IUI กับ IVF แตกต่างกันอย่างไร และเหมาะกับใครมากที่สุด

บทความ »

ถ้าพูดถึงการรักษาภาวะมีบุตรยาก ตัวเลือกที่หลายคนมักได้ยินบ่อย ๆ ก็คือ IUI (Intrauterine Insemination) กับ IVF (In Vitro Fertilization) ทั้งสองเป็นเทคโนโลยีช่วยสืบพันธุ์ (ART) ที่ช่วยให้คุณตั้งครรภ์ได้ แต่ความจริงแล้ววิธีการ ขั้นตอน ค่าใช้จ่าย และอัตราความสำเร็จของทั้งสองแตกต่างกันมาก

ดังนั้นถ้าคุณกำลังคิดจะเริ่มต้นเพื่อเข้ารับการรักษา การเข้าใจความต่างระหว่าง👉 IUI กับ IVF: ควรเริ่มด้วยวิธีไหนดี? จะช่วยให้ตัดสินใจได้ตรงกับร่างกาย เวลา และเป้าหมายครอบครัวของคุณค่ะ

IUI คืออะไร?

IUI คือวิธีช่วยสืบพันธุ์แบบเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน และไม่รุกรานมาก หลัก ๆ ก็คือนำอสุจิที่เตรียมมาอย่างดีใส่ตรงเข้าไปในมดลูกช่วงที่ผู้หญิงตกไข่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์

ขั้นตอนการทำ IUI

  1. ติดตามการตกไข่ – อาจเป็นธรรมชาติ หรือใช้ยากระตุ้น
  2. เก็บและเตรียมอสุจิ – อาจมาจากคู่หรือผู้บริจาค ทำให้ได้อสุจิที่สมบูรณ์และแข็งแรงที่สุด
  3. ใส่อสุจิเข้าไปในมดลูก – ใช้สายสวนบาง ๆ ทำไม่นาน ไม่ต้องผ่าตัด หรือยาชา

โดยรวมแล้ว IUI ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที เป็นวิธีที่เรียบง่ายและต้นทุนต่ำกว่า

IVF คืออะไร?

IVF จะซับซ้อนกว่าเพราะการปฏิสนธิเกิด ภายนอกร่างกายในห้องแล็บ มีหลายขั้นตอน และใช้เวลาเยอะกว่ามาก

ขั้นตอนการทำ IVF

  1. กระตุ้นรังไข่ – ฉีดฮอร์โมนเพื่อให้รังไข่ผลิตไข่หลายใบ
  2. เก็บไข่ – ผ่านขั้นตอนผ่าตัดเล็ก ๆ ภายใต้ยาระงับความรู้สึก
  3. ปฏิสนธิไข่กับอสุจิในห้องแล็บ – สร้างตัวอ่อน
  4. เพาะตัวอ่อน – เฝ้าดูการพัฒนาเป็นเวลาหลายวัน
  5. ใส่ตัวอ่อนกลับเข้าไปในมดลูก – อาจใส่ตัวอ่อนหนึ่งหรือหลายตัว
  6. บางครั้งตัวอ่อนจะถูก แช่แข็ง เพื่อนำไปใช้ในรอบถัดไป

แม้ขั้นตอนจะซับซ้อนกว่า แต่โอกาสสำเร็จสูงกว่า โดยเฉพาะคู่ที่มีปัญหาซับซ้อน

ความแตกต่างหลัก ๆ ระหว่าง IUI กับ IVF

ด้านIUIIVF
ความซับซ้อนขั้นตอนไม่ซับซ้อน ไม่ต้องผ่าตัดเก็บไข่ ปฏิสนธิในห้องแล็บ ใส่ตัวอ่อน
ค่าใช้จ่ายถูกกว่า ต่อรอบแพงกว่า เพราะต้องใช้ยาและแล็บ
อัตราความสำเร็จต่ำกว่า ต่อรอบ 10–20%สูงกว่า ต่อรอบ 40–60% (ขึ้นกับอายุและคลินิก)
เวลาสั้นกว่าใช้เวลานาน หลายขั้นตอน
ยาฮอร์โมนใช้บ้างบางกรณีใช้เกือบตลอดเวลา
เหมาะกับปัญหาภาวะมีบุตรไม่รุนแรง หรือไม่ทราบสาเหตุปัญหาภาวะมีบุตรซับซ้อน

ใครเหมาะกับ IUI?

