ส่งออกไทยในบริบทใหม่ของการค้าโลกชะลอตัว

Press Releases »

          รายงานโดย วิจัยกรุงศรี บมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
          ส่งออกไทยในบริบทใหม่ของการค้าโลกชะลอตัว
          Key highlight:
          วิจัยกรุงศรีสรุป 3 ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกไทยซบเซาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2555 ได้แก่ 1. เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้า 2. โครงสร้างทางการค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงไป และ 3. ปัญหาเชิงโครงสร้างเฉพาะตัวของไทยจากขีดความสามารถในการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม ปัญหาเชิงโครงสร้างไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสินค้าส่งออกไทยทุกชนิด ยังมีสินค้าอีกหลายชนิดที่ยังมีแนวโน้มเติบโตดี ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการค้าโลก 
          วิจัยกรุงศรีใช้ส่วนแบ่งการตลาดของสินค้าไทยและแนวโน้มความต้องการในตลาดโลกในช่วงปี 2554-58 เป็นเกณฑ์แบ่งสินค้าส่งออกไทยออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ กลุ่มที่ 1 สินค้าส่งออกที่ 'แกร่ง' คิดเป็น 19.9% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด คือ สินค้าที่เติบโตได้ดีในตลาดโลก และไทยได้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น เช่น รถยนต์และชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มเครื่องทำความเย็น กลุ่มที่ 2 สินค้าส่งออกที่ 'พลาด' คิดเป็น 14.3% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด สินค้าในกลุ่มนี้กำลังสูญเสียส่วนแบ่งในตลาดส่งออกที่เติบโตได้ดี เช่น แผงวงจรรวม อัญมณีและเครื่องประดับ ข้าว และอาหารทะเลแปรรูป กลุ่มที่ 3 สินค้าส่งออกที่ 'ยังดิ้นรน' คิดเป็น 27.6% ของมูลค่าการส่งออก ได้แก่ สินค้าที่แนวโน้มความต้องการในตลาดโลกลดลง ทั้งที่ไทยได้และเสียส่วนแบ่งการตลาดไป โดยส่วนแบ่งของสินค้าไทยอาจเพิ่มขึ้นเพราะคู่แข่งรายอื่นออกจากตลาด หรือลดลงเพราะผู้ส่งออกไทยหันไปผลิตสินค้าที่มีมูลค่าสูงขึ้น อาทิ อุตสาหกรรมน้ำตาล จะเห็นได้ว่าผู้ส่งออกในกลุ่มนี้ยังมีโอกาสปรับตัว เพื่อขึ้นไปแข่งขันในตลาดสินค้าที่เติบโตได้ดีในตลาดโลก จึงยังต้องติดตามและประเมินความสามารถในการแข่งขันต่อไป
          ทั้งนี้ จะเห็นว่าสินค้าส่งออกที่ "แกร่ง" คิดเป็นสัดส่วนต่อมูลค่าการส่งออกรวมสูงกว่า และน่าจะพอเป็นแรงขับเคลื่อนภาคการส่งออกแทนสินค้าส่งออกที่ "พลาด" ได้ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ยังมีสินค้าที่ 'ยังดิ้นรน' อีกกว่า 1 ใน 4 ที่ต้องติดตามการปรับตัวของผู้ประกอบการ ทำให้ในภาพรวม ปัญหาเชิงโครงสร้างยังเป็นสิ่งที่ต้องจับตา วิจัยกรุงศรีเสนอแนะให้ภาคอุตสาหกรรมของไทยปรับปรุงโครงสร้างการผลิต ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา ก่อให้เกิดสินค้าส่งออกที่มีมูลค่าเพิ่มสูงเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของโลกที่ไม่หยุดนิ่ง และพัฒนาระบบตลาดภายในประเทศให้มีความยืดหยุ่นและเอื้อต่อการปรับตัวของผู้ประกอบการ

