เจาะลึกการเติมไขมัน หัตถการปรับรูปหน้า เติมเต็มผิวสวยอย่างดูเป็นธรรมชาติ

บทความ »

ในยุคที่ความงามและความมั่นใจในตัวเองกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญ การปรับปรุงรูปหน้าเพื่อให้ดูเติมเต็มและมีมิติมากขึ้นจึงเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย หนึ่งในวิธีการที่ได้รับความสนใจสูงและให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด คือ การเติมไขมัน หรือ Fat Grafting ซึ่งเป็นหัตถการที่ใช้ไขมันจากตัวเราเองมาปรับโครงหน้าให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาใบหน้าบุ๋มตอบ เติมเต็มร่องลึก หรือสร้างความสมดุลให้กับใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์และมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น การเข้าใจในรายละเอียดและเทคโนโลยีที่ใช้ในการเติมไขมันจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาทำหัตถการนี้

ทำความรู้จักการเติมไขมัน (Fat Grafting)

การเติมไขมันเป็นหัตถการทางการแพทย์ที่ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด เทคนิคนี้ไม่เพียงแต่ช่วยปรับปรุงรูปหน้าให้ดูดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการใช้ประโยชน์จากไขมันส่วนเกินในร่างกายเพื่อมาเติมเต็มจุดที่ต้องการอีกด้วย ทำให้ได้ประโยชน์สองต่อโดยไม่ต้องใช้สารสังเคราะห์หรือวัสดุแปลกปลอมใด ๆ

เติมไขมัน คืออะไร ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง?

การเติมไขมันคือหัตถการที่ใช้เซลล์ไขมันจากร่างกายของผู้รับการรักษาเอง โดยนำมาจากบริเวณที่มีไขมันสะสมมาก เช่น หน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก แล้วผ่านกระบวนการคัดกรองและปรับปรุงคุณภาพ ก่อนนำไปฉีดเติมในบริเวณที่ต้องการเพิ่มปริมาตรหรือปรับรูปทรง เทคนิคนี้สามารถแก้ไขปัญหาหลากหลายประการ อาทิ การเติมเต็มใบหน้าบุ๋มตอบให้ดูอิ่มเอิบขึ้น ลดความลึกของร่องแก้มหรือร่องลึกใต้ตาที่ทำให้ดูแก่ก่อนวัย ปรับขมับที่ตอบให้ดูโค้งมนและมีมิติ รวมถึงเติมเต็มหน้าผากให้มีความนูนที่เหมาะสม การใช้ไขมันตัวเองทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติมาก เพราะไขมันจะปรับตัวเข้ากับเนื้อเยื่อโดยรอบได้ดี และมีโอกาสเกิดการแพ้หรือปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์น้อยมาก

เทียบเทคนิคเติมไขมันแบบใหม่ VS แบบเก่า ต่างกันอย่างไร

ความแตกต่างระหว่างเทคนิคการเติมไขมันแบบเก่าและแบบใหม่มีความสำคัญอย่างมาก ในแง่ของผลลัพธ์และความปลอดภัย เทคนิคแบบเก่านั้น จะมีกระบวนการที่ค่อนข้างเรียบง่าย ใช้วิธีการดูดไขมันแบบธรรมดา กรองด้วยอุปกรณ์พื้นฐาน และฉีดเติมด้วยเข็มทั่วไป ซึ่งมักจะส่งผลให้อัตราการอยู่รอดของเซลล์ไขมันต่ำ ไขมันสลายตัวเร็ว และต้องเติมซ้ำบ่อยครั้ง นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดการอักเสบหรือความไม่สม่ำเสมอของผิว 

ในขณะที่เทคนิคแบบใหม่ได้นำเอาเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ามาช่วย เช่น การใช้เครื่องมือ LipoCube ที่ช่วยแยกและเสริมสร้างสเต็มเซลล์ไขมันให้มีคุณภาพสูงขึ้น ทำให้ไขมันมีอัตราการรอดตายที่ดีกว่าถึง 70-80% และการใช้อุปกรณ์ Maft Gun ที่ช่วยให้การฉีดไขมันมีความแม่นยำและสม่ำเสมอ ส่งผลให้ผิวมีความเรียบเนียนและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไขมันคงอยู่ได้นานขึ้น และลดความจำเป็นในการเติมซ้ำ

ใครบ้างที่เหมาะกับการเติมไขมัน และทำส่วนไหนได้บ้าง?

