ปีงบประมาณ 2546 ไทยผลิตยิปซัมได้ 6.8 ล้านเมตริกตัน มูลค่า 8,397 ล้านบาท

กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ นายอนุสรณ์ เนื่องผลมาก อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทวงอุตสาหกรรม แถลงผลการศึกษาการใช้ประโยชน์ยิปซัมในประเทศว่า ในปีงบประมาณ 2546 ประเทศไทยผลิตยิปซัมได้ประมาณ 6.8 ล้านเมตริกตัน มีมูลค่าในรูปแร่ดิบประมาณ 3,261 ล้านบาท และสร้างมูลค่ารวมได้ประมาณ 8,397 ล้านบาท โดยแยกเป็นยิปซัมที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบทางอุตสาหกรรมในประเทศปริมาณ 2.0 ล้านเมตริกตัน ซึ่งสร้างมูลค่าเพิ่มได้ประมาณ 6,143 ล้านบาท และส่งออกในรูปแร่ดิบปริมาณ 4.8 ล้านเมตริกตัน มูลค่าประมาณ 2,254 ล้านบาท การใช้ประโยชน์ยิปซัมในประเทศไทยส่วนใหญ่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตปูนซิเมนต์ประมาณ 1.24 ล้านเมตริกตัน หรือร้อยละ 62 ของแร่ยิปซัมที่ใช้ในประเทศทั้งหมด ใช้ในการผลิตยิปซัมบอร์ดประมาณ 0.56 ล้านเมตริกตัน หรือร้อยละ 28 ส่วนที่เหลือประมาณ 0.20 ล้านเมตริกตัน หรือร้อยละ 10 ใช้ในการผลิตสี ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และสินค้าอื่นๆ เมื่อเปรียบเทียบมูลค่าเพิ่มจากการนำยิปซัมไปใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องพบว่า การใช้ยิปซัมในการผลิตปูนซิเมนต์พอร์ตแลนด์จะให้มูลค่าขั้นสุดท้ายประมาณ 2,062 บาทต่อเมตริกตัน และการใช้ยิปซัมในการผลิตยิปซัมบอร์ดจะให้มูลค่าขั้นสุดท้ายประมาณ 6,094 บาทต่อเมตริกตัน ในขณะที่การส่งออกยิปซัมในรูปแร่ดิบมีราคาเฉลี่ยเพียงเมตริกตันละ 496 บาท ซึ่งพบว่าการใช้ยิปซัมในการผลิตปูนซิเมนต์ทำให้มีมูลค่าการส่งออกในรูปแร่ดิบประมาณ 3 เท่า และหากใช้ในการผลิตยิปซัมบอร์ดจะทำให้มีมูลค่าสูงกว่าการส่งออกในรูปแร่ดิบถึง 11 เท่า จากผลการศึกษาดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ประเทศไทยมีการใช้ประโยชน์แร่ยิปซัมที่ผลิตขึ้นเพียงร้อยละ 29 ของปริมาณการผลิตแร่ยิปซัมทั้งหมด แต่ส่งออกในรูปแร่ดิบถึงร้อยละ 71 นับว่ามีการใช้ยิปซัมในประเทศในสัดส่วนที่ต่ำกว่ามาก ทั้งๆ ที่การนำแร่ยิปซัมไปผ่านกระบวนการอุตสาหกรรมจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้สูงกว่าการส่งออกแบบแร่ดิบหลายเท่า ดังนั้น กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่จึงมีนโยบายส่งเสริมให้มีการพัฒนาการใช้แร่ยิปซัมเพื่อใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้แร่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงขึ้น แหล่งแร่ยิปซัมของประเทศไทยที่สำรวจพบแหล่งใหญ่อยู่ในบริเวณ 5 พื้นที่ของประเทศคือ บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ พิจิตร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และเลย และมีปริมาณสำรองประมาณ 200 ล้านเมตริกตัน มีมูลค่าประมาณ 9,400 ล้านบาท ปัจจุบันมีการทำเหมืองแร่ยิปซัม จำนวน 40 เหมือง ยิปซัมเป็นวัตถุดิบทางอุตสาหกรรมที่สำคัญชนิดหนึ่ง ซึ่งได้จากแหล่งแร่ตามธรรมชาติ และจากการสังเคราะห์ทางอุตสาหกรรม คือ ผลพลอยได้จากการดักจับก๊าซซัลเฟอร์ไซต์ในกระบวนการผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหิน ยิปซัมที่มีอยู่ตามธรรมชาติมีปริมาณจำกัด และเป็นทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไป รัฐจึงมีนโยบายที่จะควบคุมการส่งออกยิบซัมเพื่อสงวนวัตถุดิบที่เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ประเทศและให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจอย่างคุ้มค่า กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ จึงดำเนินการบริหารจัดการแร่ยิปซัมด้วยการควบคุมปริมาณและราคาส่งออก ส่งผลให้ระดับราคาส่งออกสูงขึ้น เป็นผลดีต่อผู้ส่งออกและทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ผู้สนใจต้องการข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อสอบถามได้ที่กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ สำนักอุตสาหกรรมพื้นฐาน กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระราม 6 แขวงพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์ 0-2202-3672-3 โทรสาร 0-2202-3606--จบ-- -วอ/รก-

• ข่าวกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่
• ข่าวกรมอุตสาหกรรมพื้นฐาน
• ข่าวอนุสรณ์ เนื่องผลมาก
• ข่าวกรมอุตสาหกรรม
• ข่าวผลการศึกษา