          ส่งออกไทยในบริบทใหม่ของการค้าโลกชะลอตัว

          นับตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา มูลค่าการส่งออกของไทยหดตัวต่อเนื่อง จากที่เคยขยายตัวได้ในระดับสูงและเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในปีนี้การส่งออกอาจหดตัวเป็นปีที่สี่ติดต่อกัน หลังจากในช่วงห้าเดือนแรก มูลค่าการส่งออกหดตัวถึง 1.9% วิจัยกรุงศรีสรุป 3 ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกไทยซบเซาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ 1. เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้า 2. โครงสร้างทางการค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงไป และ 3. ปัญหาเชิงโครงสร้างเฉพาะตัวของไทยจากขีดความสามารถในการแข่งขัน 
          นอกจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้าที่ส่งผลให้ความต้องการสินค้าส่งออกลดลงแล้ว โครงสร้างการค้าโลกที่เปลี่ยนไปยังเป็นอีกปัจจัยหลักที่ส่งผลให้การส่งออกซบเซาทั่วโลก ปรากฎการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากภาคธุรกิจลดการนำเข้าสินค้าขั้นกลางและเครื่องจักร ขณะที่ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทนสินค้านำเข้า ด้วยเหตุนี้ มูลค่าการค้าโลกจึงไม่ได้เติบโตตามรายได้ของประชากรโลกเหมือนในอดีต จากข้อมูลในปี 2556 ที่การขยายตัวของการค้าโลกอยู่ในอัตราเท่ากับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งลดลงจากที่เคยขยายตัวในอัตราที่สูงกว่าถึง 2 เท่า ในช่วงปี 2533-42 
          ในขณะที่ช่วง 15 ปีที่ผ่านมา มูลค่าการค้าไทยตอบสนองต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกน้อยกว่ามูลค่าการค้าโลก สิ่งดังกล่าวจึงสะท้อนว่า นอกเหนือจากผลของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการค้าที่กระทบการส่งออกทั่วโลก ไทยยังเผชิญปัญหาเชิงโครงสร้างเฉพาะตัวจากความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง ทั้งจากการขาดแคลนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ค่าแรงที่สูงขึ้น และการส่งออกสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มต่ำ
          อย่างไรก็ตาม ปัญหาเชิงโครงสร้างไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสินค้าส่งออกไทยทุกชนิด ยังมีสินค้าอีกหลายชนิดที่ยังมีแนวโน้มเติบโตดี ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการค้าโลก วิจัยกรุงศรีใช้ส่วนแบ่งการตลาดของสินค้าไทยและแนวโน้มความต้องการในตลาดโลกในช่วงปี 2554-58 เป็นเกณฑ์แบ่งสินค้าส่งออกไทยออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ สินค้าที่ "แกร่ง", "พลาด" และ "ยังดิ้นรน"
          กลุ่มที่ 1 สินค้าส่งออกที่ 'แกร่ง' คิดเป็น 19.9% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด คือ สินค้าที่เติบโตได้ดีในตลาดโลก และไทยได้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น สินค้าในกลุ่มนี้ เช่น
          รถยนต์และชิ้นส่วน : ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนสำคัญ เนื่องจากมีตลาดในประเทศขนาดใหญ่ มี สายการผลิตค่อนข้างสมบูรณ์ และรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนที่ชัดเจน 
          ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง : ไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ของโลก เนื่องจากมีเทคโนโลยีการผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่ล้ำหน้ากว่าคู่แข่ง
เครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มเครื่องทำความเย็น (Cooling) : ไทยมีความได้เปรียบจากการมีสายการผลิตที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ทำให้สามารถใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตเองได้เกือบทั้งหมด 
          กลุ่มที่ 2 สินค้าส่งออกที่ 'พลาด' คิดเป็น 14.3% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด สินค้าในกลุ่มนี้กำลังสูญเสียส่วนแบ่งในตลาดส่งออกที่เติบโตได้ดี เช่น
          แผงวงจรรวม: ไทยเสียศักยภาพในการแข่งขัน เพราะขาดการวิจัยพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด เทคโนโลยีของไทยไม่รองรับการผลิตส่วนประกอบของ smartphone ที่มีแนวโน้มสดใสในตลาดโลก
          อัญมณีและเครื่องประดับ: ในตลาดเครื่องประดับ คู่แข่งอย่างจีนและอินเดียพัฒนาการผลิตและการออกแบบเครื่องประดับขึ้นมาใกล้เคียงกับไทย นอกจากนี้ ไทยถูกตัดสิทธิ GSP ในส่วนของเครื่องประดับเงิน ทำให้แข่งขันได้ยาก
          ข้าว ไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก เนื่องจากการแทรกแซงของรัฐบาลไทยที่มีมาต่อเนื่องทำให้ต้นทุนของไทยปรับสูงขึ้น ประกอบกับคู่แข่งพัฒนาพันธุ์ข้าวขึ้นมาแข่งกับข้าวหอมมะลิไทย นอกจากนี้ ยังมีปัญหาภัยแล้งยังส่งผลต่อปริมาณผลผลิต และปัญหาด้านคุณภาพที่กดดันให้ราคาส่งออกลดลง 
          อาหารทะเลแปรรูป ไทยเสียส่วนแบ่งการตลาดเนื่องจากการขาดแคลนแรงงานและวัตถุดิบ และได้รับผลกระทบจากโรคระบาดในกุ้ง อีกทั้งผู้นำเข้าหลักอย่างสหรัฐฯ และ สหภาพยุโรปเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าไทย
          กลุ่มที่ 3 สินค้าส่งออกที่ 'ยังดิ้นรน' คิดเป็น 27.6% ของมูลค่าการส่งออก ได้แก่ สินค้าที่แนวโน้มความต้องการในตลาดโลกลดลง ทั้งที่ไทยได้และเสียส่วนแบ่งการตลาดไป โดยส่วนแบ่งของสินค้าไทยอาจเพิ่มขึ้นเพราะคู่แข่งรายอื่นออกจากตลาด หรือลดลงเพราะผู้ส่งออกไทยหันไปผลิตสินค้าที่มีมูลค่าสูงขึ้น อาทิ อุตสาหกรรมน้ำตาลที่ผู้ประกอบการไทยลดการส่งออกน้ำตาลทรายดิบ แล้วหันมาส่งออกน้ำตาลทรายขาวที่มีมูลค่าสูงกว่า รวมทั้งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เช่น น้ำเชื่อม และไซรัป เป็นต้น จะเห็นได้ว่าผู้ส่งออกในกลุ่มนี้ยังมีโอกาสปรับตัว เพื่อขึ้นไปแข่งขันในตลาดสินค้าที่เติบโตได้ดีในตลาดโลก จึงยังต้องติดตามและประเมินความสามารถในการแข่งขันต่อไป ทั้งนี้ จะเห็นว่าสินค้าส่งออกที่ "แกร่ง" คิดเป็นสัดส่วนต่อมูลค่าการส่งออกรวมสูงกว่า และน่าจะพอเป็นแรงขับเคลื่อนภาคการส่งออกแทนสินค้าส่งออกที่ "พลาด" ได้ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ยังมีสินค้าที่ 'ยังดิ้นรน' อีกกว่า 1 ใน 4 ที่ต้องติดตามการปรับตัวของผู้ประกอบการ ทำให้ในภาพรวม ปัญหาเชิงโครงสร้างยังเป็นสิ่งที่ต้องจับตา
          คงต้องยอมรับว่า การค้าระหว่างประเทศมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทยที่เป็นเศรษฐกิจเปิด ดังนั้น หลายภาคส่วนจึงต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับปัจจัยเชิงโครงสร้างที่อาจส่งผลให้ไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขันได้ในระยะยาว คำถามที่สำคัญ คือ 'เราจะอยู่รอดได้อย่างไรภายใต้การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางการค้าโลก?' ไทยควรปรับปรุงโครงสร้างการผลิต ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา ก่อให้เกิดสินค้าส่งออกที่มีมูลค่าเพิ่มสูงเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของโลกที่ไม่หยุดนิ่ง และพัฒนาระบบตลาดภายในประเทศให้มีความยืดหยุ่นและเอื้อต่อการปรับตัวของผู้ประกอบการ
 

