กทม.ร่วมกับภาคเอกชน จัดสร้างศูนย์การเรียนรู้สำหรับเด็กและครอบครัว

กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--กทม. ที่พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร เขตจตุจักร เมื่อวานนี้ (17 ธ.ค.46) เวลา 10.00 น. นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย มร. เลโอ โอสเตอร์เวียร์ ประธานบริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ผู้แทนมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ร่วมแถลงข่าวโครงการ “ยูนิลีเวอร์ แฟมิลี่ เลิร์นนิ่ง เซ็นเตอร์” พร้อมทั้งร่วมลงนามความร่วมมือในการสร้างศูนย์การเรียนรู้สำหรับเด็กและครอบครัว”ยูนิลีเวอร์ แฟมิลี่ เลิร์นนิ่ง เซ็นเตอร์“ แห่งแรกของประเทศไทย โดยมี นายนิคม ไวยรัชพานิช ผู้อำนวยการสำนักสวัสดิการสังคม กทม. คณะผู้บริหารมูลนิธิพิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นสักขีพยาน โครงการสร้างศูนย์การเรียนรู้สำหรับเด็กและครอบครัว “ยูนิลีเวอร์ แฟมิลี่ เลิร์นนิ่ง เซ็นเตอร์” บริษัทยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ร่วมกับ มูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ กรุงเทพมหานคร และมูลนิธิพิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาส ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จะทรงเจริญพระชนมายุ 72 พรรษา ในปี 2547 ซึ่งการดำเนินการก่อสร้างโครงการนั้น ทางบริษัทฯจะจัดสร้างในพื้นที่ต่อเนื่องกับพิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร โดยใช้งบประมาณกว่า 50 ล้านบาท ในการก่อสร้างอาคารและชุดนิทรรศการในพื้นที่ทั้งหมด 2,410 ตารางเมตร ให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้สำหรับเด็กเล็กแห่งแรกของประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการพัฒนาการของเด็กเล็ก เด็กวัยหัดเดิน และเด็กก่อนวัยเรียน โดยมีการออกแบบอย่างรอบคอบเน้นการสร้าง “ฟ้าใต้ฟ้า” พื้นที่ส่วนใหญ่เปิดโล่งรับอากาศธรรมชาติ รวมทั้งเน้นการอนุรักษ์พลังงาน และสัมผัสกับธรรมชาติมากที่สุด เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาการของเด็กแต่ละวัย สำหรับการกำหนดพื้นที่นิทรรศการและกิจกรรมจะมีการแบ่งออกเป็นส่วน ๆ ตามวัยและพัฒนาการของเด็ก ได้แก่ เด็กเล็กวัย 6 เดือน ถึง 1 ปี 6 เดือน เน้นการเรียนรู้จากการสัมผัส โดยจัดพื้นที่ด้วยวัสดุนิ่มและมีผิวสัมผัสหลากหลาย เด็กวัย 1 ปี 6 เดือน ถึง 3 ปี เน้นการพัฒนากล้ามเนื้อเล็กและใหญ่ เรื่องสี การนับ โดยตกแต่งพื้นที่เป็นสนามเด็กเล่นของเมือง ซึ่งผู้ปกครองสามารถสังเกตการณ์ได้อย่างใกล้ชิด เด็กวัย 4 ปี ถึง 6 ปี เน้นการพัฒนาทางสังคม ส่งเสริมการเรียนรู้บทบาททางสังคม โดยจัดพื้นที่เป็นเมืองจำลองกิจกรรม เช่น ร้านขายของ โรงเรียน คลินิก ร้านทำผม เป็นต้น พื้นที่สำหรับครอบครัวและวัยรุ่น ส่งเสริมกิจกรรมงานอดิเรกที่ครอบครัวทำร่วมกันได้ เช่น งานปั้น งานไม้ งานศิลปะ เป็นต้น และพื้นที่กิจกรรมกึ่งกลางแจ้ง โดยจัดเครื่องเล่นสนามสำหรับเด็กโต เครื่องเล่น เครื่องร่อน และส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติของน้ำ เป็นต้น รวมทั้งสนับสนุนให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ของบุตรหลาน การตกแต่งภายในเน้นการสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต พัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน อันจะนำไปสู่การสร้างสังคมและครอบครัวที่เข้มแข็ง พร้อมทั้งสนับสนุนคนรุ่นใหม่ให้ก้าวหน้าต่อไป ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณปลายปี 47 ซึ่งภายหลังการดำเนินการสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วทางบริษัทฯ จะมอบให้กรุงเทพมหานครเป็นผู้ดูแลโครงการต่อไป ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การพัฒนาบุคคลเป็นเรื่องสำคัญและต้องเริ่มต้นตั้งแต่วัยเด็ก เพื่อปลูกฝังนิสัยรักการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาทางร่างกายสำหรับเด็กอ่อนและเด็กวัยหัดเดิน นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น ศูนย์การเรียนรู้สำหรับเด็กและครอบครัวนี้ นอกจากจะเป็นที่เรียนรู้สำหรับเด็กแล้วยังสามารถเป็นพื้นที่ในการสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่าโครงการนี้จะสามารถสร้างคุณค่าให้แก่คนรุ่นใหม่และประชาชนต่อไป--จบ-- -นห-

• ข่าวสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ
• ข่าวสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ
• ข่าวสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
• ข่าวผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
• ข่าวยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง