ธนาคารกสิกรไทยเปิดศูนย์คอมพิวเตอร์สำรอง และลงทุนเทปหุ่นยนต์ 20 ล้าน หยิบเทปข้อมูลเพียง 9 วินาที

กรุงเทพ--15 ก.ค.--บมจ.ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกสิกรไทย เปิดศูนย์คอมพิวเตอร์สำรองแบบดิสก์เรียลไทม์แบ็คอัพ (Disk Real Time Backup) ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ปฏิบัติงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเป็นธนาคารแรกของภาคพื้นเอเชียกรณีฉุกเฉินจะทำงานแทนศูนย์คอมพิวเตอร์หลักได้ภายใน 20 นาที ในขณะที่ระบบธนาคารพาณิชย์โดยทั่วไปใช้เวลากว่า 12 ช.ม. พร้อมเซ็นสัญญาซื้อเทปหุ่นยนต์ มูลค่า 20 ล้านบาท สามารถหยิบเทปข้อมูลได้ภายใน 9 วินาที นายอภิชัย บุณยเกียรติ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ระบบดังกล่าวช่วยให้ธนาคารให้บริการลูกค้าได้ด้วยคุณภาพที่สูงเทียบมาตรฐานโลกอย่างแท้จริง เพราะสามารถให้บริการที่รวดเร็วและทันต่อความต้องการของลูกค้าตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง ศูนย์คอมพิวเตอร์สำรองแบบดิสก์เรียลไทม์แบ็คอัพนี้ ได้สำรองให้มีฐานข้อมูลเสมือนศูนย์คอมพิวเตอร์หลักทุกประการ โดยการโอนถ่ายข้อมูลจากคอมพิวเตอร์หลักเข้าสู่ศูนย์สำรองนี้จะใช้เวลาเพียง 2 วินาที หรือเรียกว่าสำรองข้อมูลเกือบจะพร้อมกันนั่นเอง ปัจจุบันธนาคารมีบัญชีลูกค้า ประมาณ 7.4 ล้านบัญชี แบ่งเป็น ออมทรัพย์ 4.4 ล้านบัญชี ฝากประจำ 1.6 ล้านบัญชี กระแสรายวัน 0.4 ล้านบัญชี และอื่น ๆ 1 ล้านบัญชี ซึ่งธุรกรรมต่าง ๆ มีมากถึงวันละ 1,809 ล้านรายการที่คอมพิวเตอร์จะต้องเก็บข้อมูล ศูนย์คอมพิวเตอร์สำรองนี้ทางธนาคารได้พัฒนาร่วมกับบริษัทผู้จำหน่ายอุปกรณ์ปลายทางและซอฟต์แวร์ ซึ่งธนาคารเลือกใช้อุปกรณ์ขยายสัญญาณ (Channel Extender) ของ StorageTek โดยบริษัทกนกสิน เอ็กซปอร์ต อิมปอร์ต จำกัด เป็นผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทย พร้อมซอฟต์แวร์ System Data Mover Release 2.0 ของ IBM เพื่อทำ Real Time Backup ระหว่างดิสก์ได้สูงถึง 144 Volumes ถือเป็น Disk Backup ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งก่อนหน้านี้ทำได้เพียง 30 Volumes และยังเป็น Disk Real Time Backup ธนาคารแรกของเอเชีย นายพงษ์ธวัช พวงกนก ผู้บริหารฝ่ายประมวลผลระบบงานสารสนเทศ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ในการสั่งซื้อเทปหุ่นยนต์เพิ่มอีก 1 ระบบ ยี่ห้อ Storagetek รุ่น PowderHorn ที่มีความจุเทป 6,000 ตลับ พร้อมหัวอ่าน Timberline 9490 (36-Track) จำนวน 6 ไดร์ฟ มูลค่ากว่า 20 ล้านบาทนี้ เป็นเทปหุ่นยนต์ที่ได้พัฒนากระบวนการหยิบตลัปเทปให้เร็วขึ้นอีก 2 วินาที จากเดิม 11 วินาที ซึ่งเป็นเทปหุ่นยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ในขณะที่ประสิทธิภาพในการหยิบเทปแต่ละครั้งของคนต้องใช้เวลาถึง 300 วินาที นอกจากนี้ Timberline 9490 ยังเป็นเทปไดร์ฟที่อ่านและเขียนข้อมูลได้เร็วกว่าเทป 36-Track ทั่ว ๆ ไปทำให้ประหยัดเวลาในการอ่านและเขียนข้อมูลได้ถึง 48% ปัจจุบัน ธนาคารได้ปรับเปลี่ยนการจัดเก็บเอกสารไว้ในรูปแบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ตามนโยบาย "สำนักงานไร้กระดาษ" ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนในการพิมพ์และสามารถค้นหาข้อมูลในลักษณะ Index File ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งสามารถจัดเก็บข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพย้อนหลังได้ 3-10 ปี ธนาคารกสิกรไทย ได้พัฒนาและปรับปรุงศูนย์คอมพิวเตอร์ให้รุดหน้าไปพร้อมกับเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง สำหรับผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับปี ค.ศ.2000 ทางธนาคารได้มีการสำรองข้อมูลย้อนหลังไว้บนเทปเพิ่มขึ้น ประมาณ 30% โดยนำฐานข้อมูลส่วนหนึ่งบนดิสก์มาจัดเก็บในเทปหุ่นยนต์แทน เนื่องจากเทปหุ่นยนต์สามารถเรียกคืนข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพในความเร็วที่ใกล้เคียงกับดิสก์ แต่เสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า--จบ--

• ข่าวศูนย์คอมพิวเตอร์สำรอง
• ข่าวอภิชัย บุณยเกียรติ
• ข่าวธนาคารกสิกรไทย
• ข่าวธนาคารกสิกรไท
• ข่าวธนาคารพาณิชย์