การพิจารณาความเหมาะสมสำหรับการเติมไขมันต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ทั้งสภาพร่างกาย เป้าหมายของการรักษา และความพร้อมในการดูแลตัวเองหลังการทำหัตถการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัย ขณะเดียวกัน การทราบตำแหน่งต่าง ๆ ที่สามารถทำได้จะช่วยให้ผู้ที่สนใจสามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม

กลุ่มคนที่เหมาะสมสำหรับการเติมไขมัน

  • ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินในร่างกายเพียงพอสำหรับการดูดและนำมาเติม
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและยั่งยืน
  • ผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวที่รุนแรง
  • ผู้ที่ไม่ต้องการใช้สารสังเคราะห์ในร่างกาย
  • ผู้ที่พร้อมดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์หลังทำหัตถการ

ตำแหน่งยอดนิยมในการเติมไขมัน

การเติมไขมันสามารถทำได้ในหลายบริเวณ โดยแต่ละตำแหน่งจะให้ผลลัพธ์และประโยชน์ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัญหาและเป้าหมายของแต่ละบุคคล

ตำแหน่งยอดนิยมในการเติมไขมัน

  • หน้าผาก : เพิ่มความโค้งนูนให้ดูมีมิติและลดริ้วรอย
  • ขมับ : แก้ปัญหาขมับตอบที่ทำให้ดูแก่ก่อนวัย
  • ใต้ตา : เติมเต็มร่องลึกและลดความหมองคล้ำ
  • แก้ม : เพิ่มความอวบอิ่มให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
  • ร่องแก้ม : ลดความลึกของร่องให้ดูอ่อนกว่าวัย
  • คาง : ปรับรูปคางให้สมส่วนกับใบหน้า
  • หน้าอก : เพิ่มขนาดอย่างดูเป็นธรรมชาติ
  • สะโพก : ปรับรูปทรงให้มีเส้นโค้งที่สวยงาม

เช็กลิสต์! คุณเหมาะกับการเติมไขมันหรือไม่?

การประเมินความเหมาะสมสำหรับการเติมไขมันเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย โดยต้องพิจารณาทั้งปัจจัยด้านร่างกายและไลฟ์สไตล์

คุณเหมาะกับการเติมไขมันหาก

  • มีไขมันส่วนเกินในร่างกายเพียงพอ (BMI ไม่ต่ำกว่า 18.5)
  • สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวที่รุนแรง
  • ไม่สูบบุหรี่หรือสามารถหยุดสูบบุหรี่ได้อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • ไม่มีแผนลดน้ำหนักหรือเปลี่ยนแปลงรูปร่างอย่างรุนแรง
  • พร้อมดูแลตัวเองและปฏิบัติตามคำแนะนำหลังทำหัตถการ
  • มีความคาดหวังที่สมเหตุสมผลต่อผลลัพธ์

คุณไม่เหมาะกับการเติมไขมันหาก

  • มีน้ำหนักตัวต่ำมากหรือผอมเกินไป
  • มีโรคประจำตัวที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ
  • กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด
  • ไม่สามารถดูแลตัวเองหลังทำหัตถการได้

ขั้นตอนการเติมไขมันเป็นอย่างไร?

กระบวนการเติมไขมันประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลักที่ต้องทำอย่างระมัดระวังและแม่นยำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัย โดยแต่ละขั้นตอนมีความสำคัญและส่งผลต่อความสำเร็จของการรักษาโดยรวม

  • ขั้นตอนที่ 1 การดูดเก็บไขมัน : ใช้เทคนิคการดูดไขมันที่อ่อนโยนเพื่อรักษาคุณภาพเซลล์ไขมัน
  • ขั้นตอนที่ 2 การคัดกรองและปรับปรุงคุณภาพไขมัน : กรองแยกไขมันบริสุทธิ์และเสริมสร้างสเต็มเซลล์
  • ขั้นตอนที่ 3 การฉีดเติมไขมัน : ฉีดไขมันอย่างแม่นยำในชั้นผิวที่เหมาะสม
  • การตรวจสอบและปรับแต่งผลลัพธ์ : ปรับความสมดุลและความเรียบเนียนของผิว
  • การดูแลหลังทำหัตถการ : ให้คำแนะนำการดูแลตัวเองเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การเตรียมตัวก่อนและหลังเติมไขมัน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การเตรียมความพร้อมทั้งก่อนและหลังการทำหัตถการมีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของการรักษา การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มอัตราการรอดตายของเซลล์ไขมันและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน

