กรุงเทพ--17 พ.ค.--กระทรวงสาธารณสุข
ไทยมีรายได้จากอาหารกระป๋องส่งออกปีละกว่า 1.8 แสนล้านบาท หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ควรให้การสนับสนุนภาคเอกชน เพื่อจะได้นำเงินจากต่างประเทศ มาช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศในขณะนี้
นายธีระวัฒน์ ศิริวันสาณฑ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในแต่ละปีการส่งออกอาหารกระป๋องของไทยสู่ตลาดต่างประเทศมีมูลค่าประมาณ 1.8 แสนล้านบาท ตลาดที่สำคัญคือประเทศสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและประเทศในยุโรป สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เล็งเห็นถึงความสำคัญที่จะสนับสนุนสินค้าอาหารกระป๋องส่งออก เพื่อนำเข้าเงินตราต่างประเทศในช่วงาภวะวิกฤติของทางเศรษฐกิจของประเทสสมควรที่จะต้องสนับสนุน เพื่อส่งเสริมให้มีการส่งออกให้มากขึ้น ตลอดจนการช่วยแก้ปัญหากรณีที่ผู้ประกอบการบางรายอาจถูกประเทศคู่ค้าปฏิเสธผลิตภัณฑ์สินค้าบางชนิด ซึ่งมีไม่มากนักประมาณเดือนละ 2-3 ราย แต่มูลค่าความเสียหายเป็นหมื่นล้านบาท จึงมีความจำเป็นที่หน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เห็นความสำคัญจึงมีการตรวจสอบให้ความรู้ ให้คำแนะนำ ให้ข้อมูลข่าวสารและระเบียบข้อบังคับการนำเข้าสินค้าของแต่ละประเทศ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้พยายามประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งในภาครัฐและเอกชนไม่ว่าจะเป็นสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม กรมการค้าต่างประเทศ กรมส่งเสริมการส่งออก เพื่ออำนวยประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ เป็นแนวทางหนึ่งที่จะเพิ่มปริมาณการส่งออกอาหารกระป๋อง โดยเฉพาะอาหารทะเลเพื่อนำเงินตราเข้าประเทศ
นายแพทย์มงคล ณ สงขลา เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ชี้แจงเพิ่มเติมว่า เกี่ยวกับอาหารทะเลกระป๋องส่งออกนั้น องค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา เข้มงวดมากเรื่องการทำลายเชื้อโรค เมื่อไม่นานมานี้ได้เดินทางมาร่วมตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ไทย เพื่อดูแลการผลิตอาหารกระป๋องไทย 13 ราย เกี่ยวกับการควบคุมคุณภาพ ว่าจะต้องมีการทำอย่างไร เพื่อฆ่าเชื้อโรคในอาหารกระป๋องให้หมด
อาหารกระป๋องทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์จากอาหารทะเล เป็นเรื่องที่มีรายละเอียดค่อนข้างมาก ที่จะทำให้เข้ามาตรฐานและปลอดภัย ไม่เหมือนผลิตภัณฑ์จากอาหารอื่นๆ ขบวนการในการควบคุมคุณภาพนั้น จะต้องเริ่มต้นตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ ไปจนถึงผลิตออกมาเรียบร้อย ทุกขั้นตอนจะต้องไม่มีความเสี่ยง ซึ่งอยู่ในวิสัยที่ผู้ประกอบการของประเทศไทยจะช่วยทำได้ จนได้รับการยอมรับจากประเทศคู่ค้าว่า ของเราอยู่ในมาตรฐานระดับสากล
นายแพทย์มงคล กล่าวต่อไปว่า การพัฒนานี้ไม่สามารถทำได้ด้วยหน่วยงานหนึ่งหน่วยงานใด ต้องอาศัยความร่วมมือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารกระป๋อง นักวิชาการประมง นักวิชาการเกษตร กรมการค้าต่างประเทศ ต้องร่วมมือกัน เพื่อช่วยสนับสนุนการส่งออกอาหารกระป๋อง อันจะเป็นการช่วยแก้ปัญหาวิกฤติทางเศรษฐกิจของประเทศทางหนึ่ง--จบ--