กทม.และกระทรวงแรงงาน ลงนามความร่วมมือสร้างผู้ประกอบการค้าขายผัดไทย

กรุงเทพฯ--21 ก.พ.--กทม. ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง เมื่อวันที่ 19 ก.พ.46 เวลา 16.30 น. ที่ผ่านมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมลงนามบันทึกความ ร่วมมือในโครงการสร้างผู้ประกอบการค้าขายผัดไทย ระหว่างกระทรวงแรงงานและกรุงเทพมหานคร โดยมีนายชัยสิทธิ์ ภูวภิรมย์ขวัญ เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางณฐนนท ทวีสิน ปลัดกรุงเทพมหานคร นายอภัย จันทนะจุลกะ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายนิคม ไวยรัชพานิช ผู้อำนวยการสำนักสวัสดิการสังคม นางผ่องลักษณ์ วาสิกศิริ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาชุมชน นายสมภพ ระงับทุกข์ รองผู้อำนวยการสำนักพัฒนาชุมชน นายพิชัย พิชญเดชะ ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ กทม. และผู้เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งประชาชนร่วมงานกว่า 800 คน ทั้งนี้ภายหลังการลงนามฯ ปลัดกรุงเทพมหานครได้มอบของที่ระลึกให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และผู้ว่าฯกทม. ซึ่งเป็นตะหลิวทองคำเพื่อนำไปร่วมโชว์ฝีมือการปรุงผัดไทยในกะทะเดียวกัน นายสุวัจน์ กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน มีนโยบายที่จะสนับสนุนการฝึกอาชีพหลักตามสูตรภูมิปัญญาไทยให้กับประชาชน เพราะคนไทยมีความอดทน ขยัน อ่อนน้อม ยิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งสามารถนำมาเป็นจุดขายในสาขาอาชีพที่เป็นเอกลักษณ์ไทยหรือภูมิปัญญาไทย เช่น อาหารประจำชาติ นวดแผนไทย เป็นต้น สำหรับอาหารผัดไทยเป็นอาหารที่ชาวต่างชาติชื่นชอบ หากนำมาพัฒนาสูตรการปรุงก็จะทำให้รสชาดดียิ่งขึ้น ซึ่งตนได้สนับสนุนเรื่องของผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) อีกทั้งได้มีการให้บริการเงินกู้จากธนาคารออมสิน จึงได้เกิดโครงการนี้ขึ้นมา นายสุวัจน์ กล่าวต่อไปว่า ในวันนี้นอกจากการลงนามความร่วมมือโครงการสร้างผู้ประกอบการค้าขายผัดไทย สนับสนุนการฝึกอาชีพหลักสูตรภูมิปัญญาไทยแล้ว ยังมีการโชว์ฝีมือปรุงผัดไทยสูตร 2 ส. ระหว่างนายสมัคร และตน ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ชิมพร้อมทั้งมีการเปิดโครงการนำร่องฝึกอบรมการทำผัดไทยและการประกอบธุรกิจค้าขายผัดไทย รุ่นแรกจำนวน 50 คน จากตัวแทนเขต 50 เขตของกทม. โดยทางเขตได้รับสมัครและคัดเลือกตั้งแต่วันที่ 6-14 ก.พ.ที่ผ่านมา สำหรับผู้ผ่านการอบรมจะได้รับสิทธิใช้ตราสัญลักษณ์ ชื่อร้านและสโลแกนว่า "ผัดไทย 2 ส. อร่อย สะอาด 20 บาท ก็อิ่มได้" นอกจากนี้ธนาคารออมสินจะให้บริการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้เข้ารับการอบรมเพื่อไปลงทุนเริ่มต้นทุกรายด้วย ซึ่งผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าโครงการ ทางกทม.จะจัดพื้นที่สำหรับค้าขายไว้ให้ด้วย และในวันที่ 10 มี.ค.46 ผู้ผ่านการฝึกรุ่นแรก 50 คน จะมาแข่งขันปรุงผัดไทยชิงเงินรางวัลและรถเข็น โดยผู้ชนะที่ 1 จะได้รางวัลเงินทุน 10,000 บาท พร้อมรถเข็นและป้าย รางวัลที่ 2 และ 3 จำนวน 5,000 และ 3,000 บาท ตามลำดับ พร้อมรถเข็น ส่วนรางวัลชมเชย 7 รางวัล จะได้รับรางวัลเป็นเงินสดอย่างเดียว รางวัลละ 5,000 บาท ด้านนายสมัคร กล่าวว่า ปัจจุบันผัดไทยกลายเป็นอาหารนานาชาติ และเป็นอาหารที่มีชื่อเสียง อาหารผัดไทยจึงเป็นโอกาสในการสร้างงานให้กับคนไทยและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการดีๆ อย่างนี้คงจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต นอกจากนี้ตนขอแนะนำอาหารอีกชนิดหนึ่ง คือ ขนมจีนซาวน้ำ ซึ่งเป็นอาหารที่น่าสนับสนุน ต่อจากผัดไทยมาก--จบ-- -นห-

• ข่าวผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
• ข่าวชัยสิทธิ์ ภูวภิรมย์ขวัญ
• ข่าวสุวัจน์ ลิปตพัลลภ
• ข่าวการกระทรวงแรงงาน
• ข่าวลงนามความร่วมมือ