บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) (“โกลว์ ”) รายงานว่าในรอบปี 2548 บริษัท มีรายได้รวม 28,596 ล้านบาท กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและค่าเสื่อมฯจำนวน 8,371 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงจำนวน 4,300 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกำไรสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 เมื่อเทียบกับปีก่อน
นายปีเตอร์ เทอร์โมท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ กลุ่มบริษัท โกลว์ ได้ชี้แจงผลประกอบการดังกล่าวว่า ”ปัจจัยบวกที่นำไปสู่ผลประกอบการที่ดีขึ้นได้แก่ ยอดขายให้แก่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมในนิคมฯมาบตาพุดที่สูงขึ้น ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและซ่อมบำรุงที่ลดลงจากการปฎิบัติการที่มีประสิทธิภาพ โดยมีปัจจัยลบมาจากต้นทุนเชื้อเพลิงถ่านหินและค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงหลักของหน่วยผลิตทั้งสองหน่วยของบริษัท โกลว์ ไอพีพี และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำกลางปี 2548 ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของผลกำไรนี้นับได้ว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการเพิ่มขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายต่อการดำเนินธุรกิจ
ในส่วนของโครงการขยายบริษัทได้มีการขยายโครงการส่วนกลุ่มธุรกิจโรงผลิตไฟฟ้าและไอน้ำร่วมกัน 2 โครงการ โดยได้เริ่มดำเนินการผลิตเมื่อเดือนมกราคมและเดือนธันวาคมปี 2548 ด้วยกำลังผลิตไฟฟ้ารวม 78 เมกะวัตต์และ ไอน้ำรวม 140 ตันต่อชั่วโมง โดยกำลังผลิตทั้งหมดมีสัญญาซื้อขายกับลูกค้าเรียบร้อยแล้ว”
“สำหรับปี 2549 ทางบริษัทคาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากการลดลงของต้นทุนเชื้อเพลิงถ่านหินและค่าขนส่ง ยอดขายไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น การเดินเครื่องตามปกติของ โกลว์ ไอพีพี โดยที่จะไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงหลัก (จนถึงปี 2551) รวมทั้งต้นทุนการเงินที่ลดลงจากการปรับโครงสร้างหนี้ (refinancing) ของบริษัท โกลว์ ไอพีพี ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สำหรับระยะกลาง (ภายใน 5 ปีข้างหน้า) ทางบริษัทคาดว่าธุรกิจจะเติบโตต่อไปด้วยการเพิ่มขึ้นของยอดขายแก่ลูกค้าอุตสาหกรรม ตามการเติบโตของกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งจะนำไปสู่การขยายกำลังการผลิตในกลุ่มธุรกิจโรงผลิตไฟฟ้าและไอน้ำร่วมกัน และการเติบโตของธุรกิจ ไอพีพี ซึ่งเงินลงทุนสำหรับรองรับการเติบโตดังกล่าว จะได้มาจากกระแสเงินสดระยะยาวที่มั่นคงของกลุ่มโกลว์”
นายสุทธิวงค์ คงสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการเงิน กล่าวเพิ่มเติมว่า “สืบเนื่องมาจากผลประกอบการของบริษัทในปี 2548 รวมถึงเงินสดเพิ่มขึ้นที่ได้มาจากการปรับโครงสร้างหนี้ของ บริษัท โกลว์ ไอพีพี และนโยบายในการจัดการเงินเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทางคณะกรรมการของบริษัทได้มีการเสนอให้บริษัทจ่ายเงินปันผลประจำปีประมาณ 3,300 ล้านบาท หรือประมาณหุ้นละ 2.25 บาท ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวยังต้องรอ มติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นก่อน ซึ่งการจ่ายเงินปันผลในระดับที่สูงขึ้นครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบต่อการเติบโตของบริษัทในอนาคตเนื่องจากทางบริษัทมีแหล่งเงินทุนเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตเพียงพอ นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทยังได้อนุมัตินโยบายในการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล โดยจะพิจารณาจากผลประกอบการในรอบ 6 เดือน ซึ่งจะเริ่มจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลดังกล่าวในปี 2549 เป็นต้นไป ทั้งนี้ในระยะยาวกลุ่มบริษัทโกลว์จะจัดการให้มีโครงสร้างเงินทุนที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างมูลค่า สูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท”
เกี่ยวกับโกลว์ พลังงาน
บริษัท โกลว์ พลังงาน เป็นบริษัทหนึ่งในกลุ่มโกลว์ ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจด้านพลังงานรายใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศ โดยมีกำลังผลิตไฟฟ้าทั้งสิ้น 1,708 เมกะวัตต์ และมีกำลังผลิตไอน้ำทั้งสิ้น 967 ตันต่อชั่วโมง
กลุ่มบริษัทโกลว์ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้กับ บริษัท กฟผ.จำกัด (มหาชน) (กฟผ.) ภายใต้สัญญาการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) และผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) รวมทั้งผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และน้ำเพื่อการอุตสาหกรรม ให้กับบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมมาบตาพุดและนิคมใกล้เคียง
SUEZ Energy International เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท และเป็นสายงานธุรกิจหนึ่งของกลุ่มสุเอซ ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมและบริการด้านพลังงานระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสุเอซ หรือ SUEZ Energy International ได้ที่ เวบไซต์ของบริษัท www.suez.com และ www.suezenergyint.com สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มบริษัทโกลว์ ที่เวบไซต์ www.glow.co.th
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อ
นายศิโรตม์ วิชยาภัย
บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน)
โทร. 02-670-1500
Email :
[email protected]จบ--