมีรายได้รวม 5,193 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2% (YoY) มีกำไรจากการดำเนินงาน (อิบิทดา) 2,509 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.5% (YoY) และกำไรสุทธิ 1,148 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.8% (YoY) สะท้อนศักยภาพการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ที่ประสิทธิภาพ ภายใต้โครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง และพอร์ตโฟลิโอที่สมดุลระหว่างกลุ่มธุรกิจหลัก พร้อมขยายพอร์ตอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูง รวมมูลค่าทรัพย์สินถาวร 215,550 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.4% (YoY)
ด้วยความสำเร็จจากการสร้างประสบการณ์ความสุขในรูปแบบพิเศษครั้งแรกของโลก "Jurassic World:
The Experience" ที่โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น แลนด์มาร์กใหม่ระดับโลกที่สร้างประสบการณ์เสมือนจริงแบบอิมเมอร์ซีฟ พร้อม Hatch Dome โลกแห่งการเรียนรู้ยุคใหม่ด้านความยั่งยืนให้แก่เยาวชน โดยมียอดจำหน่ายบัตรเข้าชมมากกว่า 200,000 ใบ ในช่วง 3 เดือนแรกหลังเปิดให้บริการ หนุนรายได้ของกลุ่มคอมเมอร์เชียลเติบโตโดดเด่น ขณะที่กลุ่มโรงแรมและการบริการ ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตของโรงแรมในกลุ่มรีสอร์ท ระดับลักชัวรี ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกในการดึงดูดฐานลูกค้าคุณภาพกว่า 710 ล้านคนจากทั่วโลก ด้านกลุ่มอาคารสำนักงานเติบโตจากกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกด้วยแนวคิด AWC's Lifestyle Destination ที่สร้างมูลค่าเพิ่มและขยายฐานผู้เช่าอย่างต่อเนื่อง
พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์ Sustainable Growth-Led Strategy เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ผ่านการเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินคุณภาพทั้งจาก Organic Growth และ Inorganic Growth โดยการเปิดโครงการใหม่และแปลงทรัพย์สินที่อยู่ระหว่างการพัฒนา (Developing) เป็นทรัพย์สินดำเนินงาน (Operating) โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมีทรัพย์สินดำเนินงานเพิ่มเข้าสู่พอร์ตโฟลิโอคุณภาพ ได้แก่ โรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล ประเทศไทย โรงแรม จุบีลี เพรสทีจน์ รัชดาภิเษก โรงแรม พัทยา แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา และ Jurassic World: The Experience คิดเป็นทรัพย์สินดำเนินงานเพิ่มขึ้นกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท ช่วยสร้างกระแสเงินสดเพิ่มเติมให้แก่บริษัท ภายใต้โครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 0.91 เท่า ดีกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม สะท้อนความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนและการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งมั่นเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนตามพันธกิจ "Building Better Future for All" เพื่อร่วมสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้ทุกคน พร้อมสนับสนุนบทบาทของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก
กลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียลเติบโตโดดเด่นจากโครงการระดับโลก "Jurassic World: The Experience" และการปรับโฉม อาคาร "เอ็มไพร์" สู่ Lifestyle Destination เสริมศักยภาพพอร์ตอสังหาริมทรัพย์คุณภาพ
กลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียลมีการเติบโตอย่างโดดเด่น โดยมีรายได้ 2,260 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.6% (YoY) และกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (อิบิทดา) อยู่ที่ 1,864 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.1% (YoY) หากไม่รวมกำไรจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน รายได้ของกลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียลเพิ่มขึ้น 24.1% (YoY) และกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (อิบิทดา) เพิ่มขึ้น 24.8% (YoY) เป็นผลมาจากรายได้ของกลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าที่เติบโตก้าวกระโดด 44.0% (YoY) แรงหนุนสำคัญมาจากความสำเร็จของการเปิด "Jurassic World: The Experience" ผ่านความร่วมมือกับทั้งพันธมิตรระดับโลกและพันธมิตรหน่วยงานของรัฐบาลสร้างปรากฏการณ์ความสนุกตื่นเต้นระดับโลกผ่านประสบการณ์อิมเมอร์ซีฟ ควบคู่กับการสร้างแหล่งการเรียนรู้ด้านความยั่งยืนผ่านมรดกทางธรณีวิทยาของประเทศไทย นำเสนอไดโนเสาร์สายพันธุ์บินได้พันธุ์ใหม่ของโลก "การูแดปเทอรัส" ที่ค้นพบในประเทศไทยเป็นครั้งแรกของโลก รวมถึงสายพันธุ์อื่นๆ ที่พบได้เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ที่โครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น ซึ่งสามารถจำหน่ายบัตรเข้าชมได้มากกว่า 200,000 ใบภายใน 3 เดือนแรก ส่งผลให้โครงการเอเชียทีคมีรายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้น 26.3% (YoY) และอัตราการเช่าพื้นที่แตะ 85% เพิ่มขึ้น 15% (YoY) รวมทั้งความสำเร็จของแนวคิด AWC's Lifestyle Destination ที่มุ่งพัฒนาศูนย์การค้าให้เป็นจุดหมายปลายทางแห่งไลฟ์สไตล์ที่ร่วมยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า ทำให้กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้ามีอัตราการเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้น 9.5% (YoY) สอดคล้องกับรายได้ค่าเช่าของศูนย์การค้าที่เพิ่มขึ้น 15.3% (YoY)
ความสำเร็จของโครงการนี้สนับสนุน เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น สู่แลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเทพฯ ที่สามารถดึงดูดผู้เข้าชมได้ตลอดทั้งวัน และได้รับรางวัล "Mall of the Year - Thailand" จากเวที Retail Asia Awards 2025 สะท้อนศักยภาพของเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น ในการเป็นจุดหมายปลายทางแห่งไลฟ์สไตล์ระดับโลก สะท้อนวิสัยทัศน์ของ AWC ในการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนผ่านการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก
ในขณะที่ กลุ่มธุรกิจอาคารสำนักงาน เปิดประสบการณ์ใหม่ที่รวมไลฟ์สไตล์ตอบโจทย์บริษัท ผู้บริหารและพนักงานขององค์กรชั้นนำ สร้างรายได้โตโดดเด่น 14.8% (YoY) และรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น 7.9% (YoY) จาก
กลยุทธ์การปรับโฉมและพัฒนาอาคารคุณภาพ โดยเฉพาะอาคาร "เอ็มไพร์" ด้วยกลยุทธ์ "The Empire Reimagined" ผสานการทำงาน สุขภาพ อาหาร ศิลปะ และบริการต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน โดยเฉพาะความพิเศษ
ที่ "The Empire Residence" ด้วยพื้นที่ Co-Living มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอันทันสมัย ไม่เหมือนที่ไหนในอุตสาหกรรมอาคารสำนักงาน รวมถึงจุดหมายปลายทางด้านอาหารระดับโลกที่ เอ-ญ่า รูฟทอป แอท ดิ เอ็มไพร์ ควบคู่กับการรับรู้ผลการดำเนินงานของอาคารสำนักงานใหม่ "จูบิลี่ เพรสทีจ ทาวน์เวอร์" ใจกลางรัชดา ทำเลศักยภาพที่กำลังเติบโตอย่างมีคุณภาพ
กลุ่มธุรกิจโรงแรมเติบโตแข็งแกร่ง รับแรงหนุนจากกลุ่มรีสอร์ทลักชัวรีและพอร์ตโรงแรมคุณภาพ พร้อมรับช่วงไฮซีซั่นในไตรมาส 4
