"ไอที ซิตี้" และ "เล็กซ์มาร์ก" ประสบความสำเร็จด้วยยอดขายที่เติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้ากวาดส่วนแบ่งตลาด 17 เปอร์เซ็นต์ปีนี้ เชื่อเทคโนโลยีพรินเตอร์แบบออล-อิน-วัน ยังมาแรง ตอบสนองได้ครบทุกความต้องการ พร้อมมัดใจลูกค้าด้วยคุณภาพ ราคาเครื่อง และบริการหลังการขายที่รวดเร็วทันใจ
นายทนงค์ โรจนศักดิ์โสธร ผู้จัดการธุรกิจ บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้แทนจำหน่ายพรินเตอร์เล็กซ์มาร์กในไทย กล่าวถึงสภาพตลาดตลาดพรินเตอร์ของไทย ไตรมาสสองปี 2548 ว่า จากผลการวิจัยข้อมูลโดยบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ดาต้า คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด หรือไอดีซี ประมาณการณ์ว่ายอดขายของพรินเตอร์อิงค์เจ็ตในไทยปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 850,000 เครื่อง คิดเป็นอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 9 – 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และในส่วนของตลาดพรินเตอร์เลเซอร์แบบขาว-ดำ คาดว่าจะมียอดขายรวมประมาณ 120,000 เครื่อง
สำหรับการทำตลาดของพรินเตอร์เล็กซ์มาร์กในไทยปีที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จและเป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทที่ตั้งไว้ และในปีนี้เรายังคงเดินหน้ารุกตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ายอดขายของพรินเตอร์เล็กซ์มาร์กไว้ที่ประมาณ 145,000 เครื่อง หรือคิดเป็นส่วนแบ่งตลาดประมาณ 17 เปอร์เซ็นต์ จากยอดรวมพรินเตอร์ทั้งหมด
โดยปัจจัยหลักในการทำตลาดพรินเตอร์เล็กซ์มาร์กในปีนี้จะมุ่งเน้นไปที่พรินเตอร์แบบออล-อิน-วัน ซึ่งทางเล็กซ์มาร์กถือเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีพรินเตอร์แบบออล-อิน-วัน เพราะนำเข้ามาทำตลาดเป็นลำดับต้นๆ ในไทยตั้งแต่ปีที่แล้ว และคาดว่าในปีนี้แนวโน้มเทคโนโลยีพรินเตอร์แบบออล-อิน-วัน จะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะพรินเตอร์แบบออล-อิน-วัน ออกแบบมาให้สามารถรองรับความต้องการได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งพรินเตอร์ สแกนเนอร์ และเครื่องถ่ายเอกสาร ประหยัดพื้นที่ในการทำงาน เน้นความสะดวกในการใช้งานง่าย ไม่สลับซับซ้อน และราคาประหยัด ส่วนแนวโน้มของพรินเตอร์แบบเลเซอร์ จะเน้นไปที่ความเร็วในการพิมพ์ 20แผ่นต่อนาที และจะมีพรินเตอร์เลเซอร์ที่ราคาต่ำกว่า หนึ่งหมื่นบาทเข้ามาทำตลาดมากขึ้นในปีนี้
และประมาณเดือนมิถุนายนนี้ เล็กซ์มาร์กจะเปิดตัวพรินเตอร์แบบออล-อิน-วัน ประมาณ 7 รุ่น ที่รองรับตลาดโฮมยูส และเอสเอ็มบี (small-medium business) ทั้ง พร้อมทั้งเปิดตัวพรินเตอร์เลเซอร์สำหรับหน่วยงานราชการ และองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ด้วย ซึ่งพรินเตอร์ที่จะเปิดตัวกลางปีนี้ จะสามารถรองรับกลุ่มผู้ใช้งานตั้งแต่ผู้ใช้งานตามบ้าน (โฮมยูส) กลุ่มธุรกิจขนาดกลาง-เล็ก และกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ เช่น หน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา เป็นต้น
"ซึ่งทางผู้บริหารของเล็กซ์มาร์กนั้นให้ความสำคัญกับการทำตลาดในไทยเป็นอย่างมาก รวมทั้งยังมองเห็นถึงการเติบโตของตลาดไอทีและคอมพิวเตอร์ในไทยที่จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะว่าฐาน ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ของไทย เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐเมริกา หรือญี่ปุ่น นั้นยังถือว่าน้อยมาก มีจำนวนไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมดในประเทศ ดังนั้นจึงมั่นใจว่าแนวโน้มตลาดไอทีและคอมพิวเตอร์ของไทยจะยังเติบโตอย่างต่อเนื่องแน่นอน ซึ่งการเติบโตของตลาดพรินเตอร์ก็จะเป็นไปใน ทิศทางเดียวกับการเติบโตของตลาดคอมพิวเตอร์เช่นกัน" นายทนงค์กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
คุณบุษกร สนธิกร (นก)
บริษัท คอร์ แอนด์ พีค จำกัด
ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์
โทร. 0-2439-4600 ต่อ 8202
อีเมล์
[email protected]จบ--