บลจ.กสิกรไทย จัดงานสัมมนาใหญ่ประจำปี หัวข้อ “มองทิศทางเศรษฐกิจไทย และ การลงทุนในปี 2549” มุ่งเตรียมความพร้อมให้แก่นักลงทุน
กรุงเทพฯ--7 ต.ค.--นิโอ ทาร์เก็ต
บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด ผู้นำธุรกิจการบริหารจัดการการลงทุน
จัดงานสัมมนาใหญ่ หัวข้อ “มองทิศทางเศรษฐกิจไทย และ การลงทุนในปี 2549” โดยมี ผู้บริหารระดับสูงของ บลจ.กสิกรไทย และ ผู้บริหารจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ งานนี้จัดขึ้น ณ ห้องบอลรูม โรงแรมสวิสโฮเต็ล เลอ คองคอร์ด กรุงเทพฯ ในวันพุธที่ 5 ตุลาคม 2548 เวลา 13.00-16.00 น.
ดร.ปิยะสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานกรรมการ บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า การสัมมนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้กับนักลงทุนทั่วไปเกี่ยวกับสถานการณ์พลังงานของชาติ ทั้งน้ำมัน ไฟฟ้า และ น้ำ ที่เป็นตัวแปรสำคัญต่อเศรษฐกิจ และ การลงทุนโดยรวมของประเทศไทยในปี 2549 เพื่อให้ผู้ลงทุนไทยได้เตรียมความพร้อมในการวางแผนกลยุทธ์การลงทุนในปี 2549 ให้สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจ และสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีที่สุดจากการลงทุนให้แก่ตนเองได้ในอนาคต
วิทยากรในการสัมมนาครั้งนี้ ประกอบด้วย ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานกรรมการ บลจ.กสิกรไทย และ ประธานมูลนิธิสถาบันพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม และ นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยมี ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา เป็นผู้ดำเนินรายการ
“ในฐานะที่ บลจ.กสิกรไทย ได้รับความไว้วางใจจากผู้ลงทุนทั้งสถาบัน และ บุคคล ในการดูแลบริหารการลงทุนผ่านกองทุนประเภทต่างๆ ของบริษัทฯ มาโดยตลอด บริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงาน “สัมมนามองทิศทางเศรษฐกิจไทย และ การลงทุนในปี 2549” ครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุนในการวางแผนการลงทุนปีหน้า โดยใช้พื้นฐานของปัจจัยต่างๆ ทางเศรษฐกิจ รวมทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจโลก และ เศรษฐกิจไทย” ดร.ปิยสวัสดิ์ กล่าว
หน้า 1 / 2
การสัมมนานี้ยังให้ความสำคัญกับทิศทางการเลือกลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งถือเป็นหุ้นเด่นที่นักลงทุนให้ความสนใจมาโดยตลอดในปี 2548 ที่ผ่านมา ซึ่งงานสัมมนาครั้งนี้ผู้ลงทุนจะได้รับทราบมุมมอง และ แนวทางการเลือกลงทุนในตลาดหุ้นจากผู้เชี่ยวชาญการลงทุน
บลจ.กสิกรไทยได้จัดงานสัมมนาให้ความรู้ด้านเศรษฐกิจการลงทุนอย่างต่อเนื่องทุกๆ ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 โดยมุ่งหวังที่จะสร้างความรู้ ความเข้าใจ และ เปิดมุมมองด้านการลงทุนให้แก่นักลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การตัดสินใจในการลงทุนของผู้ลงทุนทุกท่านมีพร้อมและครบถ้วนด้วยข้อมูลด้านเศรษฐกิจทั้งจุลภาค และ มหาภาค
บลจ.กสิกรไทย ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการลงทุนจากกระทรวงการคลัง
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2535 ปัจจุบัน บลจ.กสิกรไทย มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 4 อันดับ ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), Merrill Lynch Investment Managers, บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด และบริษัท เมืองไทยโฮลดิ้ง จำกัด โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2548 บลจ.กสิกรไทยมีทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการ เท่ากับ 198,840.78 ล้านบาท (ที่มา : บลจ.กสิกรไทย)
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด
นฤพร ชีวนันทพรชัย / ลลินทิพย์ อมรสินทวี
โทร. 02 631 2290-5 / โทรสาร. 02 234 6192-3
E-mail : [email protected] / [email protected]จบ--
ข่าวปิยะสวัสดิ์ อัมระนันทน์+หลักทรัพย์จัดการกองทุนวันนี้
Thai ESGX 3 กองทุนใหม่ 3 แบบ 3 สไตล์ จาก BBLAM เลือกได้ตั้งแต่ Low Fee Low Beta ถึงลงทุนหุ้นเต็มที่เปิดโอกาสให้สุด
เสนอขายครั้งแรก 2-8 พฤษภาคม 2568 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM พร้อมเสนอขายกองทุน Thai ESGX ใหม่ จำนวน 3 กองทุน ซึ่งต่างก็มีสไตล์การลงทุนแตกต่างกัน โดยเริ่มจากกองทุนแรก "BMDIV-TESGX" เป็นแบบ Low Fee Low Beta มีปันผล ลงทุนหุ้นยั่งยืนไม่เกิน 70% ที่สำคัญ หุ้นที่เลือกมีสภาพคล่องและจ่ายเงินปันผล หรือมีความเคลื่อนไหวของราคาตาม SET Index ในระดับต่ำ และเก็บค่าธรรมเนียมต่ำสุดใน 3 กองทุน ส่วนกองทุนที่สอง "BM70-TESGX" เป็นแบบลงทุนหุ้นบริษัทเติบโต สถานะการเงินดี ไม่เกิน 70%