ผู้เลี้ยงกุ้งลุกฮือกระทรวงพาณิชย์ หลังยื่นหนังสือแล้วไร้คำตอบ ขีดเส้นตายต้องฟ้องWTO ภายใน 3 วัน ประกาศพร้อมบุกกรุงเทพฯ หากไม่ดำเนินการ ย้ำชัดปัญหาตลาด-ปากท้อง ไม่เกี่ยวการเมือง
นายเอกพจน์ ยอดพินิจ ประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า หลังจากที่ผู้แทนชมรมผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดต่างๆ กลุ่มผู้เลี้ยงกุ้ง และตนเอง ได้เดินทางมายื่นหนังสือเปิดผนึกถึง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ให้เร่งดำเนินการยื่นฟ้องต่อองค์การการค้าโลก (WTO) กรณีที่สหรัฐอเมริกาทำผิดกฎการค้าโลก เก็บภาษีซ้ำซ้อน มีเจตนากีดกันการค้า และมีกำหนดให้ยื่นฟ้องภายใน 30 วัน แต่กลับไม่มีการดำเนินการใดใด ขณะนี้ก็ครบ/เลยกำหนดมาแล้ว ก็ไม่ได้รับการติดต่อหรือยืนยันใดๆจากพาณิชย์ ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญ รัฐไม่พยายามช่วย มีแต่จะเอื้อสหรัฐฯเรื่องเอฟทีเอ ซึ่งถ้าไม่เร่งแก้ไขกุ้งไทยพังแน่
“นี่เวลาก็ล่วงเลยมากว่า 30 วัน ที่พวกผมได้ยื่นหนังสือให้กระทรวงพาณิชย์ ดำเนินการฟ้องสหรัฐฯ ต่อองค์การการค้าโลก ฐานทำผิดกฎการค้าโลก เก็บภาษีซ้ำซ้อน (Double Taxation) แต่ไม่ได้รับการติดต่อใดๆจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเลย พวกผมผิดหวังกับการทำงานเช่นนี้มาก ทุกคนยังกินเงินเดือนภาษีประชาชนอยู่ ต้องทำงานเต็มที่จะอ้างว่าการเมืองไม่นิ่งคงไม่ได้ เพราะเรื่องการตลาด เรื่องปากท้องประชาชนต้องเดินต่อไป วันนี้หากปัญหาความไม่เป็นธรรมทางการค้านี้ไม่ได้รับการแก้ไขเร่งด่วน อนาคตอุตสาหกรรมกุ้งไทยแย่แน่ เพราะผู้ส่งออกกุ้งส่วนใหญ่คงหมดตัวเสียก่อน ไม่มีเงินมาซื้อกุ้งจากผู้เลี้ยง เนื่องจากต้องเอาเงิน เอาเครดิตวงเงินของตนที่มีจำกัดไปวางซีบอนด์ค้ำประกันภาษีเอดีโหด ที่ต้องทับถมลงไปเรื่อยๆ แบบไม่เต็มซักที แถมไม่รู้เมื่อไรจะได้คืน คงมีแต่ผู้ส่งออกบางรายเท่านั้นที่อยู่ได้ แต่ที่เหลือตายหมดสุดท้ายปัญหาทั้งหมดก็ไม่พ้นพวกเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง และส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องกว่า 1 ล้านครอบครัว ที่จะได้รับผลกระทบ อยากให้ภาครัฐโดยกระทรวงพาณิชย์ เร่งดำเนินการยื่นฟ้องสหรัฐฯ ต่อ WTO ภายใน 3 วัน เพราะเสียเวลาไปมากแล้ว มิฉะนั้น ผู้เลี้ยงกุ้งทั่วประเทศคงต้องเดินทางมากระทรวงพาณิชย์ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมครั้งใหญ่ และร่วมคัดค้านการเปิดเอฟทีเอให้สหรัฐอย่างถึงที่สุด ขอยืนยันว่า การมาชุมนมนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่ก็ไม่ปิดกั้นหากทางผู้เลี้ยงจะอยากไปร่วมชุมนุม เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล” นายเอกพจน์ กล่าวทิ้งท้าย
ราคากุ้งปัจจุบัน (ณ วันที่ 29 มีนาคม 2549) กุ้งขาวขนาด 50 ตัว/กก. ราคา 160 บาท/กก. ขนาด 60 ตัว/กก. ราคา 140 บาท/กก. ขนาด 70 ตัว/กก. ราคา 130 บาท/กก. และขนาด 80 ตัว/กก. ราคา 120 บาท/กก. ตามลำดับ ขณะที่รายงานข้อมูลการส่งออกของไทยรวม ช่วง 2 เดือนแรก ปี 2549 (มกราคม – กุมภาพันธ์ 2549) ที่รวบรวมได้จากกรมศุลกากร ปริมาณรวม 38,759 ตัน มูลค่า 10,051 ล้านบาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
นายเอกพจน์ ยอดพินิจ
ประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งสุราษฎร์ธานี
โทร. 01-9566611.
