30 ชุมชนในเขตกรุงเทพมหานครนำร่องโครงการชุมชนสัมพันธ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคเอดส์

กรุงเทพฯ--11 ธ.ค.--กทม. ที่โรงแรมเรดิสัน เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.45 เวลา 09.00 น. น.พ.ประพันธ์ กิติสิน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมชี้แจง และวางแผนดำเนินงานโครงการชุมชนสัมพันธ์ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์และยาเสพติดแบบยั่งยืน โดยมี น.พ.อุดมศักดิ์ สังฆ์คุ้ม รองปลัดกรุงเทพมหานคร ดร.วิลเลี่ยน เลวีน ผู้ช่วยผู้อำนวยการโครงการเอดส์แห่งโลก (GAP - Thailand) น.พ.วันชาติ ศุภจัตุรัส ผู้ประสานเครือข่ายระหว่างกรุงเทพมหานครกับ Global AIDS Program พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุม รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า โครงการชุมชุนสัมพันธ์เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์และยาเสพติดแบบยั่งยืน เป็นโครงการนำร่องที่ดำเนินการในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานครโดยสำนักอนามัยและสำนักการแพทย์ โครงการเอดส์ศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วิทยาลัยประชากรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และองค์กรชุมชน โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานจาก องค์กร TUC: Thailand U.S. CDC Collaboration (องค์กรความร่วมมือระหว่างไทย - สหรัฐ ด้านสาธารณสุข) วัตถุประสงค์หลักของโครงการ คือ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ให้เกิดความตระหนัก ยอมรับ ตลอดจนสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์และยาเสพติดได้ , เพื่อให้ชุมชนมีกิจกรรมการป้องกันและแก้ไข รวมถึงการดูแลผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยเอดส์และผู้ติดยาเสพติด ซึ่งดำเนินการโดยชุมชนเอง อีกทั้งเพื่อพัฒนารูปแบบและนโยบายในการกระตุ้นชุมชนให้มีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์และยาเสพติดกันมากขึ้น พร้อมใช้เป็นต้นแบบในการนำไปขยายผลให้กับชุมชนอื่น ๆ ต่อไป การดำเนินงานนั้นจะนำร่องใน 30 ชุมชน 5 พื้นที่เขต ดังนี้ เขตคลองสาน 4 ชุมชน เขตลาดกระบัง 10 ชุมชน เขตหนองจอก 5 ชุมชน เขตหนองแขม 4 ชุมชน และเขตบางแค 7 ชุมชน โดยมีระยะเวลาดำเนินงานในโครงการ 2 ปี ตั้งแต่เดือน ต.ค. 45 - ก.ย.47 สำหรับรูปแบบในการดำเนินงานจะให้เทคนิค A-I-C เพื่อกระตุ้น และเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนให้สามารถค้นหารูปแบบและวิธีดำเนินกิจกรรมแก้ไขปัญหาเอดส์และยาเสพติดที่สอดคล้องกับสภาพปัญหาของแต่ละชุมชน รวมทั้งสามารถตอบสนองความต้องการของชุมชนได้อย่างเหมาะสม ควบคู่กับกระบวนการ PRA (Participatory Rural Approach) โดยในขั้นแรกจะอบรมเทคนิคดังกล่าวให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ผู้แทนจากสำนักงานเขต องค์กรเอกชน และผู้แทนชุมชนในพื้นที่ ซึ่งคนกลุ่มนี้จะเป็นผู้ไปดำเนินกิจกรรมต่อในชุมชน ร่วมกับหน่วยประสานงานกลาง จากสำนักอนามัยและสำนักการแพทย์ นอกจากนี้จะมีการประเมินผลการดำเนินงานเป็นระยะ ๆ รวมทั้งมีการสรุปบทเรียนของการดำเนินงานเมื่อสิ้นสุดโครงการ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า นับเป็นนิมิตหมายอันดีที่โครงการนี้สามารถดำเนินการได้ทันภายในปีนี้ เนื่องจากปัญหาเอสด์และยาเสพติดโดยเฉพาะในชุมชนเมือง เป็นปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไขป้องกันอย่างเร่งด่วน และการที่จะแก้ไขป้องกันให้ได้ผลนั้น จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากคนในชุมชน ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เป็นสำคัญ โดยเฉพาะชุมชนในกรุงเทพมหานคร มีจำนวนมากกว่า 1,600 แห่ง หากคนในชุมชนไม่ช่วยกันดูแลปัญหาเหล่านี้แล้ว ก็ยากที่กรุงเทพมหานครจะสามารถจัดหาเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลได้อย่างทั่วถึง สิ่งที่น่าสนใจของโครงการนี้ คือ การนำเอาเทคนิค A-I-C เข้าไปดึงการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อให้คนในชุมชนช่วยกันคิด ช่วยกันทำ และช่วยกันแก้ไขปัญหาของชุมชนด้วยวิถีทางของชุมชนเอง ซึ่งไม่เฉพาะแต่การแก้ไขปัญหาเอดส์และยาเสพติดเท่านั้น แต่จะมีประโยชน์ต่อชุมชนที่สามารถจัดการและแก้ไขปัญหาอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นด้วยตัวของชุมชนอย่างได้ผลและยั่งยืน--จบ-- -นห-

• ข่าวผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
• ข่าวอุดมศักดิ์ สังฆ์คุ้ม
• ข่าววันชาติ ศุภจัตุรัส
• ข่าวประพันธ์ กิติสิน
• ข่าวกรุงเทพมหานคร