การเตรียมตัวก่อนทำหัตถการ

  • ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินความเหมาะสมและวางแผนการรักษา
  • ตรวจสุขภาพร่างกายก่อนเข้ารับการรักษา
  • งดยาและอาหารเสริมบางชนิดที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด
  • งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนทำ
  • รักษาสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอ

การดูแลตัวเองหลังทำหัตถการ

  • หลีกเลี่ยงการกดนวดบริเวณที่เติมไขมัน อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์
  • ใส่ชุดกระชับตามคำแนะนำ เพื่อช่วยลดบวมและกระชับผิว
  • งดกิจกรรมที่ใช้แรงมาก  หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักใน 2 สัปดาห์แรก
  • หลีกเลี่ยงความร้อนและความเย็นจัด เพื่อปกป้องเซลล์ไขมันที่เติมเข้าไป
  • รับประทานอาหารที่มีโปรตีน ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อและเพิ่มการรอดตายของไขมัน
  • ติดตามผลกับแพทย์ ตรวจสอบความเรียบร้อยตามกำหนด

ทำไมต้องเลือกเติมไขมันด้วยเทคนิคเฉพาะที่ AM International Hospital

AM International Hospital นำเสนอการเติมไขมันด้วยเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญที่เหนือกว่า เพื่อมอบผลลัพธ์ที่ปลอดภัย มีคุณภาพ และยั่งยืน ด้วยการผสานจุดแข็งของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีล้ำสมัย

เทคโนโลยีที่เหนือกว่าด้วย LipoCube และ Maft Gun

เครื่องมือ LipoCube ช่วยแยกและเสริมสร้างสเต็มเซลล์ไขมันให้มีคุณภาพสูงสุด เพิ่มอัตราการรอดตายของไขมันขึ้นถึง 80% ขณะที่ Maft Gun ช่วยให้การฉีดไขมันมีความแม่นยำและสม่ำเสมอ ทำให้ผิวเรียบเนียนดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อนหรือไม่เสมอกัน เทคโนโลยีเหล่านี้ร่วมกันสร้างผลลัพธ์ที่เหนือกว่าและคงทนนานกว่าเทคนิคเดิม

ทีมศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการ

นพ. วิษณุ เฮ้งสวัสดิ์ และ นพ. วัชพล ธนมิตรามณี นำทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการเติมไขมัน ด้วยความชำนาญเฉพาะด้านที่ต่างกันแต่เสริมกัน ทำให้สามารถวางแผนการรักษาแบบองค์รวมและให้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล

ปลอดภัยในโรงพยาบาลมาตรฐานสากล

ห้องผ่าตัดระบบ Clean Room ปลอดเชื้อ 3 ชั้น พร้อมระบบ HEPA Filter และ Positive Pressure Airflow รับประกันความปลอดภัยสูงสุด มาตรฐานโครงสร้างระดับ RITTA และระบบไฟสำรอง UPS ที่พร้อมรองรับเครื่องมือทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจได้ว่าการรักษาจะเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

ดูแลครบวงจรทั้งก่อนและหลังทำ

บริการคำปรึกษาแบบเจาะลึกก่อนทำหัตถการ การดูแลระหว่างพักฟื้นในห้องพักระดับโรงแรม 5 ดาว และระบบ Follow-up ตลอด 24 ชั่วโมง หลังการรักษา ทำให้ผู้รับบริการรู้สึกมั่นใจและได้รับการดูแลอย่างใส่ใจในทุกขั้นตอน พร้อมด้วยทีมแพทย์และพยาบาลที่พร้อมให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาได้ทันที

สรุปบทความ

การเติมไขมันเป็นหัตถการที่มอบผลลัพธ์ธรรมชาติและยั่งยืน โดยใช้ไขมันจากตัวเราเองในการปรับปรุงรูปหน้าให้ดูเติมเต็มและมีมิติมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง LipoCube และ Maft Gun ที่เพิ่มอัตราการรอดตายของไขมันและให้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนดูเป็นธรรมชาติ การเลือกโรงพยาบาลและทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จของการรักษา AM International Hospital พร้อมมอบประสบการณ์การเติมไขมันที่ปลอดภัย มีคุณภาพ และตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล ด้วยมาตรฐานระดับสากลและการดูแลแบบครบวงจร หากคุณกำลังพิจารณาการเติมไขมันเพื่อปรับปรุงรูปหน้าให้ดูสวยงามและดูเป็นธรรมชาติ เชิญเข้ามาปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ AM International Hospital เพื่อรับการประเมินและคำแนะนำที่เหมาะสมสำหรับคุณโดยเฉพาะ