“ร้านกาแฟไม่ธรรมดา” แนวคิดดีๆ ที่ รร.เชียงรายปัญญานุกูล เสริมศักยภาพ “เด็กบกพร่องทางสติปัญญา” สู่การพึ่งพาตนเอง

13 Nov 2013

ที่ผ่านมาการดำเนินงานฝึกอาชีพให้กับ “เด็กพิเศษ” กลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะจากข้อมูลนักเรียนจำนวน 61 คนที่จบออกไป พบว่ามีเด็กนักเรียนที่นำความรู้ที่ได้รับจากการฝึกอาชีพไปใช้ในการประกอบอาชีพจริงเพียง 8 คน หรือเพียงร้อยละ 12 อีกหลายๆ คนต้องกลับไปอยู่กับครอบครัวโดยไม่มีงานทำ ซ้ำยังถูกสังคมมองว่าเป็นเป็นภาระ และเป็นคนที่ไร้ความสามารถ

“ร้านกาแฟไม่ธรรมดา” แนวคิดดีๆ ที่ รร.เชียงรายปัญญานุกูล เสริมศักยภาพ “เด็กบกพร่องทางสติปัญญา” สู่การพึ่งพาตนเอง

เพื่อลบทัศคติในแง่ลบที่มีต่อเด็กพิการทั้งด้านความสามารถและการดำรงชีวิต “โครงการพัฒนาทักษะงานอาชีพเด็กพิการ 1 คน 1 งานอาชีพ” ของ “นางสาวเสาวภา เพียรจริง” หรือ “ครูดรีม” ของเด็กๆ ผู้ได้รับ “ทุนครูสอนดี” จาก “โครงการสังคมไทยร่วมกันคืนครูดีให้ศิษย์ เชิดชู ยกย่อง ครูสอนดี” ที่ขับเคลื่อนโดย สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) จึงเกิดขึ้นด้วยความร่วมแรงร่วมใจจากคณะครูและผู้บริหารโรงเรียน ในการค้นหาและดึงศักยภาพที่แฝงเร้นอยู่ในตัวของเด็กพิเศษแต่ละคน แล้วนำไปต่อยอดสู่การพัฒนาอาชีพที่เหมาะสม เพื่อให้เป็นที่ยอมรับในสังคมว่า “เด็กพิการเชียงราย ทำอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด”

“เรื่องของการฝึกทักษะอาชีพในทุกโรงเรียนของเด็กพิการก็มีอยู่แล้ว แต่เด็กๆ ก็จะได้ฝึกเฉพาะแค่ในโรงเรียน แต่พอกลับไปที่บ้านเขาก็ไม่สามารถต่อยอดหรือนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปประกอบอาชีพได้ เพราะขาดทักษะในเรื่องการตลาดหรือการขาย หากไม่มีคนซื้อ ผลงานที่ทำขึ้นมาก็ขายไม่ได้ ก็เลยเกิดความคิดว่าเราต้องจัดหาสถานที่จำหน่ายควบคู่ไปด้วย จึงเป็นที่มาของร้านกาแฟไม่ธรรมดาที่พาเด็กๆ ออกมาเรียนรู้จากประสบการณ์จริงนอกโรงเรียน ที่จะช่วยให้เขาได้รับประโยชน์ในหลายๆ ด้าน ทั้งทักษะการสื่อสาร ทักษะทางสังคม การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า” ครูเสาวภา เล่าถึงที่มาของโครงการ

“ร้านกาแฟไม่ธรรมดา” ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับ “วัดร่องขุ่น” ที่ได้รับการสนับสนุนพื้นที่จาก “สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย” จึงเป็นเสมือน “ห้องเรียนชีวิต” ของเด็กพิเศษ ที่ทุกๆ วันพวกเขาจะออกเดินทางจากโรงเรียนแต่เช้าตรู่พร้อมคณะครู มาจัดเตรียมสถานที่และข้าวของต่างๆ เพื่อเปิดจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์จากฝีมือของผู้พิการให้กับนักท่องเที่ยว เพราะ “โลกของการเรียนรู้ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในตำรา หรือแค่ในห้องเรียน” เพียงอย่างเดียว

