ปภ.เตือน 42 จังหวัดได้รับผลกระทบจากดีเปรสชั่นถล่มเวียดนาม

กรมป้องกันฯ ประกาศเตือน ขณะนี้พายุดีเปรสชั่นกำลังแรง กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศ เวียดนาม ซึ่งจะทำให้ 42 จังหวัดในภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ เกิดภาวะฝนตกหนักถึงหนักมาก ในวันที่ 13 – 15 ก.ย. นี้ และอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ในระยะนี้ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ หากพบเหตุผิดปกติ สามารถแจ้งสายด่วน 1784 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง นายสุนทร ริ้วเหลือง อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กรมป้องกันฯ ได้ตรวจสอบสภาวะอากาศในขณะนี้ พบว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในทะเลจีนใต้ ได้เพิ่มกำลังแรงเป็นพายุดีเปรสชั่น อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเวียดนาม คาดการณ์ว่าพายุดังกล่าว จะมุ่งหน้ามาทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเล็กน้อย เข้าสู่ประเทศเวียดนาม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ ในระหว่างวันที่ 13 – 15 กันยายน 2548 ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลาก และโคลนถล่ม ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามบริเวณที่ลาดเชิงเขา พื้นที่ใกล้ทางน้ำไหล ในจังหวัดต่างๆ ดังนี้ จังหวัดสระแก้ว ปราจีนบุรี นครนายก ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ยโสธร อุบลราชธานี อำนาจเจิรญ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มหาสารคาม มุกดาหาร นครพนม สกลนคร ขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ เลย เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก แพร่ น่าน สุโขทัย พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี กำแพงเพชร ตาก เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน พะเยา และแม่ฮ่องสอน ดังนั้น จึงขอประกาศเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระวังภัยจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่มในระยะ 1-2 วันนี้ โดยให้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด เตรียมขนย้ายทรัพย์สิน สิ่งของมีค่าไว้ที่สูงหรือในที่ปลอดภัย หากได้รับการแจ้งเตือนจะได้อพยพหนีภัยได้ทันท่วงที ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ภัยพิบัติ กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย จึงได้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิดแล้ว โดยประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัด อำเภอ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจะได้สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันที เมื่อมีสถานการณ์เกิดขึ้น และหากพื้นที่ใดต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ทาง สายด่วน 1784 กรม ปภ. ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยทหาร มูลนิธิ อาสาสมัคร เข้าช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป--จบ--

• ข่าวกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
• ข่าวสุนทร ริ้วเหลือง
• ข่าวพายุดีเปรสชั่น
• ข่าวน้ำท่วมฉับพลัน
• ข่าวน้ำป่าไหลหลาก