"ไฮนซ์" ส่งซอสสีเขียว และ สีส้ม "ไฮนซ์ พลัส" เสริมวิตามินเอ,ซี วางตลาดเมืองไทยครั้งแรก

กรุงเทพฯ--27 ต.ค.--เซเรบอส "ไฮนซ์" ส่งซอสสีเขียว และ สีส้ม "ไฮนซ์ พลัส" เสริมวิตามินเอ,ซี วางตลาดเมืองไทยครั้งแรก ด้วยกลยุทธ์จำกัดทั้งจำนวนและเวลาหลังทนเสียงเรียกร้องไม่ไหว เพื่อตอกย้ำแบรนด์เบอร์ 1 ของโลก "ไฮนซ์" ทำเก๋รับปิดเทอม นำซอสมะเขือเทศสีเขียว และ สีส้ม ทำตลาดเมืองไทยเป็นครั้งแรก ด้วยจุดแข็ง "ไฮนซ์ พลัส" เสริมวิตามินเอ และ ซี หลังทนเสียงเรียกร้องจากกลุ่มผู้บริโภคไม่ไหว เผยกลยุทธ์เด็ด ผลิตจำนวนจำกัด และขายเฉพาะช่วงปิดเทอมนี้เท่านั้น แนะผู้บริโภครีบลิ้มลองรสชาติที่แสนอร่อยของซอสมะเขือเทศสีเขียวและส้มก่อนใคร เผยหวังผลในแง่ของการตอกย้ำภาพผู้นำเบอร์ 1 ของโลก นายบุญส่ง สงวนวรพงศ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไฮนซ์ วินแชนซ์ จำกัด ผู้นำตลาดซอสมะเขือเทศเบอร์ 1 ของโลก เปิดเผยถึงนโยบายในการทำการตลาดของบริษัทว่า ไฮนซ์เล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ส่งซอสมะเขือเทศสีเขียว และ สีส้ม "ไฮนซ์พลัส" เสริมวิตามินเอ และ ซี วางตลาดเมืองไทยเป็นครั้งแรก โดยมีกลยุทธ์ในการทำตลาดคือการผลิตจำนวนจำกัด (LIMITED EDITION) และ ช่วงเวลาจำกัด คือวางขายเฉพาะช่วงปิดเทอมนี้เท่านั้น "เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทได้รับการเรียกร้องจากลูกค้าจำนวนมาก ที่สอบถามถึงซอสที่เสริมคุณค่าของวิตามินในรูปแบบสีสัน ประกอบกับจากการทดสอบกับกลุ่มเป้าหมาย ระหว่างที่ทำกิจกรรมส่งเสริมการขายตามโรงเรียนต่างๆ ในกรุงเทพฯ กว่า 100 โรงเรียน นั้นได้รับการตอบรับจากเด็กๆค่อนข้างดีมาก จึงตัดสินใจที่จะส่งซอสสีออกสู่ตลาดเมืองไทย อีกทั้งต้องการตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดซอสมะเขือเทศอันดับหนึ่งของโลก และเมืองไทยอีกด้วย ซอสมะเขือเทศไฮนซ์พลัส เสริมวิตามินเอ และซี สีเขียว และสีส้ม มีจุดเด่นที่แตกต่างจากซอสมะเขือเทศทั่วไป ด้วยสีสัน และแพคเกจจิ้งที่สวยงาม ทันสมัย โดดเด่น แต่ยังคงความอร่อย เข้มข้นสไตล์ไฮนซ์พลัสเช่นเดิม โดยกลุ่มเป้าหมายของไฮนซ์พลัส คือ พ่อแม่ที่มีลูกอายุ 4-10 ขวบ หรือที่กำลังเรียนในระดับอนุบาล ถึงประถมศึกษาปีที่ 4 ส่วนกลุ่มเป้าหมายรองคือ กลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มวัยรุ่นที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ที่มีชีวิตที่ทันสมัยและชอบทดลองของใหม่ ทั้งนี้บริษัทฯ ได้วางแผนในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะการเน้นการประชาสัมพันธ์ ณ จุดขาย และการสื่อสารที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลักโดยตรง นายบุญส่งกล่าวอีกว่า เหตุผลของการผลิตและจำหน่ายซอสมะเขือเทศสีเขียวและส้ม "ไฮนซ์พลัส" เสริมวิตามิน เอ และซี ในจำนวนและเวลาที่จำกัด เนื่องจากว่าจากประสบการณ์ที่ได้รับจากการเปิดตัวซอสมะเขือเทศสีเขียวในต่างประเทศนั้น ปรากฏว่าลูกค้าส่วนใหญ่มีความตื่นเต้นกับสีสันแปลกใหม่ในช่วงแรกเท่านั้น แต่หลังจากนั้นก็จะหันกลับมาใช้ซอสมะเขือเทศเหมือนเดิม ซึ่งการวางซอสสี "ไฮนซ์พลัส" ครั้งนี้ บริษัทฯ คาดหวังในแง่การตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดซอสมะเขือเทศมากกว่า โดยวางจำหน่ายขนาดเดียวเท่านั้นคือขนาด 300 กรัม ในราคาขายปลีก 21.50 บาท เน้นไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตในเขตหัวเมืองใหญ่เป็นหลัก "ด้านการแข่งขันของตลาดซอสมะเขือเทศในปัจจุบัน ลูกค้ายังคงคำนึงถึงคุณภาพ ราคาเป็นสำคัญ โดยเแบรนด์ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม และนำเสนอความแปลกใหม่ที่ถูกใจผู้บริโภค ก็ยังสามารถรักษาความเป็นผู้นำได้ ซึ่งปัจจุบันไฮนซ์ซอสมะเขือเทศครองความเป็นหนึ่งในตลาดซอสมะเขือเทศ ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 43% จากมูลค่าตลาดรวมที่มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องประมาณ 6-7 เปอร์เซ็นต์" นายบุญส่งกล่าวในท้ายสุด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร. 0-2332-6060 ต่อ 1125 และ 1135--จบ-- -นห-

• ข่าวซอสมะเขือเทศ
• ข่าวเมืองไทย
• ข่าวกรุงเทพฯ
• ข่าวเซเรบอส
• ข่าวปิดเทอม