สธ.เร่งปรับคุณภาพรพ.ใช้แบบประเมินผล ฟังความคิดเห็นผู้ป่วย

กรุงเทพ--6 ส.ค.--สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข รับฟังข้อคิดเห็นที่สะท้อนกลับจากผู้ป่วยและญาติที่มารับบริการในรพ. เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงระบบบริการสาธารณสุข โดย สวรส.พัฒนาแบบประเมินผล และแจกจ่ายแก่รพ.ทั่วประเทศแล้ว นายสุนทร วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขและคณะ ร่วมแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนเกี่ยวกับข้อมูล "เสียงสะท้อนจากผู้ป่วย" หรือ Listen to the Patients ว่า ปัจจุบันได้เกิดปัญหาความไม่เข้าใจระหว่างคนไข้กับโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งส่งผลให้เกิดเป็นคดีฟ้องร้องจำนวนมาก เกี่ยวกับเรื่องนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้พยายามปรับปรุงการบริการของโรงพยาบาลมาโดยตลอด ซึ่งส่งผลให้การบริการเป็นที่พอใจในระดับหนึ่ง ดังนั้นเพื่อเป็นการสนับสนุนการทำงาน และเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาต่อกระทรวงสาธารณสุข อันจะช่วยสร้างความพึงพอใจให้แก่ประชาชนผู้มารับบริการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขจึงได้จัดทำแบบประเมินผลความคิดเห็นของผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกต่อการรับบริการจากโรงพยาบาล เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการปรับปรุงและพัฒนาระบบบริการของโรงพยาบาล โดยฟังจากเสียงสะท้อนของผู้ป่วย ซึ่งในขณะนี้ได้แจกจ่ายให้แก่โรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศแล้ว แบบประเมินผลดังกล่าวได้พัฒนาขึ้นจากแบบสอบถามที่ใช้ในส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยเรื่อง "ผลของกลไกการจ่ายเงินต่อประสิทธิภาพและคุณภาพของโรงพยาบาล" ซึ่งได้ทำการสำรวจทัศนะผู้ใช้บริการทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในรวมทั้งสิ้น 5,741 ราย จากโรงพยาบาล 9 แห่งในเขตกรุงเทพมหานคร และพบว่า ในภาพรวม คุณภาพบริการของแพทย์ได้รับการประเมินว่าดีหรือดีมากในสัดส่วนสูงที่สุด ขณะที่คุณภาพด้านกายภาพและบริการทั่วไปได้รับการประเมินว่าดีหรือดีมากในสัดส่วนที่ต่ำที่สุด โดยที่คำแนะนำในการปรับปรุงคุณภาพบริการ ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องทางกายภาพ ได้แก่ บริการอาหาร เสื้อผ้า กิริยามารยาทของพยาบาล จำนวนแพทย์และพยาบาล และค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนมีราคาแพง จุดเด่นของแบบประเมินผลนี้คือ ลักษณะคำถามที่ประกอบด้วย คำถามเกี่ยวกับข้อเท็จจริงจากประสบการณ์ของผู้ป่วย และคำถามเพื่อให้ผู้ป่วยแสดงความคิดเห็นต่อคุณภาพบริการแบ่งออกเป็น 4 ส่วนด้วยกัน คือ ส่วนที่ 1 เป็นการสอบถามข้อมูลทั่วไปของผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ส่วนที่ 2 เป็นข้อมูลข้อเท็จจริงจากประสบการณ์ที่ผู้ป่วยได้รับจริง ส่วนที่ 3 เป็นข้อมูลเกี่ยวกับความเห็นของผู้ป่วย และส่วนที่ 4 เป็นคำถามเกี่ยวกับอนาคตว่าจะ "คบ หรือ เลิกคบ" โรงพยาบาลแห่งนั้น ทั้งนี้ ได้ปรับปรุงให้เนื้อหามีความกระชับมากยิ่งขึ้น นายสุนทรกล่าวต่อไปว่า นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ได้มีการพัฒนาเครื่องมือที่เหมาะสมกับระบบบริการของโรงพยาบาล ต่อสังคม และวัฒนธรรมของผู้ป่วยไทย กล่าวคือสามารถสะท้อนความคิดเห็น และความรู้สึกของผู้ป่วยที่มีต่อบริการที่ได้รับจากโรงพยาบาล อันเป็นแนวทางพัฒนาคุณภาพบริการของโรงพยาบาลที่สอดคล้องกับยุคโลกาภิวัฒน์อย่างแท้จริง อย่างไรก็ดี เครื่องมือวัดความคิดเห็นต่อคุณภาพบริการและความพึงพอใจของผู้ป่วยนี้ โรงพยาบาลต่าง ๆ สามารถนำไปจัดพิมพ์เพื่อใช้งานได้ทันที หรือจะปรับใช้ให้เหมาะสมกับโรงพยาบาลของตนเองก็ได้ ทั้งนี้ควรจะต้องให้ความสำคัญต่อความคิดเห็นของผู้ป่วย เพื่อการนำผลไปวิเคราะห์ และนำเสนอหนทางการพัฒนาอย่างสร้างสรรค์เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับบริการที่ดีขึ้น จึงจะเกิดประโยชน์สูงสุด นายสุนทรกล่าวในตอนท้าย--จบ--

• ข่าวสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข
• ข่าวกระทรวงสาธารณสุข
• ข่าวสุนทร วิลาวัลย์
• ข่าวสถาบันวิจัยระบบ
• ข่าวกระทรวงสาธารณ