นายกมล ดาระสุวรรณ์ ผอ.รร.เชียงรายปัญญานุกูล กล่าวว่า พื้นที่ร้านกาแฟตรงนี้ก็เป็นเหมือนห้องเรียนอีกห้องหนึ่งที่เด็กนักเรียนจะได้มาฝึกทักษะต่างๆ ทางสังคม รวมไปถึงทักษะอาชีพที่เขาจะได้ทดลองฝึกปฏิบัติจริง ทำจริงขายจริง ไม่ใช่แค่การเรียนแบบท่องจำเมื่อไม่ได้ทำก็ลืม

“ที่ผ่านมาเด็กบางคนเราไม่ได้ค้นเจอว่าเขามีความสามารถอะไรบ้าง แต่เมื่อเราเปิดกว้างหลากหลายอย่างตอนนี้ เราก็จะได้เห็นได้ค้นพบว่า คนนั้นถนัดเรื่องนี้ คนนี้มีพรสวรรค์เรื่องนั้น ค้นพบศักยภาพในตัวเด็กแต่ละคน เมื่อพบแล้วเราก็ส่งเสริมให้ตรงกับที่เขาสนใจและถนัด เขาก็จะเกิดความมั่นใจภาคภูมิใจ และมีความสุขในการทำงาน เพราะงานของเราก็คือสอนคน เราไม่ได้สอนหนังสืออย่างเดียว สอนคนก็หมายถึงสอนทุกอย่าง ทำยังไงให้เขาเป็นเหมือนคนปกติ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร และให้เขาใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข” ผอ.กมล ระบุถึงแนวทางการพัฒนาเด็ก

โดยสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ กาแฟสด, เครื่องดื่มอิตาเลี่ยนโซดา, กาแฟโบราณ, ขนมอบวาฟเฟิล, โดนัทจิ๋ว, งานศิลปะแขนงต่างๆ, งานประดิษฐ์ตุงมหามงคล, ลวดดัดต้นชาฮกเกี้ยน, กิ๊ฟช้อป ฯลฯ ที่ผลิตวางจำหน่ายอยู่ภายในร้านแห่งนี้ ล้วนเกิดขึ้นจาก “ความสนใจและความชอบ” ของเด็กแต่คนเป็นสำคัญ โดยทุกอาชีพ “ครู” ไม่ได้เป็นผู้คิดให้ แต่กลับเป็นเด็กๆ ที่เปิดประตูหัวใจให้ “ครู” ได้เข้ามาเรียนรู้และค้นหาศักยภาพที่อยู่ข้างในตัวของเด็กแต่ละคน

ซึ่งผลิตภัณฑ์ทุกอย่างที่จำหน่ายใน “ร้านกาแฟไม่ธรรมดา” ใช่ว่าจะเกิดจากฝีมือของเด็กเพียงไม่กี่คนเท่านั้น แต่ในทุกขั้นตอนการผลิตล้วนเกิดจาก “การมีส่วนร่วม” คนละเล็กคนละน้อยตามความถนัดที่ตนเองมีของเด็กนักเรียนเกือบทุกคนในโรงเรียนแห่งนี้ เพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจร่วมกัน โดยรายได้จากการจำหน่ายทั้งหมดส่วนหนึ่งจะถูกเก็บออมไว้ในบัญชีของเด็กแต่ละคน เพื่อใช้เป็นทุนในการประกอบอาชีพเมื่อจบการศึกษา และอีกส่วนหนึ่งก็จะมอบไว้ให้กับตัวเด็ก เพื่อจะได้ฝึกการจับจ่ายใช้สอยซื้อสิ่งของที่ต้องการ ซึ่งจะช่วยสร้างแรงจูงใจในการทำงานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

