Inti Labs จับมือ BCC Group เดินหน้าขยายการให้บริการ ora(R) ทั่วประเทศ เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยเข้าถึงการทำ IVF ที่แม่นยำได้มากยิ่งขึ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

อินทิ แล็บส์ (Inti Labs) บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพด้านสุขภาพการเจริญพันธุ์ และ บริษัท บางกอก ไซโตเจเนติกซ์ เซ็นเตอร์ จำกัด (Bangkok Cytogenetics Center Company Limited หรือ BCC Group) ศูนย์การตรวจคัดกรอง และวินิจฉัยโรคทางพันธุกรรมชั้นนำของประเทศไทย ประกาศขยายการให้บริการ ora(R) เทคโนโลยีตรวจความพร้อมของเยื่อบุโพรงมดลูกแบบไม่รุกล้ำ ครอบคลุมคลินิกผู้มีบุตรยากกว่า 10 แห่งทั่วประเทศ

Inti Labs จับมือ BCC Group เดินหน้าขยายการให้บริการ ora(R) ทั่วประเทศ เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยเข้าถึงการทำ IVF ที่แม่นยำได้มากยิ่งขึ้น

"การขยายโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าถึงโซลูชันด้านการเจริญพันธุ์ที่ได้รับการรับรองทางวิทยาศาสตร์อย่าง ora(R) นั้นถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะในปัจจุบัน ที่ประเทศไทยกำลังต้องเผชิญกับอัตราการเกิดที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ผนวกกับปัญหาภาวะมีบุตรยากในคู่สมรสชาวไทยจำนวนมาก การร่วมมือกับ BCC Group ในครั้งนี้ จึงไม่ได้เป็นเพียงการขยายการเข้าถึงการให้บริการเท่านั้น แต่ยังเป็นการนำเสนอโซลูชันที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) และเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ให้กับผู้ที่มีบุตรยากได้อย่างแท้จริง" ดร. เอริค ปก หยาง ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารของ Inti Labs กล่าว Inti Labs จับมือ BCC Group เดินหน้าขยายการให้บริการ ora(R) ทั่วประเทศ เพื่อเปิดโอกาสให้คนไทยเข้าถึงการทำ IVF ที่แม่นยำได้มากยิ่งขึ้น

ความร่วมมือระหว่าง Inti Labs และ BCC Group ที่ดำเนินมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2567 มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการเข้าถึงเทคโนโลยีด้านการเจริญพันธุ์ที่ล้ำสมัยในประเทศไทย โดยในปัจจุบัน ความร่วมมือดังดล่าวได้ขยายออกสู่เครือข่ายคลินิกพันธมิตรทั่วประเทศ พร้อมทั้งส่งเสริมความเข้าใจของบุคลากรทางการแพทย์เกี่ยวกับหลักการและการประยุกต์ใช้ ora(R) ในการรักษาจริง โดยมี BCC Group ทำหน้าที่เป็นผู้จัดจำหน่าย ora(R) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

ora(R) เป็นนวัตกรรมการตรวจเลือดแบบไม่รุกล้ำที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อระบุช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการฝังตัวของตัวอ่อน หรือ Window of Implantation (WOI) ของผู้หญิงแต่ละราย กระบวนการตรวจวิเคราะห์ของ ora(R) อาศัยข้อมูลจากไมโครอาร์เอ็นเอ (microRNA) มากกว่า 100 ชนิด ร่วมกับปัจจัยทางสรีรวิทยาอื่น ๆ ช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการย้ายตัวอ่อนได้อย่างแม่นยำมากขึ้นในแต่ละบุคคล โดยเฉพาะในผู้ที่เคยประสบความล้มเหลวในการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) มาก่อน การตรวจโดยใช้นวัตกรรม ora(R) ไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด ไม่ต้องผ่าตัด และช่วยลดความไม่แน่นอนในกระบวนการทำเด็กหลอดแก้วได้อย่างเป็นรูปธรรม

นับตั้งแต่เริ่มมีการให้บริการในประเทศไทย ora(R) ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่น่าพึงพอใจในการเพิ่มความแม่นยำของการทำ IVF ผ่านผลลัพธ์ต่าง ๆ จากคลินิกทั่วประเทศ

กรณีตัวอย่างที่น่าสนใจเกิดขึ้นที่คลินิกสุขภาพสตรีกาฬสินธุ์ ที่มี นพ.ธีรวุฒิ เป็นผู้ดำเนินการการย้ายตัวอ่อนให้กับผู้ป่วยรายหนึ่งในวันที่ 5 ของการรักษา ซึ่งเป็นกระบวนการตามมาตรฐาน การใช้เทคโนโลยีเด็กหลอดแก้ว (IVF) อย่างไรก็ตาม การดำเนินการในครั้งแรกนี้ไม่ประสบผลสำเร็จ

