ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับ Solar Cell ที่ทำให้หลายคนไม่กล้าติดตั้ง

บทความ »
การติดตั้ง Solar Cell

ท่ามกลางกระแสค่าไฟฟ้าที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายคนเริ่มสนใจการติดตั้ง Solar Cell หรือโซล่าเซลล์บนหลังคา เพื่อเป็นทางออกในการประหยัดค่าใช้จ่ายและสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับบ้านหรือโรงงาน แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีความเชื่อผิด ๆ หรือข้อมูลคลาดเคลื่อนที่ยังพบเจอได้ในอินเทอร์เน็ต ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ขัดขวางไม่ให้คุณตัดสินใจลงทุนในเทคโนโลยีที่คุ้มค่านี้

บทความนี้จะขออาสาทำลาย 5 ความเชื่อผิด ๆ ที่พบบ่อยที่สุด เพื่อแยกข้อเท็จจริงออกจากความเชื่อ และช่วยให้คุณเข้าใจเทคโนโลยีโซล่าเซลล์ได้ดียิ่งขึ้น

5 ความเชื่อผิด ๆ ที่ทำให้คุณยังไม่กล้าติดโซล่าเซลล์

เราได้รวบรวมข้อกังวลหลัก ๆ ที่มักได้ยินเสมอ และจะมาอธิบายข้อเท็จจริงทีละข้อ เพื่อให้คุณเห็นภาพว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันก้าวไปไกลกว่าที่คุณคิดมาก

1. “โซล่าเซลล์ยังแพงอยู่ ไม่คุ้มทุน”

การติดตั้ง Solar Cel

นี่คือความเชื่ออันดับหนึ่งที่ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่กล้าแม้แต่จะเริ่มต้นศึกษา หลายคนยังติดภาพจำจาก 10 ปีก่อนว่าการติดตั้งโซล่าเซลล์เป็นเทคโนโลยีราคาสูงสำหรับคนรวยเท่านั้น และต้องใช้เวลานานนับสิบปีกว่าจะคืนทุน

แต่ในปัจจุบัน ราคาของแผงโซล่าเซลล์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ทำให้การติดตั้ง Solar Cell ในปัจจุบันมีระยะเวลาคืนทุนเฉลี่ยสั้นมากเพียง 5-7 ปีเท่านั้น และหลังจากนั้นคือ กำไรจากการใช้ไฟฟ้าฟรีตลอดอายุการใช้งานกว่า 20 ปีของแผงโซล่าเซลล์ 

2. “ฝนตกหรือวันที่มีเมฆมาก ระบบก็ไม่ทำงาน”

หลายคนเข้าใจว่าโซล่าเซลล์ต้องการ “แดดจ้า” เท่านั้นถึงจะทำงานได้ หากติดตั้งไปแล้วเจอหน้าฝน หรือวันที่เมฆครึ้ม ก็เท่ากับว่าระบบจะหยุดทำงานและไม่ผลิตไฟฟ้าเลย

ข้อเท็จจริงคือ เทคโนโลยีโซล่าเซลล์ในปัจจุบันไม่ต้องการ “แสงแดด” แต่ต้องการ “แสงสว่าง” ในการผลิตไฟฟ้า ดังนั้น แม้ในวันที่มีเมฆมากหรือฝนตกปรอย ๆ แผงโซล่าเซลล์ก็ยังคงผลิตไฟฟ้าได้ เพียงแต่จะผลิตได้ในปริมาณที่น้อยกว่าวันที่มีแดดจัดเท่านั้น และด้วยสภาพอากาศของไทยที่ได้รับรังสีดวงอาทิตย์เฉลี่ยตลอดทั้งปีในเกณฑ์ที่สูงมาก ทำให้การผลิตไฟฟ้าโดยรวมยังคงมีความคุ้มค่าสูงอยู่ดี

3. “การบำรุงรักษายุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายแฝง”

การติดตั้ง Solar Cell

ภาพของเทคโนโลยีขั้นสูงบนหลังคาอาจทำให้คนกังวลว่าต้องมีการบำรุงรักษาที่ซับซ้อน ต้องจ้างช่างเทคนิคมาดูแลบ่อย ๆ และอาจมีค่าใช้จ่ายแฝงในการซ่อมบำรุงตามมา

ในความเป็นจริง ระบบโซล่าเซลล์เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้าที่ต้องการการบำรุงรักษาน้อยที่สุด เนื่องจากแผงโซล่าเซลล์เป็นอุปกรณ์ Solid-State คือไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว การบำรุงรักษาหลัก ๆ คือการทำความสะอาดแผง 1-2 ครั้งต่อปี ส่วนบริษัทผู้ติดตั้งมืออาชีพก็จะมีบริการตรวจสอบระบบประจำปี (Preventive Maintenance) ซึ่งไม่ได้มีค่าใช้จ่ายสูง

4. “ติดตั้งแล้วหลังคาจะรั่ว”

นี่คือความกังวลคลาสสิกของเจ้าของบ้านทุกคน การต้องเจาะหลังคาเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ขนาดใหญ่ดูเหมือนจะเป็นการสร้างความเสี่ยงให้เกิดปัญหารั่วซึมในอนาคต

ผู้เชี่ยวชาญจาก GREENERGY ได้ยืนยันข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ว่า ‘ปัญหาหลังคารั่วไม่ได้เกิดจากตัวแผงโซล่าเซลล์ แต่เกิดจากผู้ติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐานและขาดความเชี่ยวชาญ’ การติดตั้งโดยบริษัทมืออาชีพจะใช้ชุดอุปกรณ์จับยึดที่ออกแบบมาสำหรับหลังคาแต่ละประเภทโดยเฉพาะ

5. “ขั้นตอนขออนุญาตยุ่งยากและเสียเวลา”

การติดตั้ง Solar Cell

ความเชื่อที่ทำให้หลายคนถอดใจคือ การต้องติดต่อหน่วยงานราชการ ทั้งการไฟฟ้าและหน่วยงานท้องถิ่น ซึ่งดูเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน วุ่นวาย และต้องใช้เวลาดำเนินการนาน

ในปัจจุบัน ผู้ให้บริการติดตั้งโซล่าเซลล์มืออาชีพและครบวงจร จะทำหน้าที่ “ดำเนินการทั้งหมด” แทนลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบ กระบวนการเหล่านี้จึงกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเจ้าของบ้านที่แทบไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากเตรียมเอกสารส่วนตัวเท่านั้น

สรุปบทความ

จะเห็นได้ว่า ความเชื่อผิด ๆ ส่วนใหญ่เกี่ยวกับโซล่าเซลล์มักเกิดจากข้อมูลที่ล้าสมัย หรือเกิดจากประสบการณ์ที่ไม่ดีกับผู้ติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน ในความเป็นจริง เทคโนโลยีโซล่าเซลล์ในปัจจุบันได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ปลอดภัย ทนทาน และง่ายต่อการบำรุงรักษา

สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่ตัวเทคโนโลยี แต่คือการเลือก “พาร์ทเนอร์” หรือผู้ติดตั้งที่เชี่ยวชาญและไว้ใจได้ เพื่อให้การลงทุนของคุณเป็นการลงทุนที่สร้างรอยยิ้มและประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้อีกยาวนาน