ในไตรมาส 3 ปี 2568 กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ สร้างรายได้จากทรัพย์สินที่เปิดดำเนินงานปกติ 2,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า จากการรับรู้รายได้ของทรัพย์สินใหม่ เช่น โรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล ประเทศไทย โรงแรม จุบีลี เพรสทีจน์ รัชดาภิเษก และการรับรู้รายได้เต็มไตรมาสของโรงแรม พัทยา แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา และรายได้ของโรงแรมในกลุ่มรีสอร์ทระดับลักชัวรี และโรงแรมอื่นๆ นอกกรุงเทพฯ ที่มีการเติบโต 1.7% (YoY) และ 3.9% (YoY) ตามลำดับ โดยเฉพาะในจุดหมายปลายทางยอดนิยมอย่างเกาะสมุย ที่มีการเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) เติบโตถึง 7.1% (YoY) จากรายได้เฉลี่ยต่อวัน (ADR) ที่เพิ่มขึ้น ด้วยความร่วมมือผ่านเครือข่ายพันธมิตรระดับโลก พร้อมทั้งการมีทรัพย์สินคุณภาพสูง ทำให้สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าคุณภาพสูง (เช่น ยุโรป สหรัฐอเมริกา ตะวันออกกลาง และโอเชียเนีย) ได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในช่วง 9 เดือนแรกปี 2568 บริษัทมีการเติบโตของรายได้ค่าห้องพักจากกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพกลุ่มนี้ 14% (YoY) สูงกว่าการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มนี้ที่เดินทางเข้าประเทศไทยที่ 11% (YoY) นอกจากนี้ ด้วยการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพควบคู่กับการบริหารต้นทุน ทำให้โรงแรมของบริษัทสามารถสร้างอัตรากำไรขั้นต้นในระดับที่สูง อาทิ โรงแรม มีเลีย เกาะสมุย, ไทยแลนด์ มีอัตราส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 57% บันยันทรี สมุย มีอัตราส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 50% และวนาเบลล์ เอ ลักซ์ชูรี คอลเลคชั่น รีสอร์ท เกาะสมุย มีอัตราส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 48%
พอร์ตโรงแรมของ AWC ยังคงแข็งแกร่งกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม สะท้อนผ่านดัชนีการสร้างรายได้ (Revenue Generation Index: RGI) โดยเฉพาะโรงแรมในจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวหลักของประเทศไทย โดยโรงแรม
ในหัวหิน มีค่า RGI อยู่ที่ 143 โรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ มีค่า RGI อยู่ที่ 121 และโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต มีค่า RGI ที่ 118 นอกจากนี้ ด้วยความสำเร็จจากการเสริมโมเดลกลุ่มไลฟ์สไตล์สำหรับกลุ่มธุรกิจในเครือ อาทิ "เอ-ญ่า รูฟท็อป แอท ดิ เอ็มไพร์" ที่อาคาร "เอ็มไพร์" และการเปิดร้านอาหาร Fossil and Flame ณ เอเชียทีค เดอะ
ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น ในไตรมาสนี้ ส่งผลให้รายได้ของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในช่วง 9 เดือนแรกปี 2568 เติบโตต่อเนื่อง 10.9% (YoY)
สำหรับโรงแรมที่เปิดดำเนินงานใหม่ในปีนี้ มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยโรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล ประเทศไทย สามารถเร่งสร้างกำไรจากการดำเนินงานเป็นบวกได้อย่างรวดเร็วภายใน 2 ไตรมาส นับจากเปิดดำเนินงาน ในขณะที่โรงแรม พัทยา แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา สามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าคุณภาพได้ต่อเนื่อง โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อวัน (Average Daily Rate : ADR) ในไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ 5,100 บาทต่อคืน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของ
คู่แข่งขันในตลาด (Compset) พัทยาที่ 3,300 บาทต่อคืน
การเติบโตของกลุ่มธุรกิจโรงแรมในไตรมาสนี้ สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของพอร์ตที่สมดุล ครอบคลุมทั้งโรงแรม
ในเมืองและจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวระดับโลก โดยเฉพาะโรงแรมในกลุ่มรีสอร์ทระดับลักชัวรี ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงอย่างต่อเนื่อง พร้อมรับแรงหนุนจากฤดูกาลท่องเที่ยวในช่วงปลายปี ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตในไตรมาส 4
ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ สร้างจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก
