ปลัดกทม.เปิดโครงการ “เปิดโลกการเรียนรู้สู่เด็กไทย ครั้งที่ 3” พัฒนาศักยภาพเยาวชนไทย

กรุงเทพฯ--24 พ.ค.--กทม. เมื่อวันที่ 22 พ.ค.45 เวลา 10.00 น. ที่อาร์ตแกลลอรี่ ชั้น 2 อาคารเมอร์คิวรี่ ทาวเวอร์ ถ.เพลินจิต เขตปทุมวัน ร.ต.ต. เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดโครงการ “บรีส เปิดโลกการเรียนรู้สู่เด็กไทย ครั้งที่ 3” โดยมี นางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการอำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือน บริษัทยูนิลีเวอร์ ไทยโฮลดิ้งส์ จำกัด นายจำนงฤทธิ์ แย้มกลีบ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี นางวรรณิภา กล่าวว่า บริษัทยูนิลีเวอร์ ไทยโฮลดิ้งส์ จำกัด จัดโครงการ “บรีส เปิดโลกการเรียนรู้สู่เด็กไทย” ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อมอบโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองให้เป็นทางเลือกใหม่สำหรับเยาวชนไทย ตลอดจนสนับสนุนแนวทางใหม่ในการพัฒนาเยาวชนโดยผ่านการเรียนรู้ด้วยตนเอง คำแนะนำจากผู้ปกครอง และคนรอบรู้ สำหรับปีนี้นับเป็นปีที่ 3 ที่ทางบริษัทฯ ได้จัดโครงการดังกล่าวและจัดประกวดผลงานศิลปะที่สร้างสรรค์จากบรรจุภัณฑ์ บรีส ขึ้น เนื่องจากทางบริษัทฯ เชื่อมั่นว่า การเรียนรู้ไม่ควรถูกจำกัดอยู่เฉพาะในห้องเรียนเท่านั้น เยาวชนทุกคนควรจะได้รับโอกาสและการส่งเสริมให้รักการเรียน ใฝ่หาความรู้ และ เพิ่มพูนประสบการณ์จากสิ่งรอบตัวและกิจกรรมนอกห้องเรียน เพื่อการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพและสนุกสนานไปพร้อมกัน ซึ่งการประกวดผลงานศิลปะในครั้งนี้จะเป็นการประกวดผลงานศิลปะประเภท คอลเลจ (Collage) หรือภาพปะติด โดยนำบรรจุภัณฑ์ของบรีสชนิดและประเภทต่าง ๆ มาใช้สร้างสรรค์ผลงานในหัวข้อ “ unforgetable learning ” หรือ การเรียนรู้ที่ไม่รู้ลืม สำหรับการประกวดแบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา โดยเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 1 พ.ค.-15 มิ.ย.45 จากนั้นประกวดเพื่อคัดเลือกตัวแทนในแต่ละภาคระหว่าง 13 ก.ค.- 6 ต.ค.45 และในรอบสุดท้ายซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 27 ต.ค.45 โดยทีมที่เข้ารอบทั้งหมดจะนำผลงานมาประกวด เพื่อชิงรางวัลชนะเลิศระดับประเทศต่อไป ทั้งนี้ทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศและรองชนะเลิศจะได้รับคอมพิวเตอร์พร้อมพริ้นเตอร์ รวมมูลค่า 7 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนในด้านการศึกษา ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า โครงการที่ทางบริษัทยูนิลีเวอร์ ไทยโฮลดิ้งส์ จำกัด จัดขึ้นในครั้งนี้ นับว่าเป็นประโยชน์ต่อ เยาวชนไทย ซึ่งจะได้มีโอกาสพัฒนาความรู้ จินตนาการและการพัฒนาศักยภาพของตนเอง โดยใช้ศิลปะเป็นสื่อในการสนับสนุนการ พัฒนาศักยภาพ เพราะศิลปะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยพัฒนาคนได้ทั้งทางร่างกาย จิตใจและอารมณ์ ซึ่งสามารถยกระดับจิตใจให้มีความละเอียดอ่อน รู้จักการสังเกต เสริมสร้างจินตนาการ และการใช้ความคิดอย่างมีเหตุผล มีสมาธิ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยให้เยาวชนพัฒนาตนเองได้อย่างเต็มที่ในทุก ๆ ด้าน ซึ่งนอกจากประโยชน์ที่เยาวชนจะได้รับแล้ว ตนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ภาคเอกชนและภาครัฐได้ร่วมมือกันในการจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์เพื่อเยาวชนของชาติ โดยไม่ปล่อยให้เป็นภาระของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการพัฒนาสังคม และขอให้การดำเนินการโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ตั้งไว้--จบ-- -นห-

• ข่าวเกรียงศักดิ์ โลหะชาละ
• ข่าวจำนงฤทธิ์ แย้มกลีบ
• ข่าวบริษัทยูนิลีเวอร์
• ข่าววรรณิภา ภักดีบุตร
• ข่าวกรุงเทพมหานคร