เอไอเอสประกาศความพร้อม ในการพัฒนาระบบ C-Care Smart System เฟส 2 เดินหน้าให้บริการลูกค้าองค์กรทั้งหมดกลางเดือนมีนาคมนี้

กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--เอไอเอส เอไอเอสพัฒนาระบบปฏิบัติการด้านบริการ C-Care Smart System สำเร็จอีกขั้น ประกาศ ความพร้อมใช้ระบบใหม่ในการให้บริการกลุ่มลูกค้าองค์กรทั้งหมดกลางเดือนมีนาคมนี้ ทั้งในด้านระบบการจัดเก็บเงิน (Billing) และระบบงานบริหารลูกค้า (CRM) พร้อมพัฒนาต่อเนื่องสำหรับเฟสสุดท้ายในเดือนสิงหาคมนี้แน่นอน นางอาภัททรา ศฤงคารินกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส เปิดเผยว่า "เราได้พัฒนาระบบปฏิบัติการด้านการบริการ หรือ C-Care Smart System มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2545 เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการที่เหนือระดับในรูปแบบต่างๆให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า และได้เริ่มให้บริการเฟสแรกเมื่อเดือนกันยายนในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมของระบบ, เทคโนโลยี และบุคลากรในการ เริ่มใช้ระบบปฏิบัติการใหม่นั้น สำหรับกลางเดือนมีนาคมนี้ ระบบ C-Care ได้พัฒนามาถึงเฟสที่ 2 ตาม ช่วงเวลาที่เราได้กำหนดไว้ ทำให้เอไอเอสมีความพร้อมในการใช้ระบบปฏิบัติการดังกล่าว เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าองค์กรทั้งหมดของเอไอเอส " การให้บริการด้วยระบบปฏิบัติการ C-Care ในเฟสที่ 2 นี้ เอไอเอสจะให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าองค์กรทั้งหมดของเอไอเอส ซึ่งมีจำนวนประมาณ 2,000 ราย โดยลูกค้าองค์กรของเอไอเอสจะได้รับบริการที่มี ประสิทธิภาพและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นในทุกด้าน ประกอบด้วย - ระบบการจัดเก็บเงิน (Billing) ที่สามารถออกแบบให้มีความเหมาะสมสำหรับแต่ละองค์กรได้ โดยลูกค้าสามารถเลือกรูปแบบใบแจ้งค่าบริการ, แยกหรือรวมใบแจ้งค่าบริการของแผนกต่างๆ ในบริษัท, การกำหนดเลขหมาย เวลาในการใช้งาน และวงเงินค่าใช้จ่ายแยกส่วนบุคคลและบริษัทได้ อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบยอดค่าใช้บริการระหว่างเดือน (Interim Bill) ได้อีกด้วย - ระบบการดูแลลูกค้า (Customer Relationship Management) ซึ่งนอกจากลูกค้าองค์กรจะได้ใช้บริการ Corporate Contact Center ที่มีความทันสมัยในระดับมาตรฐานโลกและเป็นที่หนึ่งของประเทศแล้ว ยังจะสามารถเลือกใช้บริการที่มีความหลากหลาย เหมาะสม และสอดคล้องกับการใช้งานตามนโยบายของแต่ละองค์กรด้วย นอกจากนี้ ระบบ C-Care ยังช่วยให้การบริหารความสัมพันธ์ของคู่ค้า (DRM- Dealer Relationship Management) ของเอไอเอส พัฒนาสู่มาตรฐานสากลด้วยเช่นกัน โดยระบบ C-Care จะสนับสนุนการทำงานของ Dealer Contact Center ที่จะเป็นศูนย์รวมของการให้บริการคู่ค้า และสามารถให้บริการได้จากสำนักงานบริการของเอไอเอสทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อ ทำให้การประสานงานการติดตามและแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างรวดเร็วและถูกต้องตามมาตรฐานที่กำหนด "ระบบ C-Care ของเอไอเอสในวันนี้ เป็นพัฒนาการอีกขั้นหนึ่งของระบบปฏิบัติการด้านบริการ ซึ่งความสำเร็จในขั้นเตรียมความพร้อมของการใช้ระบบ C-Care ในเฟสแรก เป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้เราสามารถพัฒนาระบบดังกล่าวมาจนกระทั่งสามารถให้บริการกับกลุ่มลูกค้าองค์กรทั้งหมดได้สำเร็จ และยังเริ่มให้บริการแก่กลุ่มลูกค้ารายย่อยบางส่วน เพื่อเตรียมความพร้อมในการให้บริการลูกค้าด้วยระบบ C-Care ที่ครบสมบูรณ์แบบในเดือนสิงหาคมนี้อีกด้วย" นางอาภัททรา กล่าว เกี่ยวกับ C-Care Smart System C-Care คือระบบปฏิบัติการด้านบริการที่มีความทันสมัยที่สุด โดยมีความพร้อมที่จะตอบสนองความต้องการใช้งานของผู้ใช้บริการที่แตกต่างและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตาม Lifestyle และ แต่ละ Segment ได้อย่างคล่องตัว โดย C-Care จะเข้ามามีบทบาทเกี่ยวข้องกับส่วนงานหลักๆประกอบด้วย - ระบบจัดเก็บเงิน (Billing System) ใช้ Software "GENEVA" - ระบบการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (Customer/Dealer Relationship Management) ใช้ Software จาก Siebel - ระบบการกลั่นกรองข้อมูลการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่จากชุมสาย (Mediation Device) ใช้ Software จาก Comptel โดยคัดเลือกให้บริษัทเอคเซนเชอร์ ที่เป็นบริษัทที่ดำเนินการและให้คำปรึกษาด้านการจัดการและวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศชั้นนำอันดับหนึ่งของโลก เป็นผู้เชื่อมโยงทั้ง 3 ระบบดังกล่าว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สำนักประชาสัมพันธ์ เอไอเอส โทร. 0-2299-5831--จบ-- -ศน-

• ข่าวแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส
• ข่าวอาภัททรา ศฤงคารินกุล
• ข่าวเทคโนโลยีสารสนเทศ
• ข่าวแอดวานซ์ อินโฟร์
• ข่าวระบบปฏิบัติการ