กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์
โนเบิลฯ ขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ได้เข้าซื้อโครงการย่าน ลาดพร้าว เพิ่มอีก 1 โครงการ โดยจะพัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ มูลค่าโครงการกว่า 900 ล้านบาท หลังจากเพิ่งซื้อโครงการย่านปิ่นเกล้าไปมูลค่ากว่า 600 ล้านบาทเมื่อสองสัปดาห์ก่อน คาดว่าทั้ง 2 โครงการจะสามารถรับรู้รายได้ภายในปีนี้
บมจ. โนเบิล ดีเวอลลอปเมนท์ ขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ตอบรับกระแสบ้านเดี่ยวที่กำลังมาแรง และเพื่อเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นนักลงทุน ล่าสุดได้เข้าซื้อโครงการย่านลาดพร้าว เพิ่มอีก 1 โครงการ มูลค่าโครงการกว่า 900 ล้านบาท โดยจะพัฒนาโครงการเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ หลังจากเพิ่งซื้อโครงการย่านปิ่นเกล้าไปมูลค่ากว่า 600 ล้านบาทเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน คาดว่าทั้ง 2 โครงการจะสามารถรับรู้รายได้ภายในปีนี้ พร้อมทั้งวางแผนเตรียมจะเข้าซื้อโครงการบ้านเดี่ยวเพิ่มเติมอีก 5 โครงการในทำเลเด่น คิดเป็นมูลค่าขายหลังการพัฒนาโครงการทั้ง 7 โครงการกว่า 4,000 ล้านบาท
นายกิตติ ธนากิจอำนวย ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า โนเบิลฯ ได้ทำการขยายการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน และตอบรับกับกระแสการซื้อบ้านเดี่ยวที่กำลังมาแรง ภายหลังจากที่ บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการเข้าซื้อโครงการบ้านเดี่ยว ที่ตั้งอยู่ในย่านถนนปิ่นเกล้า มูลค่าขายหลังการพัฒนาโครงการกว่า 600 ล้านบาทไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ล่าสุด บริษัทฯ สามารถเข้าซื้อโครงการเพิ่มอีก 1 โครงการ ในบริเวณย่านลาดพร้าว มูลค่าขายหลังการพัฒนาโครงการกว่า 900 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 40 ไร่ โดยจะพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 97 หลังและทาวน์เฮาส์อีก 109 หลังทั้งนี้โครงการดังกล่าวตั้งอยู่ในทำเลย่านพักอาศัยที่มีศักยภาพ ติดกับทางด่วนเอกมัย รามอินทรา และห่างจากร้านอาหารบ้านต้นซุงเพียง 300 เมตรเท่านั้น ซึ่งนับได้ว่าเป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่อยู่ใกล้ใจกลางเมืองมากที่สุด โดยผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ระยะเวลาการเดินทางเพียง 5 นาทีจากย่านสุขุมวิทซอยทองหล่อ และจุดเด่นอีกประการหนึ่งของโครงการนี้ คือเป็นโครงการที่ได้มีการพัฒนาสาธารณูปโภคแล้วเสร็จ 100% สามารถที่จะพัฒนา เป็นสินค้าขายได้ทันที
และในส่วนของโครงการที่ตั้งอยู่ในย่านถนนปิ่นเกล้า ที่บริษัทฯ ได้ซื้อมาก่อนหน้านี้ 2 สัปดาห์นั้น เป็น โครงการบ้านเดี่ยว บนพื้นที่ 45 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 600 ล้านบาท มาเพื่อพัฒนาและทำการขายต่อ โดยโครงการ ดังกล่าว เป็นโครงการที่บริษัทฯ ได้ทำการซื้อมาในราคาที่สามารถทำให้บริษัทสามารถแข่งขันทางการตลาดได้เป็นอย่างดี คือประมาณ 40% ของราคาประเมินทางตลาด และโครงการได้ตั้งอยู่ในทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพ อีกทั้งได้มีการพัฒนาสาธารณูปโภคแล้วเสร็จ 100% โดยคาดว่าจะนำเสนอสู่ตลาดได้ในราวไตรมาส 3 ซึ่งขณะนี้ อยู่ในระหว่างการวางแผนงานทางด้านกลยุทธ์ทางการตลาด และดีไซน์แบบบ้านใหม่ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค และ บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากการพัฒนา โครงการทั้งที่ปิ่นเกล้าและ ลาดพร้าวที่ซื้อมา ล่าสุดนี้ ภายในปีนี้เช่นกัน
นายกิตติ กล่าวต่อไปว่า "สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงครึ่งปีหลังนั้น บริษัทฯ จะยังคงใช้กลยุทธ์หลัก คือ การเข้าช่วยเหลือระบบเศรษฐกิจโดยการซื้อโครงการหนี้เสียจากสถาบันการเงิน โดยบริษัทฯ จะมองหาโครงการที่อยู่ในทำเลที่น่าสนใจเพื่อนำมาพัฒนาต่อ ซึ่งจะเน้นโครงการบ้านเดี่ยว ที่กำลังเป็นที่นิยมของตลาดในปัจจุบัน โดยที่บริษัทฯ เองก็มีความชำนาญ และประสบความสำเร็จ ในการพัฒนาโครงการแนวราบของบริษัทฯ มาแล้วกว่าพันหลัง ในหลายโครงการ อาทิ โนเบิลพาร์ค, โนเบิลโฮม, โนเบิล นีโอ ซิตี้, เดอะโนเบิล, โนเบิล ช้อยส์ ทั้ง ปิ่นเกล้า และ วิภาวดี เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เตรียมเข้าซื้อโครงการบ้านเดี่ยวเพิ่มเติมอีก 5 โครงการ ซึ่งทั้งหมดเป็นโครงการในเขตกรุงเทพฯ นับเป็นมูลค่าขายหลังการพัฒนาโครงการทั้งสิ้นกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ ได้มีการตกลงกับผู้จะขาย และได้มีการจัดเตรียมหาแหล่งเงินทุนไว้สำหรับเพื่อเข้าซื้อโครงการต่าง ๆ ดังกล่าวนี้เรียบร้อยแล้ว นอกจากความคืบหน้าในการเข้าลงทุนในโครงการใหม่ ๆ ที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ บริษัทฯ ยังได้ปิดการขายโครงการโนเบิลร่วมฤดี และชำระเงินกู้ยืมคืนให้แก่สถาบันการเงินที่สนับสนุนโครงการคือ ธนาคารดีบีเอส ไทยทนุ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทำให้ทางธนาคารมีความพอใจในการให้สินเชื่อแก่โครงการของโนเบิลเป็นอย่างมาก"
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:
จิดาภา ประมวลทรัพย์, ดวงนภารัตน์ ศรีเผ่าพันธ์
บริษัท สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด
โทร. 0-2693-7835-8, 0-1817- 7153, 0-1423-0355
E-mail address:
[email protected] จบ--
-อน-