กรุงเทพ--17 เม.ย.--โฮปเวลล์
เมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2541 บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้แจ้งให้กระทรวงคมนาคมและการถไฟฯ ทราบว่าบริษัทจะดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายมูลค่า 100,000 ล้านบาท เนื่องจากคู่สัญญาฝ่ายรัฐได้ยึดคืนสัมปทานโครงการระบบขนส่งทางรถไฟและถนนยกระดับในกรุงเทพมหานคร
ตามที่ เมื่อต้นปีนี้ รัฐบาลได้ยกเลิกโครงการเบิร์ทและให้บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด (HTL) ในเครือโฮปเวลล์ โฮลดิ้ง ซึ่งรับผิดชอบโครงการเบิร์ทออกจากพื้นที่โครงการ นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมและการรถไฟฯ ยังได้ปฎิเสธสิทธิของบริษัทที่จะนำเสนอเรื่องให้อนุญาโตตุลาการพิจารณา
ในขณะนี้ บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด กำลังดำเนินการโยกย้ายออกจากพื้นที่โครงการ แต่อย่างไรก็ดี บริษัทไม่สามารถที่จะรื้อถอนอุปกรณ์ทั้งหมดภายในระยะเวลาที่รัฐบาลกำหนดคือวันที่ 12 มีนาคม 2541 ได้ ขณะนี้การรื้อถอนก็ยังคงดำเนินอยู่
ตามความเข้าใจของโฮปเวลล์ การกระทำดังกล่าวเทียบเท่ากับการยึดคืนหรือเวนคืนสัมปทานใต้สัญญาที่ทำขึ้นระหว่างกระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย และ โฮปเวลล์ ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2533 ดังนั้นตามข้อกำหนดในสัญญาสัมปทาน เมื่อกระทรวงคมนาคมและการรถไฟฯ ได้ยืดคืนหรือเวนคืนสัมทาน บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด มีสิทธิที่จะเรียกร้องค่าเสียหายภายใต้ปัจจัยดังต่อไปนี้ เงินลงทุนในโครงการตลอดจนผลตอบแทนในอัตราที่สมควร เงินกู้ค้างชำระ ค่าใช้จ่ายค้างชำระอื่น ๆ และความสูญเสียกำไรที่คาดว่าจะได้รับ ปัจจุบันโฮปเวลล์ได้ลงทุนในโครงการเบิร์ทไปมากกว่า 600 ล้านเหรียญสหรัฐ
บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้คำนวนมูลค่าความเสียหายดังกล่าวข้างต้น ซึ่งบริษัทเห็นว่าบริษัทมีสิทธิที่จะได้รับ และได้ยื่นหนังสือเรียกร้องค่าเสียหายต่อกระทรวงคมนาคมและการรถไฟฯ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมานี้ค่าเสียหายที่เรียกร้องดังกล่าวมีมูลค่าจำนวน 100,000 ล้านบาท (18 พันล้านเหรียญฮ่องกง) แต่ทั้งนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินบาทกับเหรียญฮ่องกงและวันที่ชำระ
คอลิน เวียร์ ผู้อำนวยการบริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "บริษัทหวังว่ากระทรวงคมนาคมและการรถไฟฯ จะปฎิบัติตามพันธะที่มีอยู่ในสัญญาและพิจารณาประเมินค่าเสียหาย ตามที่บริษัทเรียกร้องโดยเร็ว มิฉะนั้นจะเป็นการบั่นทอนความไว้วางใจในการดำเนินการสัญญาต่าง ๆ ในประเทศไทย
อย่างไรก็ดี บริษัทคาดว่ากระทรวงคมนาคมและการรถไฟฯ จะยื่นข้อเรียกร้องแย้งมา และบริษัทก็พร้อมที่จะเจรจาหาข้อยุติเกี่ยวกับฐานการคำนวณข้อเรียกร้องค่าเสียหายที่ยุติธรรมได้
โฮปเวลล์ จะเป็นผู้ติดตามการเรียกร้องค่าเสียหายจากการที่รัฐบาลได้ยึดคืนหรือเวนคืนสัมปทาน ถ้าเหตุการณ์ไม่ได้รับข้อยุติเป็นที่น่าพอใจโฮปเวลล์จะดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องสิทธิต่อไป
บริษัทรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลไทยได้ยึดคืนโครงการที่สำคัญเช่นนี้ อย่างไรก็ดีด้วยความปราถนาดีของประชาชนชาวไทยที่บริษัทได้รับตลอดมา บริษัทขอเรียนว่าบริษัทยังคงพร้อมที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยและนักลงทุนรายอื่น ๆ ด้วยหวังที่จะเห็นโครงการนี้ประสบความสำเร็จ เนื่องจากเป็นโครงการที่จำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะช่วยแก้ปัญหาการจราจรในกรุงเทพมหานคร บริษัทขอขอบคุณประชาชนชาวไทยที่ได้ให้การสนับสนุนโครงการนี้ ด้วยดีตลอดมา"
โฮปเวลล์ โฮลดิ้ง (บริษัทแม่ของบริษัทโฮปเวลล์ ประเทศไทย) จำกัด ได้พัฒนาและดำเนินการโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ในเอเซีย อาทิ โครงการทางด่วนยาว 370 กม.ใน Pearl River Delta Region ของประเทศจีน ได้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าในอินโดนีเซีย และดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ตลอดจนโรงแรมอีกเป็นจำนวนมาก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Jaemi Hodgson (622) 391-1454 Bob Fienberg (852) 9408-6599--จบ--