ต่อมา เมื่อมีการใช้เทคโนโลยี ora(R) ในการตรวจ ได้พบว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการฝังตัวของตัวอ่อน (Window of Implantation: WOI) ของผู้ป่วยอยู่ในวันที่ 7 ซึ่งช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ถึงสองวัน หลังจากปรับเวลาการย้ายตัวอ่อนให้สอดคล้องกับผลการตรวจ การดำเนินการย้ายตัวอ่อนในครั้งที่สองประสบความสำเร็จ จนนำไปสู่การตั้งครรภ์ได้ในที่สุดผู้ป่วยรายดังกล่าวมีประวัติการตั้งครรภ์ที่ไม่สำเร็จมาก่อน ทั้งจากการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ การฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI) รวมไปถึงการทำ IVF กรณีศึกษานี้สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของนวัตกรรม ora(R) ในการช่วยปรับแผนการรักษาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย ลดความไม่แน่นอน และเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการฝังตัวอ่อน

"เราเข้าใจดีกว่าช่วงเวลาของการทำ IVF นั้นเต็มไปด้วยความคาดหวัง และการตัดสินใจที่ยากลำบากสำหรับครอบครัวชาวไทย เราจึงเดินหน้าจับมือกับ Inti Labs เพื่อขยายการให้บริการ ora(R) ไปยังคลินิกทั่วประเทศ ช่วยให้ผู้ป่วยและแพทย์มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องและแม่นยำยิ่งขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของการทำ IVF เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้นวัตกรรมการเจริญพันธุ์เข้าถึงได้ง่ายและใช้งานได้จริง เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับคนไทยในการวางแผนชีวิตและสร้างอนาคตร่วมกันในฐานะครอบครัว" นายอานนท์ เลิศไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BCC Group กล่าว

รายชื่อคลินิกพันธมิตรของ BCC Group ที่ให้บริการ ora(R)

กรุงเทพมหานคร

  • Born IVF Clinic (จตุจักร)
  • Life by Dr. Pat Clinic (ปทุมวัน)
  • Premier Fertility Center (ดุสิต)
  • โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท (วัฒนา)
  • Smile IVF Clinic (พญาไท)
  • โรงพยาบาลเวชธานี (บางกะปิ)
  • VFC Center (บางกะปิ)
  • Superior A.R.T (ราชเทวี)

จังหวัดอื่น ๆ

  • หมอก้อง สูตินรีเวชคลินิก (อุดรธานี)
  • คลินิกแพทย์หญิงราตรี (นครราชสีมา)
  • GFC Clinic (อุบลราชธานี)
  • คลินิกสุขภาพสตรีกาฬสินธุ์ (กาฬสินธุ์)
  • PWS Clinic (สุพรรณบุรี)
  • SAFE Fertility Group (ภูเก็ต)
  • WHC Clinic (ขอนแก่น)

ในอนาคตอันใกล้ Inti Labs และ BCC Group มีแผนขยายการให้บริการ ora(R) อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าขยายการให้บริการให้ครอบคลุมคลินิกกว่า 30 แห่งทั่วประเทศภายในปี พ.ศ. 2569

ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อเข้ารับการตรวจ ora(R) โดยนัดหมายได้ผ่านช่องทางการติดต่อของคลินิกพันธมิตรของ BCC Group หรือผ่าน เว็บไซต์ของ BCC Group


ข่าวเทคโนโลยีชีวภาพ+วิทยาศาสตร์วันนี้

VacPertagen วัคซีนไอกรนชนิดวัคซีนเดี่ยวจากไบโอเนท ได้รับความเห็นเชิงบวกจากคณะกรรมการผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์สำหรับมนุษย์ (CHMP) ขององค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) เพื่ออนุมัติใช้ในสหภาพยุโรป

ไบโอเนท บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพชั้นนำด้านการพัฒนาและผลิตวัคซีนนวัตกรรม เปิดเผยว่า คณะกรรมการผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์สำหรับมนุษย์ (CHMP) ขององค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ให้ความเห็นเชิงบวกผ่านกระบวนการแบบรวมศูนย์ (centralised procedure) เพื่อแนะนำให้อนุมัติ VacPertagen ที่ใช้สำหรับฉีดกระตุ้นในผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป และในหญิงตั้งครรภ์ ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์ ดร. สแตนลีย์ พลอตคิน ประธานคณะที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของไบโอเนทและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนระดับโลก กล่าวถึงความสำเร็จครั้งนี้ว่า "ความ

กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ สภาอุตสาหก... ส.อ.ท. ผนึกภาครัฐ-เอกชน-นักวิจัย จัด BIOTEC FTI Forum ดันเทคโนโลยีชีวภาพสร้างอนาคตเศรษฐกิจไทย — กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ...

Betagro Ventures ตอกย้ำผู้นำขับเคลื่อนนวัตกรรม เข้าลงทุนร่วมกับพันธมิตร หนุน BiomEdit รอบ Series B พัฒนาโซลูชันลดการสูญเสียในอุตสาหกรรมไก่เป็นครั้งแรก

Betagro Ventures บริษัทที่มุ่งเน้นการลงทุนและพัฒนานวัตกรรม ภายใต้บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ "BTG" บริษัทอาหารครบวงจรชั้นนำของไทย...