IUI มักเป็น ก้าวแรก ของการรักษาภาวะมีบุตร เหมาะกับคู่รักหรือคนที่มีปัญหาเล็กน้อย หรือไม่ทราบสาเหตุ ข้อดีคือ ไม่รุกรานและต้นทุนต่ำ

แนะนำสำหรับ:

  • ปัญหาภาวะมีบุตรฝ่ายชายไม่มาก เช่น อสุจิไม่สมบูรณ์เล็กน้อย
  • ผู้หญิงที่ตกไข่ปกติ
  • ผู้หญิงโสดหรือคู่รักเพศเดียวกันที่ใช้สเปิร์มผู้บริจาค
  • ภาวะมีบุตรที่ไม่ทราบสาเหตุ
  • คนที่อยากลองวิธีไม่รุกรานก่อน

ข้อควรระวัง: IUI จะได้ผลน้อยลงถ้ามีปัญหารุนแรง เช่น ท่อนำไข่อุดตัน หรืออสุจิผิดปกติรุนแรง

ใครเหมาะกับ IVF?

IVF เป็นตัวเลือกที่ ก้าวหน้ากว่า และมักแนะนำเมื่อวิธีอื่นไม่สำเร็จ หรือเมื่อโอกาสสำเร็จสูงกว่า

แนะนำสำหรับ:

  • ผู้หญิงท่อนำไข่เสียหายหรืออุดตัน
  • ปัญหาภาวะมีบุตรฝ่ายชายรุนแรง
  • ผู้หญิงอายุมาก (เกิน 35 ปี) ไข่สำรองลดลง
  • เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (endometriosis) หรือ PCOS ที่ไม่ตอบสนองวิธีอื่น
  • ต้องการตรวจตัวอ่อนทางพันธุกรรม (PGT)
  • ใช้ไข่บริจาค ตัวอ่อนบริจาค หรือผู้รับอุ้มบุญ
  • คนที่เคยทำ IUI ล้มเหลวมาหลายครั้ง

แม้จะ แพงกว่าและใช้แรงกาย-ใจมากกว่า แต่โอกาสสำเร็จสูงกว่า โดยเฉพาะกับปัญหาซับซ้อน

วิธีเลือกระหว่าง IUI กับ IVF

ไม่ง่ายนะคะ ต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ลองพิจารณา:

  • สาเหตุทางการแพทย์ – สำคัญที่สุด
  • อายุ – หลัง 35 IVF อาจจะเหมาะสมกว่า ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์
  • เวลาและงบประมาณ – IUI ถูกกว่าแต่หลายรอบ, IVF แพงกว่าแต่ผลดีกว่าในแต่ละรอบ
  • ความพร้อมทางอารมณ์ – IVF เข้มข้นทั้งร่างกายและจิตใจ
  • อัตราความสำเร็จ – ขึ้นกับโปรไฟล์ทางการแพทย์

สรุป

ทั้ง IUI และ IVF เป็นเทคโนโลยีที่มีความแตกต่างกัน

  • IUI – ต้นทุนต่ำ ไม่รุกรานร่างกาย เหมาะกับปัญหาเล็กน้อย
  • IVF – ควบคุมได้มากกว่า อัตราสำเร็จสูง เหมาะกับปัญหาซับซ้อน

ไม่ว่าคุณจะเลือกเส้นทางไหน การมี คำปรึกษา การสนับสนุน และความเข้าใจชัดเจน จะช่วยให้การรักษาของคุณราบรื่นและมั่นใจมากยิ่งขึ้น