“แนวคิดหลักในการเลือกอาชีพจะต้องมาจากความสนใจ ความสามารถ และตามศักยภาพที่เขามี บางคนที่ชอบในส่วนของงานประดิษฐ์ เราก็เลือกเอาจุดเด่นของเขามาพัฒนาเป็นพื้นฐานของงานอาชีพ แต่ถ้าเราเลือกจากความชอบของครูมาฝึกเป็นอาชีพให้เด็กความยั่งยืนก็จะไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าเราเลือกจากสิ่งที่เด็กทำได้มาพัฒนาให้เป็นอาชีพ โดยครูเป็นผู้หากิจกรรมมาเสริมให้กับเด็กในการฝึกปฏิบัติ ความยั่งยืนก็จะเกิดขึ้น ถึงครูจะย้ายไปที่อื่นแต่เด็กจะสามารถทำกิจกรรมต่อไปได้” ครูดรีมระบุ

โดยทุกๆ 7 โมงเช้าของทุกวัน “น้องนัตตี้” หรือ ด.ญ.กรวิภา คชวงศ์ จะรีบทำหน้าที่จัดเตรียมข้าวของและอุปกรณ์ต่างๆ ในการเปิดร้านกาแฟโดยแทบจะไม่ต้องมีคนช่วย เพียงไม่นานก็พร้อมที่จะส่งเสียงชักชวนให้นักท่องเที่ยวได้มาอุดหนุนสินค้า เช่นเดียวกันกับ น.ส.ประกายดาว ณ ลำปาง หรือ “น้องดาว” ที่จะเข้าประจำที่เพื่อประดิษฐ์ตุงมหามงคลอวดฝีมือแก่นักเดินทางที่ผ่านไปมา

ส่วน “น้องนภัส” น.ส.นภัส แซ่ย่าง และ “น้องแพต” น.ส.ณัฐพร ต๊ะพินะ ก็จะรีบจัดแจงจัดเตรียมส่วนผสมของโดนัทและวาฟเฟิล ไม่นานนักขนมที่หอมหวานก็พร้อมให้ชิม ด้าน “น.ส.ปาริฉัตร โวยแม” ก็นำไข่เป็ดจากที่บ้านขึ้นมาตั้งวางเพื่อรอจำหน่าย ทางฝากของศิลปินน้อย “น้องโย” นายดารากร เผ่าต๊ะใจ ก็กำลังขะมักเขม้นกับการตกแต่งมุมถ่ายภาพที่ระลึกด้วยปลายพู่กัน หันไปอีกด้านร้านกาแฟโบราณของ “น้องตาม” นายอาพีซี ยูโซ๊ะ ก็พร้อมเปิดขายแล้วเช่นกัน

“ปัจจุบันเรามีศูนย์จำหน่ายสินค้าที่หน้าวัดร่องขุ่น แล้วก็จะพยายามหาหรือสร้างแหล่งจำหน่ายให้ได้มากที่สุด ดังนั้นเด็กที่จบไปแล้วก็สามารถจะมาทำงานร่วมกับทางโรงเรียนหรือรับงานไปทำที่บ้าน แล้วส่งผลงานมาขายก็ได้ เพราะว่าเด็กแต่ละคนจะมีรายได้จากในระหว่างเรียนที่จะเก็บไว้ในบัญชีธนาคาร เมื่อเรียบจบเขาจะมีเงินทุนอยู่ก้อนหนึ่งเพื่อที่จะไปเป็นทุนในการประกอบอาชีพที่ถนัดและชื่นชอบ แล้วเขาก็ยังสามารถที่จะกลับมาทำงานที่ตัวเองชอบที่โรงเรียนได้ หรือมาทำงานที่ตัวเองชอบที่ร้านกาแฟตรงนี้ก็ได้เช่นกัน” ครูเสาวภาสรุป.

“ร้านกาแฟไม่ธรรมดา” แนวคิดดีๆ ที่ รร.เชียงรายปัญญานุกูล เสริมศักยภาพ “เด็กบกพร่องทางสติปัญญา” สู่การพึ่งพาตนเอง “ร้านกาแฟไม่ธรรมดา” แนวคิดดีๆ ที่ รร.เชียงรายปัญญานุกูล เสริมศักยภาพ “เด็กบกพร่องทางสติปัญญา” สู่การพึ่งพาตนเอง “ร้านกาแฟไม่ธรรมดา” แนวคิดดีๆ ที่ รร.เชียงรายปัญญานุกูล เสริมศักยภาพ “เด็กบกพร่องทางสติปัญญา” สู่การพึ่งพาตนเอง
ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit