ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น ขยายฐานเดินหน้าบุกธุรกิจอนุรักษ์พลังงานเต็มตัว ล่าสุดขยายงานตั้งแผนกอนุรักษ์พลังงานขึ้นใหม่ ลงทุนเกือบ 30 ล้านบาท เพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการทำโครงการการประหยัดพลังงาน เตรียมบุกงานแรกทำ โครงการ SGI ให้เครือซิเมนต์ไทย มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท
นายพรเจริญ ธนานาถ รองกรรมการผู้จัดการ – ธุรกิจวิศวกรรม บริษัท ปิคนิคคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธุรกิจด้านวิศวกรรมของบริษัทเป็นอีกหนึ่งธุรกิจของปิคนิคฯที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสูง และมีจุดเด่นที่สำคัญ คือ การออกแบบก่อสร้างระบบวิศวกรรมต่างๆที่คำนึงถึงในเรื่องการอนุรักษ์พลังงานให้กับลูกค้า สำหรับแนวโน้มเรื่องการประหยัดพลังงานในปีนี้นั้น เห็นได้ว่าจากการที่ในปัจจุบันนี้ทั่วโลกกำลังอยู่ในภาวะก้าวสู่ช่วงของการประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซ โดยเฉพาะในประเทศไทย รัฐบาลกำลังมีมาตรการต่างๆในการรณรงค์การประหยัดพลังงานอย่างจริงจัง ดังนั้น เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายการประหยัดพลังงานของภาครัฐบาล เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ได้จัดตั้งฝ่ายอนุรักษ์พลังงาน (Energy Saving Department) ขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นในรูปแบบการจัดการด้านพลังงาน หรือ ESCO ( Energy Service Company) โดยในเบื้องต้นนี้ บริษัทจะลงทุนไม่เกิน 20 - 30 ล้านบาท ในด้านการจัดเตรียมบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องมือเฉพาะ โดยเริ่มดำเนินการในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
ทั้งนี้ หน่วยงานนี้มีภารกิจเป้าหมายในการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานและบริหารโครงการแทนผู้ประกอบการที่ต้องการลดการใช้พลังงานในบริษัท ไม่ว่าจะเป็นการจัดเตรียมด้านเอกสารต่างๆในการรายงานตรวจสอบและวิเคราะห์ค่าการใช้พลังงาน ,การจัดหาวัสดุอุปกรณ์ที่เหมาะสม,การจัดการด้านการลงทุน รูปแบบการลงทุนจะแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ บริษัทเป็นผู้ลงทุนให้ และลูกค้าเป็นผู้ลงทุนเอง สำหรับในด้านงบประมาณการลงทุนนั้น แบ่งเป็น 2 ขนาด คือ ระบบขนาดเล็กที่ใช้เงินลงทุนจำนวนไม่กี่ล้านบาทจนถึงระบบขนาดใหญ่ ที่มีความซับซ้อนและเทคโนโลยีสูง ต้องใช้เงินลงทุนหลายร้อยล้านบาท ซึ่งบริษัทจะนำผลการประหยัดพลังงานที่ได้ มาแบ่งคืนให้กับผู้ประกอบการ หรือบริษัท แล้วแต่ลักษณะการลงทุน โดยมีรูปแบบการให้บริการ 2 ลักษณะ คือ ด้าน Engineering Knowledge ซึ่งหมายถึง การใช้ความรู้ความสามารถทางด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีที่มีการพิสูจน์แล้ว สามารถนำมาใช้งานได้จริง มาช่วยในการให้บริการกับลูกค้าที่ต้องการประหยัดพลังงาน โดยยึดหลักระบบการจัดการ .การตรวจสอบค่าการใช้พลังงาน เป็นต้น และด้าน Energy Product คือการใช้อุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีในการประหยัดพลังงาน เช่น อุปกรณ์ควบคุมการทำงานของมอเตอร์ เป็นต้น และทั้ง 2 ส่วนจะมีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลควบคุม และนำความรู้พร้อมทั้งประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ และใช้ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทมีอยู่หรือผู้ร่วมลงทุนบริหารโครงการให้สามารถประหยัดพลังงานได้ 20 % จากเดิมที่มีอยู่
นายพรเจริญกล่าวต่อไปว่า โครงการแรกที่บริษัทดำเนินการ คือ โครงการของบริษัท สยามเซรามิคกรุ๊ป อินดัสทรี จำกัด (Siam Industries Group Co.Ltd.) ในเครือซิเมนต์ไทย ซึ่งเป็นโครงการที่เล็งเห็นถึงคุณค่าของการใช้พลังงานให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด โดยบริษัทได้ลงทุนระบบผลิตกระแสไฟฟ้าและความร้อนจากก๊าซธรรมชาติให้กับทาง SGI ฯ เพื่อใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมกระเบื้องเคลือบที่อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี โครงการนี้เป็นการลงทุนสัมปทานชนิด B.O.O.T. คือ Build,Own,Operate,Tranfer มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ซึ่งปิคนิคฯจะทำหน้าที่ออกแบบ ก่อสร้าง และติดตั้ง เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าและความร้อนจากก๊าซธรรมชาติเป็นระยะเวลา 15 ปี แล้วจึงส่งมอบเครื่องจักรและโรงผลิตให้ SGI “การลงทุนในลักษณะนี้ ทั้งผู้ลงทุนและเจ้าของโรงงานจะได้รับประโยชน์ร่วมกัน จากการซื้อก๊าซธรรมชาติในราคาพิเศษสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม สำหรับ Cogen ( Co Generation Plant คือ โรงไฟฟ้าผลิตพลังงานร่วม 2 ชนิด เช่น ผลิตไฟฟ้าร่วมกับพลังงานความร้อน เป็นต้น )เนื่องจากเป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุน เพื่อให้ใช้พลังงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยปกติโครงการลักษณะนี้จะมีระยะเวลาการคืนทุนประมาณ 3 -5 ปี ขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้ไฟฟ้าและความร้อน” นายพรเจริญกล่าว
อนึ่ง ธุรกิจด้านวิศวกรรมของบริษัท ประกอบด้วยขอบข่ายงานทางด้าน การบริหารจัดการด้านวิศวกรรม ได้แก่ งานออกแบบ งานก่อสร้าง โครงสร้าง และระบบประกอบอาคาร งานก่อสร้างโรงไฟฟ้า และสถานีย่อย พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ และงานด้านการลงทุนโรงผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานธรรมชาติ
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
คุณปณาลี และคุณวงจันทร์ โทร. 0 -2204 – 8211 และ 0-2204 - 8221--จบ--