บริษัทยังคงมุ่งเดินหน้าสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการสนับสนุนประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก ผ่านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และชุมชนเข้าด้วยกัน ภายใต้แนวทาง Sustainable Growth-Led Strategy ที่เน้นการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในทุกมิติ
ภายใต้พันธกิจ "Building Better Future for All" AWC ขับเคลื่อนองค์กรด้วยกรอบแนวคิด 3BETTERs - Better Planet, Better People, Better Prosperity เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งสิ่งแวดล้อม
สังคม และเศรษฐกิจ โดยในปีนี้ บริษัทได้ดำเนินการพัฒนาโครงการในปัจจุบันให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน โดยในกลุ่มอาคารสำนักงาน มีการพัฒนาระบบต่างๆ อาทิเช่น อุปกรณ์ดูแลคุณภาพอากาศภายในอาคาร รวมทั้งปรับปรุงดูแลสุขภาวะผู้ใช้อาคาร ทำให้อาคารสำนักงานของบริษัทได้รับรองมาตรฐานระดับสากล โดยอาคาร 'เอ็มไพร์' อินเตอร์ลิ้งค์ ทาวเวอร์ บางนา และอาคาร 208 แบงค๊อก ได้รับการรับรองมาตรฐาน WELL Core Platinum ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในประเทศถึง 3 โครงการ สะท้อนความมุ่งมั่นในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บนแนวทางด้านความยั่งยืน เพื่อยกระดับสุขภาวะให้แก่ผู้ใช้อาคาร สำนักงานใจกลาง CBD ของกรุงเทพฯ สู่มาตรฐานความยั่งยืนระดับโลก
บริษัทยังเดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจโรงแรมและการบริการของ AWC ได้รับแรงหนุนจากช่วงไฮซีซั่นที่กำลังมาถึง โดยยอดจองห้องพักล่วงหน้าของพอร์ตโฟลิโอโรงแรมเพิ่มขึ้น 13% (YoY) โดยเฉพาะในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง เช่น จังหวัดเชียงใหม่เพิ่มขึ้น 17% (YoY) จังหวัดกระบี่เพิ่มขึ้น 11% (YoY) หัวหินและเกาะสมุย 8% (YoY) สะท้อนถึงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก พร้อมกันนี้ AWC ยังร่วมสนับสนุนมาตรการภาครัฐ "เที่ยวดีมีคืน 2568" เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ควบคู่กับการสร้างประสบการณ์น่าตื่นเต้นใหม่อย่างต่อเนื่องที่เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น ด้วยการเตรียมเปิดเครื่องเล่น SkyFlyers ที่มีความสูงเทียบเท่าตึก 30 ชั้นหรือประมาณ 140 เมตร มอบประสบการณ์เสมือนไดโนเสาร์สายพันธุ์บินได้พันธุ์ใหม่ของโลก "การูแดปเทอรัส"ที่ค้นพบในประเทศไทยและเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะพาผู้เล่นสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ในโครงการเอเชียทีค ได้เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ และเดินหน้าสร้างการเติบโต ต่อเนื่องด้วยการเตรียมเปิดโรงแรมแฟร์มอนท์ แบงคอก สุขุมวิท และโครงการลานนาทีค กาแล เฟส 1 ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตอสังหาริมทรัพย์คุณภาพของ AWC และสร้างคุณค่าองค์รวมที่ยั่งยืนบนหลักธรรมาภิบาลที่แข็งแกร่ง เพื่อสร้าง "อนาคตที่ดีกว่าสำหรับทุกคน"
เตรียมจัดใหญ่อีกครั้ง "ROYAL JAZZ FOR CHAIPATTANA FOUNDATION VOLUME 2" รายได้เพื่อมูลนิธิชัยพัฒนา โดยไม่หักค่าใช้จ่าย
เคทีซี - AWC พาครอบครัวไทยผจญภัยจูราสสิค เวิลด์ ดันท่องเที่ยว-การเรียนรู้นอกห้องเรียน
AWC ร่วมฉลอง Pride Month ในธีม "Freedom to Love" ด้วยขบวนพาเหรด "Pride On The Runway" สุดอลังการ และ "Pride Music" ร่วมขับเคลื่อนประเทศไทย สู่จุดหมายปลายทางแห่งการเฉลิมฉลอง และการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก
ROYAL JAZZ FOR THE CHAIPATTANA FOUNDATION
AWC กับ ททท. ร่วมฉลองเดือนแห่งความหลากหลายกับกิจกรรม "AWC Let's Pride" ในธีม "Freedom to Love"
เอเชียทีค สร้างประสบการณ์สุดตระการตา สนุกกับงาน 'ASIATIQUE THE FESTIVE VILLAGE'
ฉลองการเปิด "Food Lounge" ศูนย์อาหารสุดทันสมัย ภายใต้คอนเซ็ปต์ "The Flavor Quest"
เกทเวย์ แอท บางซื่อ ร่วมกับ สำนักงานเขตบางซื่อ และกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว จัดงาน 'Memory of Love @Bangsue'