ข่าวธนาคารกรุงศรีอยุธยา+สินค้าส่งออกไทยวันนี้

รับสิทธิพิเศษ 2 ต่อ ที่เอาท์เล็ทญี่ปุ่น กับบัตร Krungsri Boarding Card หรือบัตรกรุงศรี เดบิต

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ชวนลูกค้าบัตร Krungsri Boarding Card และบัตรกรุงศรี เดบิต ช้อปสุดคุ้มที่เอาท์เล็ทกว่า 20 สาขาทั่วญี่ปุ่น เพียงแสดง QR code พร้อมบัตรที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ เพื่อรับสมุดคูปองส่วนลดและ Shopping Voucher และใช้จ่ายผ่านบัตร Krungsri Boarding Card หรือบัตรกรุงศรี เดบิต ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการภายในเอาท์เล็ท ตั้งแต่ 1 เมษายน 2568 31 มีนาคม 2569 รับสิทธิพิเศษ 2 ต่อดังนี้ ต่อที่ 1: คูปองส่วนลดสูงสุด 10% ต่อท่าน ต่อวัน ต่อที่ 2: Shopping Voucher มูลค่า 500 เยน

มูลนิธิกรุงศรี โดย นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ (ก... มูลนิธิกรุงศรีมอบทุนการศึกษาเนื่องในโอกาสวันเยาวชนแห่งชาติต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 — มูลนิธิกรุงศรี โดย นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ (กลาง) ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลย...

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุ... กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 31.55-32.15 มองดอลลาร์ฟื้นตัวไม่ยั่งยืน — กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อท...

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน... กรุงศรี ชวนเปิดโลกเทคโนโลยีในงาน Krungsri Tech Day 2025: Empower People to Make Life Simple — กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ)...

กรุงศรี ยกระดับนวัตกรรมและประสบการณ์ลูกค้าด้วยโซลูชัน Cloud Data Governance ขับเคลื่อนด้วย AI จาก Informatica

Informatica (NYSE: INFA) ผู้นำด้านการจัดการข้อมูลบนคลาวด์ระดับองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย AI ประกาศความร่วมมือกับ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ("กรุงศรี") เพื่อผลักดันการ...

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน... กรุงศรีร่วมเป็นผู้นำขับเคลื่อนความเป็นเลิศด้านการธนาคารสีเขียวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก — กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการ...

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน... กรุงศรียกระดับบทบาทผู้นำการเงินดิจิทัล ชู AI และ Cross-Border Payments บนเวที BDFC 2025 — กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) โดย...

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน... ถอนเงินไม่ใช้บัตร ได้ง่ายและสะดวกขึ้น ผ่านเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็มทั่วประเทศ — กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) มอบประสบการณ์ความง่ายและสะดวกให้...